พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 826

สรุปบท บทที่ 826 ท่านลงโทษนางทำไม: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

อ่านสรุป บทที่ 826 ท่านลงโทษนางทำไม จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บทที่ บทที่ 826 ท่านลงโทษนางทำไม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 826 ท่านลงโทษนางทำไม

ใต้เท้าซุนผู้นี้เป็นเสด็จน้า นั่นก็คือลุงของซุนฟางเอ้อร์กับโหรวเหยา หลานที่เสียไปแล้วของซุนไทเฮา

ก่อนหน้านี้ตระกูลซุนไม่ได้มีบทบาทหน้าที่สำคัญอะไรมากในราชการ เหตุแรกเพราะซุนไทเฮาเพื่อไม่ถูกนินทาว่าร้าย จึงสั่งให้ศิษย์ในตระกูลรับแต่งานราชการที่เบาๆไม่หนักมาก และยังได้รับตำแหน่งโหวเจว๋ด้วย ไม่ทำอะไรก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว

เหตุที่สอง ผู้ชายในตระกูลซุนหลายปีมานี้ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย และไม่มีความสามารถมากนัก แม้อยากจะช่วยก็ช่วยไม่ได้

พอฮ่องเต้หายป่วยแล้ว ซุนฟางเอ้อร์ก็ได้รับตำแหน่งกุ้ยเฟย ถึงได้เริ่มใช้คนของตระกูลซุน ตระกูลซุนที่ไม่ได้ถูกสนใจ กลับถูกสนใจขึ้นมากะทันหัน ก็ยิ่งยกย่องฮ่องเต้กันใหญ่ คงเหลือแต่ฆ่าไก่เซ่นไหว้ถวายตัวจงรักภักดีฮ่องเต้

ตอนที่ซือถูเย้นทำงาน ก็เริ่มจัดการพวกข้าราชการที่ทุจริต แต่ว่า ที่ซือถูเย้นทำแบบนี้เพราะเขาเตรียมตัวมานานแล้ว ฝ่ายคัดสรรคนอย่างแรกที่ต้องทำคือพิจารณาบุคคล คนที่ได้เลื่อนตำแหน่ง ยิ่งไปกว่านั้นได้เลื่อนไปหลายขั้น

แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างไปมาก พวกข้าราชการที่มาโวยวายเป็นพวกเดียวกันกับที่ซือถูเย้นจัดการ และยังมีหน้าที่ที่สำคัญกันอีกด้วย เป็นข้าราชการที่เลือกมาโดยไม่ตั้งใจ ผลลัพธ์อาจจะร้ายแรงได้

เสด็จน้าท่านนี้ แม้จะไม่ใช่คนฉลาดมาก แต่พอเข้ารับงานฝ่ายในแล้ว อยู่กับพวกฝ่ายในที่เจ้าเล่ห์ไปมากแล้ว ก็เก่งเรื่องพูดแทงใจดำคนอื่นมาก เพราะเหตุนี้ พอพูดแล้วก็โดนจุดอ่อนของไท่ฮองไท่เฮา

แต่ว่า ไท่ฮ่องไท่เฮากลับแค่ยิ้มเย็นชา “ราชวงศ์ต้าโจวนี้ ไม่มีใครไม่ได้กัน? พวกเจ้าแค่พูดมา ถ้าอยากบังคับข้า นั่นเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์”

พูดแล้ว นางก็ปัดมือ “ออกไปเถอะ!”

ทุกคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก คนที่ถูกเรียกมาวันนี้ ก็ล้วนเป็นกลุ่มที่เป็นกลาง แน่นอนมีบางคนเช่นเสด็จน้าเป็นกลางเพียงแค่ต่อหน้าเท่านั้น ในใจเขาอยู่ฝ่ายฮ่องเต้ไปนานแล้ว

ตราบใดที่ยังมีกฎราชาปกครองเมืองอยู่นั้น และยังนับถือยกย่องฮ่องเต้ นับถือฮ่องเต้เป็นกลาง ดังนั้นฝ่ายนี้จึงเรียกตัวเองว่าฝ่ายสนับสนุนฮ่องเต้ มีความชอบธรรมและคุณธรรมสูงส่ง

พอทุกคนแยกย้ายกันแล้ว ซุนกงกงก็เข้ามาและพูดว่า: “ไท่ฮองไท่เฮา ท่านอ๋องกับพระชายาเข้าวังแล้ว และรอท่านอยู่ที่ตำหนักซีเวย”

“อืม!” ไท่ฮองไท่เฮาลุกยืนขึ้นมา “จัดเรียงเอกสารพวกนี้ให้ดี ส่งไปที่ตำหนักของฮ่องเต้ ให้เขาอ่านดูช้าๆ”

“แต่ว่า……” ซุนกงกงอึ้ง “พวกนี้ เป็นเรื่องที่กล่าวหาท่านนะ……”

“ไม่เป็นไร ให้เขาดู ดูว่าขุนนางของเขาจงรักภักดีกับเขาอย่างไร”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ซุนกงกงรู้ว่านางทำอะไรไม่มีใครรู้ได้ ก็เลยรีบจัดการ และตะโกนออกไปด้วยว่า: “ไท่ฮองไท่เฮาเสด็จ!”

ทางด้านตำหนักซีเวย ก็มีคนมารายงานแล้วว่า ไท่ฮองไท่เฮากำลังจะกลับมา

ซือถูเย้นกับหลีโม่รีบลุกขึ้นมาไปต้อนรับที่หน้าตำหนัก ไม่นาน ก็เห็นไท่ฮองไท่เฮานั่งเสลี่ยงกลับมา

ซือถูเย้นเดินขึ้นไปตรงหน้า โน้มตัวพยุงนางมา “ท่านบรรพบุรุษ ท่านเหนื่อยแย่เลยนะ”

ไท่ฮองไท่เฮาเดินลงจากเสลี่ยง ขมวดคิ้วพูดกับซือถูเย้นว่า: “หรือเจ้าจะหลบต่อไป ไม่ออกมาแล้วหรือไง”

ใบหน้านางไม่พอใจเป็นอย่างมาก นางกับซือถูเย้นไม่ได้เป็นญาติอะไรกัน แต่ในเวลานี้ ใบหน้าอารมณ์ทั้งสองกลับดูคล้ายกันอย่างมาก

“จะไม่กลับมาได้อย่างไร? ต้องรักษาตัว” ซือถูเย้นพูดด้วยรอยยิ้ม

พอพยุงนางไปนั่งกับที่แล้ว ซือถูเย้นก็พาหลีโม่คุกเข่าลงและคารวะ “คารวะท่านบรรพบุรุษ”

“พอแล้ว ลุกขึ้นเถอะ” ท่านบรรพบุรุษรับชาที่อาซื๋อกูกูส่งมาให้ ดื่มไปหนึ่งคำและวางลง “เอาน้ำเย็นมาให้ข้า”

“อากาศเย็นแล้ว ดื่มน้ำเย็นคงไม่ดีกระมังเพคะ” อาซื๋อกูกูพูด

“ทางที่ดีเป็นน้ำที่เย็นจัดเลย แต่ข้ารู้ว่าไม่มี ก็ดื่มแค่น้ำเย็นก็ได้” ไท่ฮองไท่เฮาไม่พอใจอย่างมาก ใบหน้ายังคงขมวดไม่หาย

“อย่าโกรธไปเลย อายุก็มากแล้ว โกรธมากจะตายเร็วนะเพคะ” อาซื๋อกูกูปลอบใจ และส่งชาร้อนไปให้อีก

“อร่อยสิ” หลีโม่กินสองชิ้นติดต่อกัน ก็ไม่กล้ากินอีกเลย กลัวว่ากินเยอะไปเดี๋ยวจะอ้วก เสียมารยาท

“กินสิ กินอีกเลย” อาซื๋อกูกูพูด “ไม่เป็นไรหรอก ข้าใส่ขิงบดไปด้วย เพื่อกันไม่ให้อ้วก”

ซือถูเย้นก็พูดต่อว่า: “นั่นสิ ถ้าอยากกินก็กินต่อเถอะ ตลอดทางที่มานี้เจ้าก็ไม่ได้กินอะไรมาก วันนี้กินได้เยอะก็กินไปเยอะหน่อยเถอะ”

หลีโม่อยากกินต่อจริง ได้ยินอาซื๋อกูกูกับซือถูเย้นพูดแบบนี้แล้ว ก็กินต่ออีกหลายชิ้น

อาซื๋อกูกูไม่ได้โกหก ขนมฝูหลิงพวกนี้มีขิงบดอยู่ แม้จะไม่เผ็ดแต่หลีโม่ก็ชิมออก

คนแก่ไม่เคยโกหก……

หลีโม่อ้วกจนท้องไส้ปั่นป่วน อ้วกจนตาแทบทะลัก

ซือถูเย้นไม่เคยเห็นนางอ้วกขนาดนี้มากก่อน ก็เริ่มโวยวาย พูดต่อว่าอาซื๋อกูกูว่า: “ไหนเจ้าบอกว่ากันอ้วกไง? ทำไมกินลงไปกลัวอ้วกหนักกว่าเดิมอีก?”

“เป็นห่วงงั้นเหรอ?” ไท่ฮองไท่เฮานั่งตัวตรง มองซือถูเย้น

ซือถูเย้นพยุงหลีโม่ที่อ้วกไม่หยุด โกรธจนตาแดงก่ำ “จะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร? ตลอดทางนางไม่ได้กินอะไรเลย ถ้าอ้วกต่อไป คงต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่”

ไท่ฮองไท่เฮาตอบกลับว่า “เป็นห่วงก็ถูกแล้ว ต่อไปถ้าเจ้ายังทำตามใจตัวเองอีก คนที่จะถูกลงโทษก็คือนาง”

ซือถูเย้นอึ้ง “ท่านบรรพบุรุษ ท่านตั้งใจทำแบบนี้หรือ?”

“ไม่แล้ว ข้าตั้งใจทำให้นางอ้วก” ไท่ฮองไท่เฮาหยิบผ้ามาเช็ดปาก จิบชาไปหน่อยๆ และพูดช้าๆว่า: “นี่เป็นแค่การลงโทษเล็กๆ”

“เพียงแค่พวกเราเดินทางโดยถนนไม่ได้เดินทางน้ำงั้นเหรอ?” ซือถูเย้นโกรธมาก “ท่านไม่พอใจอะไรมาลงที่ข้า ทำไมต้องลงโทษนางด้วย?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม