พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 817

สรุปบท บทที่ 817 ชิงโจวที่คึกคัก: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

บทที่ 817 ชิงโจวที่คึกคัก – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 817 ชิงโจวที่คึกคัก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 817 ชิงโจวที่คึกคัก

อ๋องหนานหวยชนกำแพงอย่างคนเตรียมตัวตาย อาการบาดเจ็บสาหัสมาก อู๋เยี่ยนจู่ยังส่ายหัวพูดว่า “สาหัสมาก สาหัสมาก”

ฉินโจวจะยอมให้เขาตายได้อย่างไร? รีบสั่งคนไปหามหลีโม่มา

หลีโม่ได้ยินว่าอ๋องหนานหวยบาดเจ็บสาหัส ก็รีบมาที่คุกอย่างร้อนใจมาก เห็นรอยเลือดบนกำแพง บนพื้นก็เต็มไปด้วยเลือด อ๋องหนานหวยก็หายใจรวยรินแล้ว

นางก็ไม่ทันได้คิดอะไรมาก รีบฝังเข็มห้ามเลือดให้เขา แล้วให้อู๋เยี่ยนจู่ช่วยทำแผลให้เขา

อู๋เยี่ยนจู่ทำแผลไปด้วย พูดไปด้วยว่า “พระชายาช่างกล้าหาญจริงๆ จุดสะกดพวกนี้สะกดไว้แล้ว สามารถหยุดเลือดได้ แต่หากเป็นคนปกติทั่วไป คงเสียชีวิตไปแล้ว”

เพราะหนึ่งในจุดที่เขาสะกด ด้านข้างก็คือจุดชีวิต สะกดไว้ก็ถือเป็นอันตราย หากเป็นคนฝึกวรยุทธ พลังจิตภายในจะค่อยๆช่วยเยียวยา ไม่เป็นอันตราย หากเป็นคนปกติธรรมดา คงช่วยไว้ไม่ได้แล้ว

หลีโม่ก็ไม่มีแก่ใจอธิบายให้เขาฟัง มัวฝังเข็มให้อ๋องหนานหวยต่อ

นางเคยเห็นการใช้วิชาฝังเข็มในสมุดบันทึกของหมอเวินยี่ ไม่ได้ใช้นาน ตอนนี้กลับต้องมาใช้บนร่างของอ๋องหนานหวย

เพียงแต่นางยังบาดเจ็บอยู่ ใช้วิชาฝังเข็มเป็นการอาศัยความรวดเร็วและความอ่อนไหวของข้อมือ ใช้วิชาฝังเข็มเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว นางก็เหงื่อไหลท่วมตัวแล้ว ร่างกายค่อยๆอ่อนแรงลง

ฉินโจวรีบประคองนางไว้ ในใจโกรธเคืองมาก หากไม่ใช่เพราะพิษท่งหมิง นางคงหั่นอ๋องหนานหวยเป็นชิ้นๆแล้ว

“ชีวิตถึงว่ารักษาไว้ได้แล้ว”ถึงหลีโม่จะเหนื่อย แต่ก็รู้สึกภูมิใจ ไม่ใช่เพราะได้ช่วยอ๋องหนานหวย แต่เป็นเพราะนางได้ทำการทดลองบนร่างอ๋องหนานหวย นางสามารถใช้วิชาฝังเข็มได้สำเร็จแล้ว

เช่นนี้ สักพัก ก็สามารถใช้ได้กับไอ้เจ็ด

นางหายใจยาวๆหนึ่งที เงยหน้าหันไปพูดกับอู๋เยี่ยนจู่ว่า “หมออู๋ รบกวนท่านเฝ้าดูให้หน่อย หากเกิดอาการผิดปกติอะไร ค่อยมาบอกข้า”

อู๋เยี่ยนจู่เบิกตาโตมาก ทั้งเนื้อทั้งตัวอยู่ในอาการตกใจ

“หมออู๋……”

อู๋เยี่ยนจู่รู้สึกตัวอีกที ใช้สายตาที่ซับซ้อนมองดูหลีโม่ “ได้ รับทราบ พระชายา”

“เจ้าเหม่อลอยอะไร?”ฉินโจวพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ

หมออู๋ส่ายหัว “ข้าเลื่อมใสในตัวพระชายา”

เลื่อมใส เป็นแค่คำพูดตามมารยาท

ความรู้สึกของไอ้อู๋สับสนวุ่นวายมาก น่าตาดี และเป็นถึงพระชายา เป็นคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว ยังมีความรู้วิชาการฝังเข็มที่ชำนาญขนาดนี้ หากพระชายาออกมาท่องยุทธภพ เขาก็จะไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว

ฟ้าสวรรค์ช่างลำเอียง

ที่สำคัญที่สุดคือ เงินรางวัลของเขายังจะมีอยู่ไหม?

ตอนที่ฉินโจวประคองพาหลีโม่ออกไป ก็ได้ยินหมออู๋ถามจิ่งว่า “ที่ วันนั้นท่านพูดว่า เงินรางวัลจะให้เมื่อไหร่?”

ฉินโจวหันกลับไปมองแว๊บหนึ่ง อู๋เยี่ยนจู่คนนี้ กับใครก็ไม่เรียกว่าท่าน มีเพียงจิ่งคนเดียวที่ใช้ ท่านคำนี้ เงินเป็นพระเจ้าจริงๆ

“มี เงินรางวัลจะต้องมีแน่”จิ่งพูดขึ้นอย่างขอไปที

หลีโม่กลับมาถึงห้อง พักแปบหนึ่ง แล้วก็ฝังเข็มให้ซือถูเย้นอีกครั้ง

ฉินโจรู้สึกว่านางเหนื่อยมาก ให้นางพักผ่อนอีกสักหน่อย หลีโม่กลับไม่ยอม ยืนยันที่จะฝังเข็มให้ซือถูเย้น

หลังจากฝังเข็มแล้ว อาการของซือถูเย้นก็ดีขึ้นมามาก ชีพจรไม่ดูอ่อนแรง ลมหายใจก็ค่อยๆราบรื่น

นางกำนัลข้างหลังศาลาว่าการต้มยาให้ซือถูเย้น ฉินโจวช่วยป้อนให้เขาดื่ม

ซือถูเย้นมีจิตปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่อย่างแรงกล้า ต่อให้ยังสลบอยู่ ก็ไม่ได้ต่อต้านในการทานยา ดังนั้นยาถ้วยหนึ่งจึงไม่ได้หก ทิ้งอย่างมากมาย ดื่มลงไปแล้วกว่าครึ่ง

อู๋เยี่ยนจู่ช่วยหลีโม่ต้มยาบำรุงครรภ์ เขารู้ดี รักษาอาการบาดเจ็บเขาทำอะไรไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆ ดูแล้วเหมือนจะมีความสำคัญอย่างมาก แต่จริงๆแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะยาบำรุงครรภ์หลีโม่ก็สามารถสั่งได้

แต่เมื่อหลีโม่เห็นเขาเขียนสูตรยาแล้ว ก็รู้สึกผิดมาก ชมเขาว่าอย่างมากมาย แล้วดื่มยาที่เขาต้มมาจนหมด

ฝังเข็มทุกวันอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด ช่วงเช้าวันที่ 3 ซือถูเย้นฟื้นขึ้นมาแล้ว

เขาสลบไป เก้าวันเต็มๆ

ผู้หญิงทั้งสามคนไม่รอช้า ตรงเข้าไปหาหลีโม่เลย

หลิงลี่เห็นหลี่โม่ไม่เป็นอะไร ปกติที่เย็นชาอย่างหลิงลี่ก็น้ำตาไหล “ข้าคิดว่าข้าทำให้เจ้าตาย เจ้ายังไม่ตายเป็นเรื่องที่ดีมากเลย”

หลีโม่ก็เป็นห่วงหลิงลี่มาตลอด ตอนนี้เห็นนางยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองด้วยตัวเป็นๆ ก็วางใจแล้ว ยิ้มพูดว่า “ข้าก็คิดว่าเจ้าตายแล้ว เจ้ายังไม่ตายเป็นเรื่องที่ดีมาก”

ซือถูจิ้งพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “เอาล่ะ ต่างก็ไม่ตาย เก็บอารมณ์กันหน่อย”

นางไปดูอาการหลีโม่ก่อน แล้วค่อยไปนั่งอยู่ด้านข้างเตียงหลีโม่ พูดขึ้นอย่างเป็นห่วงว่า “ผอมไปตั้งเยอะ เวรกรรม”

ซือถูเย้นยิ้มพร้อมพูดว่า “ทำให้ท่านอาเล็กต้องเป็นห่วงแล้ว”

ซือถูจิ้งพูดว่า “แค่เป็นห่วงที่ไหน? ตกใจแทบตาย”

นางเอามือกุมหน้าอก “ดีที่ฉินโจวรู้หน้าที่ รีบส่งคนมารายงาน ไม่อย่างนั้นยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทรมานอีกกี่วัน?”

หมอโหรวเหยาคนนี้ ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ดูทุกคนก็อาการดีขึ้นมากแล้ว ข้ากับท่านอ๋องมาเสียเที่ยวจริงๆ”

คำนี้ จิ่งกลับไม่เห็นด้วย เขามองดูโหรวเหยาอย่างตะลึง “มาเสียเที่ยว จวนชิงโจวมีของกินอร่อยเยอะแยะมากมาย เดี๋ยวข้าพาเจ้าไปทาน”

โหรวเหยามองดูเขาแว๊บหนึ่ง สีหน้าแดงระเรื่อ “เห็นแก่กิน”

จิ่งส่ายหัว “ไม่ได้เห็นแก่กิน แต่เมื่อมีสิ่งที่ดี ก็อยากแบ่งปันให้เจ้า”

หลีโม่ได้ฟังคำนี้แล้ว ก็รู้ว่าจิ่งได้ถลำลึกแล้ว มีเพียงเจ้าหลงรักใครคนหนึ่งมากๆ ถึงจะอยากให้ฝ่ายตรงข้ามในสิ่งที่อร่อยที่สุด สนุกที่สุด

เห็นสีหน้าโหรวเหยากลายเป็นสีแดง หลีโม่กับซือถูจิ้งมองสบตากัน เห็นที โหรวเหยาก็เจอความสุขของตัวเองแล้ว

ช่างเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ

โหรวเหยามองเห็นพวกนางสุมหัวกัน หากนางไม่มีความสุข พวกเขาก็จะไม่กล้ามีความสุขอย่างเต็มที่ มักจะรู้สึกว่าขาดอะไรไปสักอย่าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม