พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 811

สรุปบท ตอนที่ 811 ต้องหนีออกไป: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

อ่านสรุป ตอนที่ 811 ต้องหนีออกไป จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บทที่ ตอนที่ 811 ต้องหนีออกไป คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 811 ต้องหนีออกไป

อ๋องหนานหวยคิดสักพัก แล้วพูดตรงๆ “ใช่ ตั้งแต่เด็ก ข้าก็ไม่ชอบเจ้า”

สีหน้าของเขาเริ่มมีความแค้น “เจ้ามักจะตีหน้าซื่ออยู่เสมอ ไม่ชอบมาเข้าใกล้ข้า ท่านแม่ก็ลำเอียงตั้งแต่เด็ก นางมักจะพูดเสมอว่า เจ้าจะเป็นฮ่องเต้ในอนาคต ให้ข้าเสียสละทุกเรื่องให้เจ้า นางมักจะคิดแทนเจ้าทุกเรื่อง แต่ที่น่าตลกคือเจ้าช่างไม่เอาไหนนัก ท่านแม่พูดว่า หากเจ้าไปแย่งสักนิด บางทีบรรพบุรุษอาจจะเลือกเจ้าก็เป็นไปได้ เจ้านะเจ้า ทำให้ความหวังของนางนั้นสูญเปล่าไปหมด”

“ข้าคิดว่าเป็นบิดามารดานั้น ขอแค่อยากให้ลูกของตนปลอดภัย หากขอมากเกินไป ก็คือความโลภส่วนตัวของเขาเอง”

“ข้าก็แค่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม หากท่านแม่เลือกข้าตั้งแต่แรก บางที ข้าอาจจะสำเร็จแล้ว นางรู้ตัวช้าเกินไป ถึงสุดท้าย ก็รีบร้อนเกินไป น่าเสียดายนัก” อ๋องหนานหวยพูดเรื่องพวกนี้ บนใบหน้านั้นรู้สึกไม่ยอม

ในใจของซือถูเย้นเอาแต่คำนวณว่าหลีโม่หนีออกไปนั้นต้องใช้เวลาแค่ไหน เพราะเช่นนั้น เขาไม่ได้ยั่วโมโหอ๋องหนานหวย แต่กลับคล้อยตามเขา “เจ้าบอกว่าตอนเจ้าเด็กข้าไม่ชอบใกล้ชิดเจ้า รู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด? ”

“เพราะเหตุใด?” อ๋องหนานหวยถาม เขาอยากรู้ว่าเพราะเหตุใด ตั้งแต่เด็ก เขาทำหน้าเฉยมาโดยตลอด ไม่ว่าตนจะพูดอะไรหรือทำอะไร เขาก็ดูเหมือนจะดูถูกเสมอ

ตามเหตุผลแล้ว คนที่ราวกับก้อนหินนั้น คงไม่รู้ใจเขา หาไม่รู้ ก็คือผิด เขาเป็นคนแรกที่เห็นแก่ความเป็นพี่น้องก่อน

ซือถูเย้นพูด “เพราะการที่เจ้ามาใกล้ชิดข้านั้น เป็นเพราะหวังผลประโยชน์ เป็นเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก ยังจำได้ไหม ตอนเจ้าอายุเจ็ดปี ตอนนั้นเสด็จพ่อพูดคุยอยู่กับเสด็จแม่ในตำหนักฝูคัง เจ้ารู้ก่อน แต่พอข้ากลับมาจากห้องหนังสือ เจ้าตั้งใจทำให้ข้าโกรธนอกห้อง ให้ข้าไล่เจ้าจนเข้าไปในตำหนัก แล้วเจอเสด็จพ่อพอดี เสด็จพ่อสอนมาเสมอว่า พี่น้องกันต้องรักกัน เห็นข้าไล่ตีเจ้า จะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร? นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าโดนเสด็จพ่อตี ตั้งแต่นั้นมา ข้าจึงออกห่างเจ้า เบื้องหลังรอยยิ้มที่น่ารักและเด็กดีของเจ้านั้น ซ่อนเรื่องราวแย่ๆ ไว้ตั้งมากมาย”

อ๋องหนานหวยยิ้ม เขายื่นมือไปปัด ฝุ่นจากข้างนอกลอยเข้ามา ทำให้เขาคัดจมูกเล็กน้อย “ใช่สิ ครั้งนั้นข้าตั้งใจ หลังจากนั้นอีกหลายๆ ครั้ง ข้าก็ตั้งใจ ข้าแค่อยากให้เสด็จพ่อรู้ ว่าลูกที่ท่านคิดว่าดีนั้น จริงๆ แล้วแย่มาก ข้าตั้งใจทำดีกับเจ้า เพื่อให้เจ้าหลงกลข้า”

เจ้าบอกว่าตั้งแต่นั้นมา เจ้าก็เริ่มรักษาระยะห่างกับข้า แต่ว่า เจ้าเปล่า เจ้ายังคงหลงกลข้าเสมอ เพียงแค่ข้าแกล้งทำดี เจ้าก็จะหลงกลทุกครั้ง ข้าในตอนนั้น ไม่รู้ว่าเจ้ารู้ธาตุแท้ของตน เพียงแค่เห็นเจ้ามองข้าด้วยแววตาที่เกลียดแค้น ข้าก็ยิ่งอยากให้เจ้าทำพลาดต่อหน้าเสด็จพ่อ ให้เสด็จพ่อผิดหวัง

การพูดคุยกันครั้งนี้ เหมือนเป็นการคิดบัญชี พี่น้องสองคน ความแค้นตั้งแต่เด็กจนโต ตอนนี้ถือว่าคิดบัญชีกันแล้ว จึงไม่มีความเยื่อใยใดๆ หลงเหลืออีก

แต่ว่า ซือถูเย้นที่ยื้อเวลาในตอนแรกนั้น พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็เศร้าเล็กน้อย กับเจ้าแปดแล้ว ตั้งแต่เด็กเขาไม่ค่อยดูแลจริงๆ แต่ว่า คนอื่นต่างก็ดูออก เขาสนใจน้องชายคนนี้ไม่น้อยเหมือนกัน

เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ เขาเห็นความสำคัญของครอบครัวเป็นใหญ่ แต่ความเย็นชาที่มีต่อเขานั้น มันเป็นเพราะว่าความผิดหวังมากกว่าความไม่ใส่ใจ

อ๋องหนานหวยกัดฟันแล้วพูดต่อ “ทุกคนต่างชมว่าเจ้าเก่ง แต่ว่าเจ้าไม่ใช่องค์ราชทายาท แต่กลับมีคนตั้งมากมายที่กล้าพูดว่าเจ้ามีพรสวรรค์ที่จะเป็นกษัตริย์โดยไม่เกรงกลัวใดๆ ข้าจะยอมได้อย่างไร? ผู้อื่นไม่รู้ แต่ข้ารู้ ข้ารู้ว่าจิตใจของเจ้านั้นไม่โหดเหี้ยมพอ เจ้าจะเป็นฮ่องเต้ได้อย่างไร? เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ถึงจะเก่งกาจกว่าทุกด้าน แต่กลับไม่เหมาะกับการเป็นฮ่องเต้เท่าเขา เขาสามารถทอดทิ้งคนที่ตนเองรักโดยไม่ลังเลใดๆ เพียงแต่ว่า เขาก็โดนยาพิษของบรรพบุรุษ อย่าว่าแต่พี่น้องเลย หากข้าเป็นเขา ข้าจะฆ่าเจ้าไปนานแล้ว บัลลังก์นี้ถึงจะมั่นคง หากเจ้าตายแต่แรก ตอนที่เขาป่วยหนัก ข้าก็จะได้สำเร็จการใหญ่ แต่เสียดาย เสียดายนัก!”

เขาส่ายหน้าไปมา สีหน้าเต็มไปด้วยความแค้น แค้นซือถูเย้น แค้นฮ่องเต้ และแค้นสวรรค์ หากมีคำว่าถ้าหากจริงๆ เขาก็คงจะสำเร็จการใหญ่แล้วล่ะ

สวรรค์ไม่อยู่ข้างเขา แม้แต่ซุนฟางเอ้อร์และซางชิวที่เขาเห็นความสำคัญนั้น ต่างก็หักหลังเขา

เขาแย่งสุรามาจากมือของซือถูเย้น จากนั้นก็ดื่มจนหมด และโยนลงบนพื้นด้วยความแรง สุราที่เหลือกับกาน้ำตกแตกกระจายไปทั่ว แล้วกระเด็นใส่หลังมือของซือถูเย้น

“วันนี้ ไม่ใช่เจ้าตาย ก็คือข้าตาย แต่ว่าไม่ว่าเจ้าหรือข้าตาย แต่เพราะพิษท่งหมิง สุดท้ายแล้วพวกข้าก็ไม่มีใครรอดไปได้”

พุ่งไปทางลงเขาโดยตรง ทางค่อนข้างจะเรียบ หลีโม่ใช้แรงเฆี่ยนม้า เพื่อที่จะได้ออกห่างคนที่มาตาม

นางหนีเร็วเท่าชีวิต เหมือนมีผลไปในทางที่ดี ม้ารู้สึกถึงความรน และความอยากรอดตัวของนาง หรืออาจจะเพราะว่าโดนเฆี่ยนตีจนเจ็บ จึงวิ่งราวกับบิน

มีอาวุธลับลอยมา ผ่านหูไป มีเลือดร้อนไหลออกมา และด้านหลังก็รู้สึกเจ็บปวดมาเป็นระยะระยะ นางไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่อยากรีบไปให้ถึงจวนชิงโจว หากฉินโจวมาถึง นางและไอ้เจ็ดจะได้รับความช่วยเหลือ

ความเจ็บปวดด้านหลังรุนแรงมากขึ้น นางรู้สึกถึงตนเองเสียเลือดไปมาก เริ่มรู้สึกเวียนศีรษะ นางพยายามต่อต้าน ในใจไม่ยอมแพ้แม้แต่น้อย และสติก็ยังคงอยู่

ป่าไม้ที่อยู่ทางข้างๆ นั้นล้มไปทางด้านหลังด้วยความเร็ว ทุกอย่างเหมือนเป็นภาพเคลื่อนไหว ทางสีเหลืองนั้นดูแล้วเหมือนสายรัด บินไปทางด้านหลังอย่างไม่หยุดหย่อน

ด้านหลัง มีเสียงม้าดังขึ้นไม่หยุดหย่อน พยายามหลบหนีอาวุธลับของฝ่ายตรงข้าม ถึงจะมองไม่เห็น แต่ว่า นางรู้สึกได้ว่าข้างหลังของตนเองนั้นคงกลายเป็นเหมือนสตรอเบอร์รี่ ที่เต็มไปด้วยเลือด

ในที่สุดก็มาถึงถนนกลาง ม้าวิ่งเร็วกว่าเดิมอย่างบ้าคลั่ง กระตุกจนหลีโม่รู้สึกไม่ค่อยดี นางคิดอยู่อย่างเดียว ก็คือต้องหนีไปเพื่อลูก

นางนึกถึงไอ้เจ็ด เจ็บจี๊ดในหัวใจ แต่เป็นเพราะความเจ็บนี้ ทำให้นางรู้สึกมีสติตลอดเวลา

ด้านหน้านั้น มีควันลอยเต็มไปหมด และเสียงเท้าม้าก็ดังสนั่น หลีโม่ตกใจ ทำตาหยีก็ไม่สามารถมองเห็นว่าด้านหน้านั้นเป็นใคร ได้แต่คิดว่า หากด้านหน้าเป็นคนของอ๋องหนานหวย วันนี้นางและลูกก็คงต้องตาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม