ตอนที่ 806 รีบคว้าโอกาสเอาไว้
เจ้าเมืองชิงโจวไม่กล้าเอ่ยปากขัดขวางในคำสั่งของฉินโจว เมื่อนางมาแสดงถึงสถานะของตัวเองแล้วนั้น อีกทั้งยังได้กล่าวว่าเป็นคำสั่งของอ๋องซื่อเจิ้งให้มาดำเนินการ ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อ แต่เขาก็เข้าขู่เข็ญคุกคาม จำนวนของทหารที่อยู่ในจวนชิงโจวเมื่อรวมขึ้นมาแล้วก็ยังได้แค่ไม่กี่ร้อยคน จะไปสู้รบกับคนอื่นได้อย่างไร?
ต่อให้ช่วงใกล้มานี้ที่ได้ไปตั้งค่ายทหาร ก็เอาจ้าวโจวมาได้ คนถูกควบคุมตัวเอาไว้แล้ว จะออกไปขอความช่วยเหลือจากทหารได้อย่างไร?
ในจังหวะที่ระอาใจอยู่นั้นเอง เจ้าเมืองชิงโจวก็ทำได้แค่เพียงทำไปตามคำสั่งของฉินโจว
อ๋องหนานหวยอยู่ในชิงโจวจริง ๆ อีกทั้งตัวเขาเองก็รู้ ถ้าหากว่าจับซือถูเย้นและเสี้ยหลีโม่ไม่ได้ เขาเองก็จะหมนหนทางที่จะกลับไปยังแดนหนานโก๋ว ถ้าหากว่าปรากฏตัวขึ้นที่แดนหนานโก๋ว ก็จะถูกสายลับของซือถูเย้นพบเข้า ไม่มีคนของตัวอยู่ในมือ เขาก็เป็นเพียงแค่เนื้อที่อยู่บนเขียง ที่รอวันให้คนมาสับเป็นชิ้น ๆ
ดังนั้น เขาได้ออกคำสั่งให้ทุกคนไปตามหาซือถูเย้นและเสี้ยหลีโม่
ฝนห่าใหญ่ตกมาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่ที่ซือถูเย้นไปช่วยเสี้ยหลีโม่ ก็ถึงอีกวันในตอนเวลาค่ำคืนแล้ว โดยที่ฝนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง
ค้นหาผู้คนท่ามกลางพายุฝน ทัศนียภาพเห็นไม่ชัดแบบนี้ เดิมทีไร้หนทางที่จะหาได้พบ จวบจนที่ฝนหยุดลงในตอนพลบค่ำ เขาถึงได้เริ่มลงมือค้นหา
ชิงโจวใหญ่เพียงแค่นี้ เขาไม่เชื่อว่าซือถูเย้นที่ได้รับบาดเจ็บจะหนีรอดไปได้
แต่อย่างไรก็ตาม วันถัดมาในตอนกลางดึก ก็ยังไม่มีข่าวคราวเลยสักนิด
“ท่านอ๋อง ฉินโจวพาคนมาถึงแล้ว”ชายชุดดำคนหนึ่งตรงขึ้นมารายงาน
สายตาของอ๋องหนานหวยเยียบเย็น “พามามากน้อยแค่ไหน?”
“คาดว่าน่าจะสองถึงสามพันคน ได้ควบคุมจวนชิงโจวเอาไว้ได้แล้ว”
อ๋องหนานหวยรู้สึกว่าไม่น่าจะมีทางเป็นได้ได้ “ฝนที่ตกหนักไม่หยุดแบบนี้ ฉินโจวมาได้อย่างไร?”
“น่าจะมาทางบกพ่ะย่ะค่ะ”
“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้จากจ้าวโจวมาลงเรือที่ท่าหมู่บ้านหลัว ปีนเขาข้ามมา ก็ยังต้องใช้เวลาอีกวันกว่า ๆ ถึงจะมาถึงยังชิงโจว พายุฝนเช่นนี้ ไม่มีทางที่จะเดินเท้ามาได้ พวกเขามาได้ไวขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?”
พายุฝนรุนแรงไม่อาจจะจะเดินทางขึ้นเขามาได้ อีกทั้งครั้งนี้รุนแรงมากนัก บดบังวิสัยทัศน์ ต่อให้ในมือเขามียอดฝีมืออยู่ แต่ท่ามกลางลมมรสุมเช่นนี้ ก็ยากที่จะนำทัพได้
โดยเฉพาะในสองวันนี้ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนล้วนมืดมิด ไม่อาจจะถือคบเพลิงได้ ถ้าติดตามมาในทางมืดสนิทแบบนี้ อย่างน้อยเลยก็ต้องใช้เวลาถึงสามวัน
ชายในชุดดำพูดขึ้น “กระหม่อมก็รู้สึกว่าน่าแปลกยิ่งนัก พายุห่าฝน มาทางน้ำไม่ได้ นางพาคนมาก็มาได้แค่ทางบกเท่านั้น”
“นายท่านล่ะ?”อ๋องหนานหวยถามถึง
“เขาบอกว่าจะไปฝังศพของแม่นางลู่ยีด้วยตนเอง น่าจะกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อซือถูเย้นช่วยเสี้ยหลีโม่ไปได้แล้วหลังจากนั้น พวกเขาก็รีบเปลี่ยนที่อย่างรวดเร็ว พบเข้ากับที่พักขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่พักของพวกคนร่ำรวยใน ชิงโจว พวกเขายึดสถานที่เอาไว้ได้ โดยควบคุมตัวครอบครัวคนมีเงินนั้นเอาไว้ ยึดเอามาเป็นรังบัญชาการของตนเอง
อ๋องหนานหวยยืนหยุดอยู่ที่ปากประตูห้องที่ซางชิวพัก เขาหายใจหนัก ๆ ถึงได้ผลักประตูเข้าไป
ซางชิวเพิ่งกลับมาจริง ๆ ที่รองเท้ายังมีโคลนสีน้ำตาลพอกเอาไว้เป็นชั้นหนาเตอะ ที่ตามพื้นก็มีรอยรองเท้าที่เหยียบติดโคลนมา
ซางชิวนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือถือจอกกระเบื้องลายดอกไม้ เรียวนิ้วมือสั่นระรัว น้ำร้อนที่อยู่ในจอกมีไอพวยพุ่งออกมา ใบหน้าของเขาตกอยู่ภายใต้ไอน้ำนั้น ดูเหมือนกำลังนิ่งตะลึงไป
เมื่อเห็นอ๋องหนานหวยเข้ามา เขาวางจอกในมือลงแล้วหยัดกายลุกขึ้น “ท่านอ๋อง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...