พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 824

บทที่ 824 คนคนนี้ข้าไม่กล้าล่วงเกิน

ทุกคนเดินทางกันอย่างค่อนข้างช้า เดินๆพักๆ คาดว่าอย่างน้อยก็ครึ่งเดือนถึงจะกลับไปถึงเมืองหลวง

ในระหว่างนั้น อ๋องหนานหวยบ้าคลั่งอยู่สองครั้ง แหกปากตะโกนว่า “ข้าไม่ผิด" ไม่รู้จะทำอย่างไร หลีโม่จึงต้องเอายาให้เขา ให้เขานอนหลับไป

จิ่งรู้ว่าเมื่อก่อนเขาเคยคิดไม่ดีกับโหรวเหยา จึงไม่ได้เกรงใจเขาขนาดนั้น ตอนที่นั่งรถม้าไปกับเขา ได้ทรมานเขาอยู่ไม่น้อย ตอนนี้นอนหลับไปแล้ว จิ่งกลับรู้สึกค่อนข้างเบื่อหน่าย

วันนั้นหลังจากที่โหรวเหยาโกรธแล้ว ก็ไม่สนใจเขามาตลอด ต่อให้เขาขอร้องแค่ไหน ก็จะทำหน้าเย็นชาอยู่อย่างนั้น

จิ่งก็เป็นคนที่โกรธง่ายคนหนึ่งเหมือนกัน เห็นโหรวเหยาไม่สนใจเขา ก็ค่อนข้างโกรธ ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร

ทั้งสองคนโกรธกัน ทุกคนก็เดือดร้อนไปด้วย

อย่างเช่น ตอนที่ทานข้าว จิ่งไปนั่งข้างโหรวเหยาอย่างไม่ตั้งใจ โหรวเหยาก็ลุกขึ้นไปเปลี่ยนที่นั่ง จิ่งเห็นแล้วก็ทิ้งตะเกียบแล้วก็จากไป โหรวเหยาเห็นเขาทิ้งตะเกียบแล้วเดินออกไป นางก็เดินออกไป ทุกคนทานข้าวแล้ว หลีโม่กับหลิงลี่ยังต้องส่งข้าวไปให้ทั้งสองคนกินในห้อง แล้วต่างคนต่างก็ต้องฟังคำบ่น

“เจ้าดูสิ เขายังมีหน้ามาโกรธอีกหรือ? เขาโกรธด้วยเรื่องอะไร? ข้าไม่ได้รับปากว่าจะแต่งงานกับเขา เขากลับคิดว่าต่อไปจะพาข้ากลับไปเป่ยม่อแล้ว? ต่อให้ข้าเป็นคนที่มาจากตระกูลเล็ก ยังไงก็ต้องมีการสู่ขออย่างเป็นธรรมเนียมไม่ใช่หรือ? อีกอย่าง ต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ เขาพูดว่าข้าได้ตกลงเป็นคู่ครองของเขาไปตลอดชีวิต ต่อให้ข้าหน้าไม่อายแค่ไหน แต่ก็ต้องรักษาหน้าพ่อแม่ของข้าไหม? คำพูดแบบนี้เพ่งพายออกไป พวกเขาจะไปสู้หน้าคนอื่นได้อย่างไร? ไม่พูดเรื่องอื่น ตามกฎของตระกูลแล้วจะไม่ถูกเฆี่ยนหรือ? เขาไม่เคยคิดเผื่อข้าเลยหรือ? ชอบก็ส่วนชอบ แต่เมื่อพูดถึงแต่งงาน ควรที่จะทำอย่างไรก็ยังต้องทำอย่างนั้น เห็นข้าเป็นคนใจง่ายแบบนั้นหรือ? สามารถพากลับบ้านไปได้ง่ายๆ? ต่อให้เป็นการไถ่ตัวจากโรงโสเภณี ก็ยังต้องให้แม่คนอื่นยินยอมก่อนไม่ใช่หรือ? เพราะเขาเห็นว่าข้าเคยผ่านการแต่งงานมาแล้วอย่างนั้นหรือ”

หลีโม่พูดปลอบว่า “เจ้าอย่าพึ่งคิดมากขนาดนั้น ไม่มีใครผิดใครถูกหรอก นิสัยของเขาเจ้าก็รู้ดี คิดอะไรได้ก็พูดอย่างนั้น เขาชอบเจ้าจริงๆ ถึงได้พูดว่าจะแต่งงานกับเจ้า ส่วนเรื่องการสู่ขอ นี่พวกเราก็ยังกลับไปไม่ถึงเมืองหลวงไม่ใช่หรือ เมื่อกลับไปถึงเมืองหลวงแล้วบางทีเขาอาจจะให้ฉินโจวไปสู่ขอกับพ่อแม่ของเจ้าก็ได้ ที่เจ้าบอกว่ารังเกียจที่เจ้าเคยแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้ง ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่มีความคิดแบบนี้แน่นอน เจ้าคิดไปเรื่อยเอง จิ่งจริงใจกับเจ้าแค่ไหนทุกคนต่างก็เห็น ไม่มีอะไรแบบที่เจ้าคิดแบบนั้น”

ห้องทางนั้น หลิงลี่นวดหูตัวเอง ขมวดคิ้วฟังเสียงอันดังสนั่นของจิ่ง “ข้าทำผิดอะไรตรงไหนหรือ? พูดผิดหรือ? ข้าชอบนาง ต้องการแต่งงานกับนาง ผิดด้วยหรือ? ต้าโจวพวกเจ้ามีคำพูดหนึ่งว่าเมื่อออกเรือนแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะลำบากสักแค่ไหน ก็ต้องรู้จักปรับตัวอยู่กับสามีและครอบครัวสามีให้ได้ไม่ใช่หรือ? หากนางแต่งงานกับข้า แล้วตามข้ากลับไปเป่ยม่อจะผิดตรงไหน? ต้าโจวคงไม่ใช้แม่ทัพของเป่ยม่อมั่ง? หรือว่าข้าจะต้องอาศัยให้นางเลี้ยงไปตลอดชีวิตหรือ? นางชอบผู้ชายอ่อนแอแบบนั้น?”

หลิงลี่เงียบไปสักพัก หลังจากที่เราให้เสียงสนั่นในหูเงียบลงแล้ว ค่อยพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ก็เคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ? การแต่งงานไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ต่อให้อยู่ที่เป่ยม่อ การแต่งงานก็ต้องมีพิธีรีตองไม่ใช่หรือ? แอบตกลงกัน สำหรับต้าโจวแล้ว เป็นการกระทำที่ไม่รักษาหน้าเลย เจ้าก็คงไม่อยากให้โหรวเหยาถูกคนอื่นเขานินทาใช่ไหม? หากเจ้าอยากให้นางกลับไปกับเจ้าจริงๆ เจ้าก็ต้องไปทำให้นางซาบซึ้งใจ ต่อให้นางต้องไปอยู่ที่เป่ยม่อกับเจ้า ที่ไม่มีเพื่อนไม่มีญาติ นางก็รู้สึกปลอดภัย และก็มีความสุข นางก็จะตามเจ้าไปเอง”

หลังจากหนึ่งชั่วโมงแล้ว หลีโม่กับหลิงลี่มาเจอกันที่ระเบียง ต่างคนต่างก็ถอนหายใจ แล้วก็ส่ายหัว “ยังไม่เข้าใจกัน”

ซือถูจิ้งเดินมา พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่เป็นการโกรธอะไรกันเลย เพียงแต่ในใจโหรวเหยายังมีเรื่องที่ปล่อยวางไม่ลง ยังไม่สามารถที่จะเดินออกมาได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงทำให้คิดเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่”

หลีโม่ส่ายหัวพร้อมพูดว่า “ใช่ ข้อนี้ข้ารู้ดี จะว่าไปแล้ว ที่จริงโหรวเหยายังตัดสินใจไม่ได้ แค่ถูกจิ่งทำให้หวั่นไหว เคยรับปากอะไรไปอย่างไม่ทันคิด จิ่งที่ซื่อบื้อคนนี้กลับจริงจัง”

สีหน้าหลิงลี่เปลี่ยนไป “เพราะซูชิง”

“ก็มีส่วนหนึ่ง แต่น่าจะยังมีอีก” หลีโม่ลังเลอยู่แปบหนึ่ง แต่ก็คิดว่าไม่พูดดีกว่า เพราะนางก็ยังไม่แน่ใจ

โหรวเหยาดูแล้วก็เป็นคนที่กล้ารักกล้าเกลียด แต่ก็เป็นการพูดเท่านั้น ที่จริงกับความรักนางรู้สึกด้อยมาตลอด ตอนนี้กับจิ่งที่ดูเหมือนจะค่อนข้างใจดำ แต่ก็เพราะไม่มั่นใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม