บทที่828 ข้าเป็นอ๋องซื่อเจิ้ง
จำได้ว่าตอนที่พึ่งรู้จักไอ้เจ็ด เขาควบคุมอำนาจภายในราชการ ต่อสู้อยู่กับฮองเฮามานาน สำหรับกลุ่มของไถ้ฝู้ ฮองเฮาและอ๋องหนานหวย
มาวันนี้ เขาไม่เด็ดขาดเหมือนดังเช่นเมื่อก่อนแล้วจริงๆ หรืออาจจะเป็นเพราะว่า เป็นดังที่ไท่ฮองไท่เฮาพูดไม่มีผิด เป็นหัวใจของเขาที่เกิดมีความผูกพันขึ้นมา ทำอะไรระมัดระวังขึ้น มัดมือมัดเท้า
ในตำหนักซีเวย นั้น ไท่ฮองไท่เฮากลับเปลี่ยนแปลงท่าทีที่ดันเมื่อครู่ลง “เมื่อครู่ที่ตำหนิเจ้าไปนั้น ข้าก็ไม่ได้รู้สึกดีหรอกนะ แต่ว่า เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”
“ขออภัยเพคะ ไท่ฮองไท่เฮากระหม่อมผิดไปแล้ว” ซือถูเย้นพูดเสียงเบา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด จึงไม่พูดอะไรทั้งนั้น หากครั้งนี้ ไม่เป็นเพราะว่าไท่ฮองไท่เฮากลับมา นางก็รอดยาก
คำพูดของไท่ฮองไท่เฮา เสมือนตีแสกหน้า ทำให้เขาตื่นขึ้นมาได้
เขาห้ามฮ่องเต้ในทุกเรื่อง แม้กระทั่งทั้งๆที่รู้ว่าการกระทำของฮ่องเต้จะไปในทางที่ไม่ดีเล็กน้อย กลับไม่สนใจ และยังพูดอย่างเสียดสีอีกด้วยว่าเขาช่วยอะไรไม่ได้ พูดกับตนเองว่า ถึงจะมีอำนาจใหญ่โต จะใหญ่โตไปกว่าอำนาจของฮ่องเต้ได้หรือ ?
เรื่องมันดำเนินมาถึงดั่งเช่นทุกวันนี้ได้ เขาเป็นคนที่ผิดมากที่สุด
“ช่างเถอะ ข้าจะไม่ตำหนิเจ้าแล้ว เจ้าไปห้องอักษรกับข้าหน่อย ไปดูว่าเสด็จพี่ทำเรื่องสิ้นคิดอะไรไปบ้าง”
“พะยะค่ะ!”ซือถูเย้นลุกยืนขึ้นพยุงนางเดินออกไป
แต่ว่า นับตั้งแต่ที่ฮ่องเต้ทรงพระประชวร เรื่องที่เกิดขึ้นมั้งหมดเป็นการต่อต้านเขาและกำจัดคนที่คิดเห็นต่าง รวบรวมอำนาจของเขาใหม่ ถ้าพูดตาม หลักความเป็นจริงก็ไม่ได้ทำอะไรให้ประชาชนเดือดร้อน เหตุใดไท่ฮองไท่เฮาถึงได้ทรงกริ้วกันล่ะ?
ที่ทำให้ไท่ฮองไท่เฮาทรงกริ้วได้ถึงเพียงนี้ นับตั้งแต่ที่เขาจำความได้ ส่วนมากจะเป็นเพราะเรื่องของบ้านเมืองและประชาชนเป็นส่วนใหญ่ เรื่องอื่นๆนั้น อดทนได้ก็จะทน
แต่ว่า พอมาถึงห้องอักษร ดูม้วนฎีกาที่ท่านบรรพบุรุษเลือกหยิบขึ้นมานั้น เขากลับตกใจเป็นอย่างมาก
เขาเพิ่มภาษี ภาษีทั้งหมดกับภาษีบางส่วนมากกว่าภาษีของเมื่อก่อนกว่าครึ่งหนึ่ง ส่วนแตกต่างของภาษีนั้นจะไม่เข้าไปอยู่ในมือของราชสำนักอยู่แล้ว จะยื่นให้กับองค์ชาย องค์หญิง ได้ใช้กัน แต่มาวันนี้กลับเรียกเข้าไปในคลังทั้งหมด
อีกทั้งภาษีที่ดินยังบวกกับหนูที่ทำลายพืชผลทางการเกษตรอีก เด็กที่เกิดใหม่เวลาจะแจ้งเข้าไปอยู่ครัวเรือนก็จะต้องจ่ายภาษี ยังมีอีกประมาณเจ็ดแปดหมวดหมู่
ไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้ จะต้องจ่ายภาษีพวกนี้จริงๆ หนึ่งปีลงมา แม้แต่จะตายยังไม่สามารถเลี้ยงปากท้องได้ด้วยซ้ำ
“พวกนี้ ถูกสั่งการออกไปแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ซือถูเย้นถามขึ้นอย่างตกใจ
“ถูกสั่งการออกไปแล้ว”ไท่ฮองไท่เฮากล่าว
“ถูกสั่งการออกไปเมื่อไหร่กัน?เหตุใดข้าถึงไม่รู้?”
บวกกับภาษีที่ดิน เป็นเรื่องที่บ้านเมืองย้ำนักย้ำหนา ต้องเข้าประชุมหารือกันก่อน ค่อยนำไปหารือกันในราชสำนัก ต้องเริ่มจากการหารือกันก่อนค่อยปฏิบัติ อย่างน้อยๆก็เป็นเวลาครึ่งปี แต่กลับเป็นในตอนที่เขายังไม่รู้เรื่องอะไร ก็ถูกสั่งการลงไปแล้ว ?
“ข้ากลับเข้าเมืองหลวงในครั้งนี้ เพิ่งไปที่ถูกลงประกาศมา เป็นตอนที่เจ้ากับหลีโม่เกิดเรื่อง ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ของเน่ยเก๋อ ถูกแย่งชิงเปลี่ยนไป มาวันนี้เน่ยเก๋อกับใต้เท้าซุน ทั้งสองคน ล้วนเป็นคนที่ฮ่องเต้เลื่อนตำแหน่งให้ เพราะฉะนั้น เรื่องพวกนี้จึงดำเนินการเร็วขึ้น ไม่มีเสียงคัดค้านใดๆ เป็นเพราะอย่างนี้นั่นแหละ”
“ข้าเสียสติไปแล้วหรืออย่างไร?” ซือถูเย้นโกรธเป็นอย่างมาก“ในตอนที่เสด็จพ่อยังอยู่ ภาษีเล็กน้อย บอกเพียงแค่นี้ว่า ทำเช่นนี้ราษฎรถึงจะมีกิน บ้านเมืองถึงจะสงบได้ เขาจะบังคับราษฎรหรืออย่างไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...