พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 829

สรุปบท บทที่829 ยาชั้นเลิศ: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปเนื้อหา บทที่829 ยาชั้นเลิศ – พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บท บทที่829 ยาชั้นเลิศ ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่829 ยาชั้นเลิศ

ก่อนที่ซือถูเย้นจะหันหลังเดินออกไป เขาได้ถามออกไปว่า : “เจ้าแปดได้กลับเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว ท่านว่า.....”

“ไม่ต้องสนใจเขา จะมีคนเก็บเขาเอง”ไท่ฮองไท่เฮาพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย

สำหรับเจ้าแปดแล้ว นางผิดหวังกับตัวเขาเป็นอย่างมาก

ซือถูเย้นนัยน์ตาสั่นไหวเล็กน้อย “หรืออาจเป็นไปได้ว่าอ๋องซื่อเจิ้งฉิงเทียนกลับมาแล้วจริงๆ?”

ไท่ฮองไท่เฮายิ้มบางๆ “ใครจะรู้ล่ะ? ใครไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว”

ซือถูเย้นยิ้มบาง “อืม!”

พูดจบ ก็เดินถอยหลังออกไป

ตำหนักซีเวย

บานประตูห้องบรรทมของฮ่องเต้ตอนนี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็น มีเพียงแค่คนของไท่ฮองไท่เฮาไม่กี่คนถูกส่งมาปรนนิบัติอยู่ที่นี่ ลู่กงกงยังคงปรนนิบัติรับใช้อยู่หน้าตั่งบรรทมของฮ่องเต้

ในตอนที่ซือถูเย้นมาถึง หมุยกุ้ยเฟยก็พึ่งนำยาให้เขาดื่มเสร็จ

“พระสนม” ซือถูเย้นมองดูหมุยกุ้ยเฟยที่ตอนนี้ทรุดโทรมลงไปมาก “ยังไม่ได้ยินดีกับเจ้าเลย”

“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หมุยกุ้ยเฟยเห็นว่าเขาเดินมา นัยน์ตามีความปิติยินดีเล็กน้อย เพียงแค่ในคำพูดไม่ได้แสดงออกมา ฮ่องเต้ยังไม่หลับ สามารถได้ยินคำพูดของนาง แต่ใบหน้าของนางมีความสุขดี

“พระสนมออกไปสักครู่ได้หรือ?ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับฮ่องเต้”

“เพคะ!” หมุยกุ้ยเฟยหันหลังกลับไปส่งสายตาให้ลู่กงกงครู่หนึ่ง “กงกงก็ออกไปกันเถอะ”

ลู่กงกงมองไปที่ฮ่องเต้อย่างไม่วางใจครู่หนึ่ง ดวงตาของฮ่องเต้ปิดแน่น หากไม่ใช่ลมหายใจที่เร็วขึ้นเล็กน้อย ลำคอมีอาการไออย่างเห็นได้ชัด คนอื่นคงจะคิดว่าเขานอนหลับอยู่เป็นแน่

“ท่านอ๋อง พระวรกายของฮ่องเต้ทรงอ่อนแอ ต้องการพักผ่อน ท่านได้โปรดอย่าอยู่นานนักเลย” ลู่กงกงเอ่ยเสียงเบา

“อืม ออกไปเถอะ”ซือถูเย้นโบกมือไล่

หมุยกุ้ยเฟยพาลู่กงกงกับนางกำนัลสองคนออกไปด้วย ผ้าม่านถูกปิดลง เสียงรอบกายเงียบเชียบจนสามารถได้ยินเสียงนกร้องได้ แต่ทว่า กลับไม่มีใครยินดีกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้เลย

ซือถูเย้นเดินเข้าไป ยืนอยู่ตรงหน้าตั่งเตียง

เห็นได้ชัดว่าบนใบหน้าของเขามีผื่นแดง ข้างๆจมูกมีรอยแดง ปลายจมูกสีดำเล็กน้อย เหมือนดั่งผีเสื้อตัวหนึ่งที่ใกล้จะเปลี่ยนสีเกาะอยู่บนใบหน้าของเขา

ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้น เปลือกตาที่บวมเป่งทำให้การมองเห็นของเขาเสื่อมถอยลงไป ราวกับมีมีดสองเล่ม อยากจะเฉือนใบหน้าอันเยือกเย็นของซือถูเย้นออกมา

เสียงไอในลำคอของเขามีอาการหนักขึ้น เขาพูดว่า: “กลับมาแล้วหรือ?”

ในคอราวกับจะมีเสมหะกีดกันไว้ น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

“อืม!”ซือถูเย้นพูด บนใบหน้าของเขานอกจากความเย็นยะเยือก ก็ไม่มีสีหน้าใดๆอีก

ฮ่องเต้สูดหายใจเข้า ในหลอดลมราวกับมีเครื่องสูบเสียงดังขึ้น เขาพยายามไม่ให้ตัวเองไอ ใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้น ดวงตาของเขาตอนนี้แทบจะไม่มีตาขาว เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง

ในที่สุดก็อดรนทนไม่ได้ เขาไอค้อกแคกขึ้น ไอครั้งนี้ ดั่งแผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกา แทบจะหยุดไม่ได้

ไอจนร่างของเขาสั่นไหว มือของเขาจับผ้าห่มแน่น เล็กจิกเข้าไปผ้าห่มที่ถูกร้อยปักสลัก เส้นด้ายสีแดงถูกซ่อนในเล็บ หากไม่สังเกตดูให้ดี คงจะคิดว่ามีเลือด

ซือถูเย้นยืนมองเขาไออย่างเงียบๆ อย่างทรมาน แทบจะไม่ไหวติง

ผ่านพ้นจากความตายมาได้ หลีโม่เกือบจะต้องเอาชีวิตไปตกอยู่ในกำมือของอ๋องหนานหวย หากยังนึกถึงความสัมพันธ์ของพี่น้อง เขาคงจะโง่จริงๆ

ซือถูเย้นหยุดลงมา แล้วหันไปมองหมุยกุ้ยเฟย

“ท่านอ๋อง” หมุยกุ้ยเฟยเอ่ยเสียงต่ำ แล้วก้าวไปข้างหน้า “ดูท่าแล้วฝ่าบาทจะมีเวลาไม่มากแล้ว สามารถให้เขาจากไปอย่างสงบได้หรือไม่?”

ซือถูเย้นยักคิ้ว มีความไม่เข้าใจความหมายของหมุยกุ้ยเฟย

สีหน้าของหมุยกุ้ยเฟยมีความอึดอัดเล็กน้อย “เรื่องนี้ ข้าไม่ได้หมายความเป็นอื่น เพียงแค่ทุกวันนี้เห็นเขาต้องทนทุกข์ทรมาน ในใจรู้สึกทรมาน”

เสียงของซือถูเย้นเย็นยะเยือก “กุ้ยเฟย มีบางเรื่อง เก็บไว้กับตัวเถิด เจ้ารีบร้อนอะไรกัน?”

หมุยกุ้ยเฟยตกใจ แล้วจึงเข้าใจเรื่องที่ซือถูเย้นเข้าใจนางผิด รอบดวงตาแดงก่ำ “ท่านอ๋องโปรดอย่าเข้าใจผิดหม่อมฉันเลย หม่อมฉันไม่ได้ดั่งที่ท่านเข้าใจ หม่อมฉันแค่รู้สึกว่า ไท่ฮองไท่เฮาก็ไม่ยอมช่วยฮ่องเต้ หมอหลวงก็ไม่สามารถรักษาได้ เรื่องที่พวกท่านคุยกันหม่อมฉันได้ยินทั้งหมดแล้ว เขามีเวลาไม่มากแล้ว ท่านอยากจะทำอะไรก็ทำเถิด ขอเพียงแค่ไม่ต้องบอกเขา และโปรดอย่าทำร้ายเขาอีกเลย”

ซือถูเย้นคิดไม่ถึงว่าหมุยกุ้ยเฟยจะอาลัยอาวรณ์ฮ่องเต้ได้ถึงเพียงนี้ ในบรรดานางสนมทั้งหมด หมุยกุ้ยเฟยถือเป็นสนมที่ไม่ได้รับความรักความเมตตามากที่สุด ถูกทิ้งอยู่วังหลัง ไม่ได้ทำให้นางเกิดความเคียดแค้นเลย ช่างหายากยิ่งนัก

ซือถูเย้นจึงพูดอย่างอ่อนโยนลง “เจ้าดูแลการเรียนของรัชทายาทก็เป็นพอแล้ว เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจหรอก”

“หม่อมฉันจะทำแน่ ท่านอ๋องโปรดวางใจ”หมุยกุ้ยเฟยรีบตอบรับ

หลีโม่ยืนรออยู่ข้างๆพระตำหนักอยู่ครึ่งชั่วยามแล้ว ระหว่างนั้นก็ได้ดื่มน้ำแกงที่อาซื๋อกูกูได้เตรียมไว้ให้ หลังจากที่ดื่มไปแล้ว ก็ทำให้นางหน้ามืดวิงเวียนศีรษะ แล้วก็เอนตัวนอนพิงกับเตียงไปครึ่งชั่วยาม ตื่นขึ้นมาก็กระปรี้กระเปร่าไม่เบา

อาซื๋อกูกูบอกกับนางว่า นี่เป็นสมุนไพรยาชั้นเลิศที่ไท่ฮองไท่เฮาเก็บรักษาไว้ คนท่องดื่มแล้ว ก็จะไม่มีอาการคลื่นไส้อีก ยังสามารถบำรุงร่างกาย แล้วยังสามารถคลอดลูกได้ง่ายอีกด้วย

หลีโม่รู้ว่าสมัยนี้ คนคลอดลูกยากมีไม่น้อย คลอดลูกคนหนึ่งสามารถทิ้งชีวิตได้เลย เพราะฉะนั้น นางจึงถามอาซื๋อกูกูอย่างระมัดระวังว่า “ยังมีอีกไหม?”

“โลภมาก ไม่มีแล้ว” อาซื๋อกูกูทำหน้าเคร่งขรึม แต่กลับยื่นขวดสีขาวขวดเล็กไปให้นาง “ยานี้เจ้าเก็บไว้ดีๆล่ะ มีราคาแพงมาก แค่ตัวยาก็มีส่วนผสมของโสมพันปี คนท้องคลอดยาก ใช้แค่หนึ่งเม็ดก็พอ ก็สามารถคลอดลูกได้แล้ว”

หลีโม่รีบเก็บซ่อนเป็นอย่างดี ขอบคุณเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง

พอดีกับที่ไปปรนนิบัติรับใช้ซือถูเย้นมา หลังจากที่ทั้งสองลาจากอาซื๋อกูกูมาแล้ว ก็จูงมือกันเดินออกนอกวังหลวงไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม