ตอนที่ 807 ค่ายกลกระบี่ด้านนอกวัดเจ้าพญามังกร
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ซางชิวเดินออกมาจากห้องรับรอง อ๋องหนานหวยยืนคอยอยู่ที่ประตู เขายื่นเซียมซีให้กับอ๋องหนานหวย
เขาติดตามอ๋องหนานหวยมานาน ทุกครั้งที่มาดูดวง ซางชิวจะอธิบายตลอด เพราะเช่นนั้นเขาจึงมีความรู้ด้านทำนายหกสิบสี่ทำนายค่อนข้างดี
เพียงแค่ครึ่งชั่วยาม แต่ซางชิวแก่ลงเยอะมาก ผมข้างแก้มขาวไปหมด เห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังจิตมากมายในการล่วงรู้ความลับสวรรค์
“นี่คือที่ซ่อนตัวของซือถูเย้น ชัดเจนมากขอรับ อีกทั้งข้าน้อยได้ทำนายให้ท่านอ๋อง นางอ๋องสามารถเลือกที่จะรับรู้หรือไม่รับรู้ก็ได้ขอรับ” ซางชิวพูดด้วยความเหนื่อยล้า จากนั้นก็ยื่นกระดาษอีกใบให้ท่าน
อ๋องหนานหวยรับใบแรกมา แล้วเปิดดู จากนั้นก็เก็บเข้าไปในแขนเสื้อ
หลังจากนั้น เขาก็มองไปที่ใบที่สอง แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เฉยเมย “ไม่ต้องแล้ว ชะตาของข้าขึ้นอยู่กับข้า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสวรรค์”
มือของซางชิวค่อยๆ หดกลับ แล้วถอนหายใจเบาๆ “ในเมื่อท่านอ๋องมั่นใจในตนเองเช่นนี้ ข้าน้อยเองก็จะไม่บังคับแล้วขอรับ”
เขายกมือขึ้น “ข้าน้อยขอตัวขอรับ ท่านอ๋องโปรดระวังตัวดีๆ ขอรับ”
“ไม่รีบ รอให้จับซือถูเย้นได้ก่อน ท่านค่อยไปก็ยังไม่สาย” อ๋องหนานหวยพูด
ซางชิวมองเขา ในแววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “ท่านอ๋องขอรับ ข้าน้อยรับใช้ท่านมาแสนนาน ไม่มีความดีก็มีความขยัน ได้โปรด.......”
อ๋องหนานหวยขัดจังหวะ ยิ้มแล้วพูด “ท่านพูดอันใดกัน? ท่านช่วยเหลือข้ามานาน บุญคุณเท่าบิดามารดา ข้าย่อมดูแลท่านเป็นอย่างดีแน่นอน”
พูดจบ เขาก็ยกมือขึ้น แล้วเรียกคนมาสองคน แล้วพูด “ส่งท่านกลับห้อง ดูแลอย่างเคร่งครัด อย่าให้โจรมาลอบทำร้าย”
พูดจบ เขาก็เดินออกไปเลย
ณ วัดเจ้าพญามังกร เป็นที่ไว้สำหรับซ่อนตัวที่ดีเลยล่ะ ชิงโจวมีวัดเจ้าพญามังกรอยู่แห่งหนึ่งจริงๆ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของชิงโจว แต่มีคนอาศัยอยู่น้อย แถมยังต้องเดินข้ามภูเขา คืนนั้นฝนตกหนักมาก พวกเขายังสามารถข้ามไปพร้อมบาดเจ็บได้ ถึงว่าทำไมถึงหาไม่เจอ
เขาส่งคนไปตรวจสอบก่อน ฉินโจวอยู่จวนชิงโจว ก่อนที่จะแน่ใจที่อยู่ของซือถูเย้น เขาไม่มีทางไปตามหาอย่างเปิดเผยหรอก
ผ่านไปสองชั่วยาม สายสืบกลับมา พบเห็นว่าที่วัดเจ้าพญามังกรมีคนอยู่จริง
อ๋องหนานหวยได้ยินเช่นนี้ ก็ค่อยๆ ยกนิ้วขึ้น แล้วเคาะเบาๆ ที่โต๊ะ จากนั้นก็ถอนหายใจเบาๆ “ท่านนั้นราวกับเทพเซียนเลย”
เขาลุกขึ้น แล้วพูดต่อ “น่าเสียดายนัก น่าเสียดายจริงๆ”
หลังจากที่เขาไปแล้ว ข้างหลังเดินตามมาสี่คน แล้วเปิดประตูของซางชิวออก
ซางชิวนั่งอยู่บนเก้าอี้ ราวกับขี้เถ้าที่ไม่มีชีวิต แววตาสีเทาของเขาค่อยๆ เงยขึ้นมามอง กลับเป็นแววตาที่เสียดสี “ท่านอ๋องขอรับ คำทำนายผิดหรือขอรับ?”
“ท่านนั้นช่างเป็นผู้รอบรู้แท้ ข้าขอแสดงความนับถือ!” อ๋องหนานหวยยิ้มแล้วพูด
“ฉินโจวไปถึงชิงโจวแล้ว ถึงจะรู้ที่ซ่อนตัวของอ๋องซื่อเจิ้ง แล้วท่านอ๋องจะทำอะไรได้หรือ?” ซางชิวพูด
“ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้ามีวิธีของข้าเอง” อ๋องหนานหวยก้มตัวให้ซางชิวเล็กน้อย แล้วยกมือขึ้น “สองสามปีนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากท่านมากมาย ในใจของข้านั้นรู้สึกขอบคุณยิ่งนัก ไม่มีสิ่งใดจะมาตอบแทน ของชิ้นนี้ ท่านรับไว้เถอะ”
แววตาของซางชิวเริ่มจาง “ข้าน้อยไม่เคยทำนายให้ตนเองแม้แต่คราเดียว หากไม่ใช่เพราะท่านอ๋องช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าตายไปนานแล้ว ข้าเป็นคนที่เคยเกือบตาย หากทำนายอีกก็คือถึงคราวชะตาขาด แต่ว่า ก็ยังคงทนไม่อยู่ เมื่อครู่ที่ทำนายให้ท่านนั้น ข้าเองก็ทำนายให้ตนเองเช่นกัน ข้าเองรู้ดี ว่าหนีเคราะห์ไม่พ้นแน่นอน เรื่องเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าข้าจะพูดอันใด ท่านเองก็คงไม่อยากฟัง ยังมีอีกหนึ่งคำทำนาย อยู่ในแขนเสื้อของข้า หลังจากที่ข้าจากโลกนี้ไปแล้ว ท่านสามารถนำออกมาดูได้”
อ๋องหนานหวยยิ้ม “ท่านพูดอะไรกัน? ท่านอายุยืนร้อยปีแน่นอน”
จากนั้นก็หันหลัง แล้วเดินออกไปเลย
ประตูถูกปิดลงเบาๆ เขายืนอยู่หน้าระเบียง แล้วมองดูแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาในมุมห้อง สีแดงราวกับเลือด
ในห้องนั้นมีเสียงร้องเบาๆ จากนั้นก็เงียบหายไปอย่างสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...