พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 822

บทที่ 822 ฉินโจวมีคนที่ชอบ

โหรวเหยาโกรธมาก นางยังไม่ได้พูดว่าจะแต่งงานกับเขาเสียหน่อย “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? ก็แค่พูดเล่นไปอย่างนั้นเอง เจ้าคิดว่าเป็นจริงแล้วหรือ?”

พูดเสร็จ หันตัวแล้วก็เดินออกไป

จิ่งอึ้งไปแปบหนึ่ง แล้วก็รีบวิ่งไล่ตามออกไป

ทุกคนต่างก็หัวเราะกันขึ้นมา จิ่งคนนี้ช่างเป็นคนที่ตรงเสียจริงๆ คำพูดแบบนี้ทำไมถึงพูดออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้? ต่อให้โหรวเหยาจะไม่พิธีรีตองขนาดไหน แต่ก็เป็นการตกลงแต่งงานกันอย่างลับๆ ตามหลักแล้ว ใครจะไปยอมรับ?

“เจ้าต้องสอนจิ่งบ้าง เขาบุ่มบ่ามขนาดนี้ กลัวว่าเนื้อที่กำลังจะเข้าปากจะหลุดลอยออกไป” หลิงลี่หัวเราะพูดกับฉินโจว

“จนปัญญา” ฉินโจวส่ายหัว “สอนแล้วก็ไม่จำ บอกเขาแล้วว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ทำอะไรพูดอะไรก็ต้องคิดก่อน เขาก็ไม่เคยจำ”

เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว งานเลี้ยงจึงต้องเลิกรา

หลีโม่เห็นซือถูเย้นแลดูค่อนข้างเหนื่อยแล้ว จึงยิ้มพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ มาถึงขนาดนี้แล้ว แยกย้ายกันเถอะ ต่างคนต่างกลับห้อง คนที่มีความรัก ก็ไปหามุมพลอดรักกันเถอะ”

นี่เป็นการพูดถึงซือถูจิ้งกับเซียวเซียวอย่างชัดเจน ก่อนทานข้าวทั้งสองคนก็ได้คุยกันแล้ว ว่าจะออกไปเดินเล่น ชมวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของหมู่บ้าน หลีโม่ที่อยู่ด้านข้างได้ยินเข้า

ซือถูจิ้งเหลือกตามองดูหลีโม่ “ทำไมพูดมากขนาดนั้น? นี่บาดแผลเพิ่งหายเอง ก็เริ่มปากดีแล้วใช่ไหม?”

“อยากกินปูร้อนท้องสิ ไม่ได้พูดถึงพวกเจ้าเสียหน่อย ข้าหมายถึงว่าข้าออกไปเดินกับฉินโจวเล่นไม่ได้หรือ?” เดิมหลีโม่แค่อยากพูดล้อเล่น เพราะสองวันนี้ทุกคนต่างก็ค่อนข้างเหนื่อย นางจึงคิดไม่ได้ขึ้นมาในทันใดว่าฉินโจวมีความรู้สึกที่ดีต่อนาง แล้วก็พูดออกไปแบบนั้น

หลังจากที่พูดออกไปแล้ว นางเองก็อึ้งไปสักพัก แล้วก็หันไปมองดูฉินโจว ฉินโจวกลับถือจอกเหล้าไว้ เหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำว่าคนที่มีความรักคำนั้น

ต่างคนต่างก็กลับห้องตัวเองไป หลีโม่พูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดว่า “เมื่อกี้ข้าพูดจาผิดไป”

สีหน้าซือถูเย้นค่อนข้างแดง อาการบาดเจ็บของเขาเพิ่งหาย คืนนี้กลับดื่มไปสองแก้วตามอำเภอใจ หลีโม่รู้ว่าในใจเขามีความสุข จึงไม่ได้ห้ามเขา

ได้ยินหลีโม่พูดเช่นนี้แล้ว ซือถูเย้นคิดอยู่แปบหนึ่ง “ข้าคิดว่า เจ้าลองไปคุยกับนางไหม ดูซิว่านางจะปล่อยวางได้ไหม แบบนี้จะเป็นผลดีกับตัวนางเอง”

หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะไม่ยอมให้หลีโม่ไปดูแลความรู้สึกของฉินโจว แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้สิ่งที่ฉินโจวเสียสละทำให้กับหลีโม่นั้นมากมาย หัวใจคนเรามีเลือดเนื้อ ยังไงเขาก็ซาบซึ้งใจ เพียงแต่การเสียสละของฉินโจว ยังไงก็จะไม่มีทางได้ผลตอบแทนกลับคืน

หากทำให้นางปล่อยวางได้ตั้งแต่แรก เมื่อนางปล่อยวางได้แล้ว ถือว่าเป็นผลดีกับนาง

“เรื่องแบบนี้ พูดกันยาก” สายตาหลีโม่ค่อนข้างโศกเศร้า ต่อให้นางจะไม่รู้เรื่องความรักแค่ไหน แต่ก็รู้สึกในความคิดของฉินโจวดี จะให้ไปพูดคุยกันตรงๆแบบนั้นได้อย่างไร?

“พูดคุยกันแล้ว ยังไงก็ดีกว่าตอนนี้ ที่จริงในใจนางก็ทรมาน” ซือถูเย้นถอนหายใจเบาๆ จ้องมองดูใบหน้างดงามของหลีโม่ “ใจเขาใจเรา หากเจ้ามีคู่ครองแล้ว ในใจของข้าก็คง....”

สีหน้าหลีโม่อึ้ง “เจ้า...”

“ผ่านเรื่องราวมาตั้งมากมายขนาดนี้ ข้ายังไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆหรือ? ที่จริงข้าก็ซาบซึ้งในตัวฉินโจว” ซือถูเย้นพูดเช่นนี้ ในใจก็มีความรู้สึกแปลกๆ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

สักพัก เขาก็พูดขึ้นว่า “อาศัยตอนนี้ยังกลับไปไม่ถึงเมืองหลวง ช่วงเวลานี้มีแต่พวกเรากันเอง เรื่องนี้พูดให้เข้าใจกันเสียก่อน ฉินโจวเองก็ควรที่จะเลือกแล้ว”

“ไม่ได้พูดถึงคดีของเป่ยม่อ...” หลีโม่ลังเลอยู่แปบหนึ่ง และก็รู้สึกว่าบางทีคดีอาจจะไม่ได้สำคัญขนาดนั้น หากฉินโจวเลือกที่จะตัดสินใจจริงๆ

“คดีเป็นแค่ชั่วขณะ หากนางยิ่งได้อยู่กับเจ้า จะเป็นการค่อยๆปรับเปลี่ยนความคิดของนาง นางจะชอบและหลงใหลชีวิตที่สงบสุขแบบนี้ เกรงว่าเมื่อถึงเวลาตอนที่นางต้องกลับไป นางจะไม่อยากกลับ ข้าคิดว่า ถึงแม้ตอนนี้อ๋องลั่วชินดูเหมือนจากควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด แต่ยังไงเขาก็เจ้าเล่ห์สู้ฉู่จิ้งไม่ได้ และเบื้องหลังฉู่จิ้งยังมีตระกูลฉิน ยังไงฉินโจวก็ต้องกลับไป”

สองสามีภรรยา ได้พูดถึงปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับปัญหาของฉินโจวอย่างจริงจัง ตอนนี้ได้พูดคุยกันแล้ว หลีโม่ก็เข้าใจขึ้นมาทันที

ครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วนางก็พูดว่า “ก็ดี แค่จะลองไปคุยกับนาง”

“ดูให้ดีก่อนพูด ฉินโจวคนนี้เป็นคนที่หยิ่งมาก” ซือถูเย้นพูดขึ้น

“ข้ารู้แล้ว ข้าจะดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยพูด”

หลีโม่ประคองเขาขึ้นเตียง ซือถูเย้นพูดว่า “ข้าไม่เป็นไร เจ้าไปเถอะ”

“ได้” หลีโม่ก้มลงจูบเขาหนึ่งที “ไอ้เจ็ด ขอบใจนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม