บทที่ 825 กลับมาถึงเมืองหลวง
อ๋องอานหรานมองดูนางอย่างเยาะเย้ย “องค์หญิง เจ้าแซ่ซือถู คำพูดแบบนี้จะพูดไปเรื่อยไม่ได้ ระวังจะถูกกรรมตามสนอง”
ซือถูจิ้งพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ข้าแซ่ซือถูจึงไม่ควรพูด? หรือว่าคนคนนี้เป็นคนในตระกูลซือถู?”
ซือถูเย้นก็มองดูเขาอย่างแปลกใจ “ท่านพูดมาเถอะ หรือว่าตระกูลซือถูของเราจะมีเทพเทวดาแล้วจริงๆหรือ?”
ซือถูเย้นพูดออกมาเอง แล้วก็หัวเราะอย่างรู้สึกขำขัน
อ๋องอานหรานมองดูเขาอย่างเยาะเย้ย “ฝนตกในฤดูแบบนี้ จะไปคิดเป็นบัญชีของเขาได้อย่างไร? มากสุดก็แค่ทำอะไรบางอย่างในค่ายกลของเจ้า อย่าไปคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้อย่างนั้น”
“ตกลงเป็นใครกันแน่?” ซือถูจิ้งถามขึ้นอย่างเร่งเร้า
“ที่จริงข้าก็ไม่รู้ แต่วัดพญามังกรนั่น รู้ใหม่ว่าเมื่อก่อนฮ่องเต้ฮู่ยจู่สร้างขึ้นมาเพื่อใคร?” อ๋องอานหรานถามซือถูจิ้ง
ซือถูจิ้งพยักหัว “รู้ สร้างเพื่ออ๋องซื่อเจิ้งฉิงเทียน ไม่เพียงมีแค่ในจวนชิงโจว มีทุกพื้นที่อีกมากมาย”
“อืม จะบอกว่ามีอะไรพิเศษจริง บางทีก็อาจจะเป็นอ๋องซื่อเจิ้งฉิงเทียนคนนั้น”
“งั้นตกลงใช่หรือไม่ล่ะ?” ซือถูจิ้งถามขึ้นอย่างแปลกใจ
อ๋องอานหรานพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “ก็บอกแล้วว่าข้าก็ไม่รู้ ยังจะถามอะไรอีก? แต่ตระกูลซือถูของพวกเจ้าเคร่งครัดในความเป็นพี่น้องกัน ไม่ได้เริ่มมีมาตั้งแต่ฮ่องเต้ฮู่ยจู่ ความจริงแล้ว เป็นอ๋องซื่อเจิ้งฉิงเทียนกับไทฮองไทเฮาเป็นคนกำหนด ดังนั้นอ๋องซื่อเจิ้งฉิงเทียนเคยไปกราบไหว้ที่วัดพญามังกรนั่นจริง เขาคงไม่อยากเห็นลูกหลานของตระกูลซือถูเข่นฆ่ากัน จึงออกมาห้าม ก็มีความเป็นไปได้ ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดคาดเดาของข้าคนเดียว อาจจะไม่ใช่ความจริง”
พูดเสร็จ เขาก็วางถ้วยลง “ทานอิ่มแล้ว ข้าไปนอนก่อนแล้ว”
“คนเฒ่าคนนี้ น่าโมโหมากเลย รู้ทั้งรู้ก็ไม่พูด ให้พวกเรานั่งเดาอยู่ตรงนี้ตั้งนาน” ซือถูจิ้งบ่น
หลีโม่แปลกใจ แต่ก็ไม่ถึงขั้นว่าจะต้องรู้ให้ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นในวัดพญามังกร ยากที่จะใช้วิทยาศาสตร์ไปอธิบายจริงๆ
ในเมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ ต้องอาศัยความอัศจรรย์มาอธิบาย ไม่ใช่สิ่งที่นางชำนาญ ทักษะมีความเชี่ยวชาญ หากซางชิวนั่นยังอยู่ ก็ยังจะถามให้รู้เรื่องได้
คิดถึงซางชิว หลีโม่ก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้ “ซางชิวคนนี้เป็นคนมีความสามารถ ตายไปแล้วแบบนี้ ค่อนข้างน่าเสียดาย”
ทุกคนต่างก็ถอนหายใจ แล้วต่างคนต่างก็แยกย้ายไป
ช่วงเวลาตลอดการเดินทางสวยงามอีกแค่ไหน ยังไงก็ต้องถึงจุดหมายในที่สุด
ตอนที่มาถึงเมืองหลวง ก็เป็นวันที่แปดเดือนเก้าแล้ว
ห่างจากวันแต่งงานของเซียวเซียวกับซือถูจิ้ง อีกแค่เดือนเดียวเองแล้ว
หลังจากเข้าเมืองหลวงแล้ว ซือถูเย้นขังอ๋องหนานหวยไว้ในจวนก่อน แล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัวกับหลีโม่ หลังจากนั้นก็เข้าวังไปถวายพระพรไทฮองไทเฮา
ในตำหนักซีเวย
ในวันฤดูใบไม้ร่วง ได้ค่อยๆเข้าสู่อากาศเย็นแล้ว ใบไม้ในตำหนักซีเวยเหมือนถูกย้อมไปด้วยสีทอง เหลืองไปแล้วกว่าครึ่ง ภายใต้แสงพระอาทิตย์สาดส่อง ทำให้เห็นถึงความงดงามและไม่ทำให้รู้สึกเยือกเย็น
เป็นครั้งแรกที่หลีโม่ก้าวเดินเข้ามาในตำหนักซีเวยแล้วไม่รู้สึกอึดอัด
ที่จริงตำหนักซีเวยก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร นอกจากมีแปลกประหลาดคนนั้นอยู่ในนี้
แต่มีคนคนนั้นอยู่ ทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
เข้ามาในตำหนักซีเวยแล้ว ก็เห็นสีหน้าท่าทีรับแขกของอาซื๋อกูกู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...