สรุปตอน บทที่830 หามือดี – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง
ตอน บทที่830 หามือดี ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่830 หามือดี
พอกลับมาถึงจวน เย็นเอ๋อร์กับมามาก็เตรียมกับข้าวเสร็จแล้ว
ก่อนหน้านั้นหลีโม่เข้าวังไปเข้าเฝ้าไท่ฮองไท่เฮา เพราะเหตุนี้มามารีบดูแล ไม่ได้ถามอะไรเลย
รอจนหลีโม่และซือถูเย้นกินข้าวเสร็จแล้ว นางก็รีบถามอย่างร้อนใจ
หลีโม่พูดประเด็นสำคัญ ไม่ได้พูดให้ดูหวือหวาเลย แต่ก็ทำเอามามาตกใจจนขาอ่อน เกือบเป็นลมล้มลงไป
หลีโม่ยิ้มปลอบใจพูดว่า: “ข้าไม่เป็นไรแล้วนี่ไง? อย่าเป็นกังวลไปเลย”
“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว แต่ก็อันตรายไปนะ ท่านคิดดูสิ ถ้าท่านอ๋องไปไม่ทัน เฮ้อ ไม่รู้เลยว่าผลจะเป็นยังไง”
มามาพูดแล้วก็รู้สึกกลัวมาก และพูดต่อว่า: “ไม่ได้ พรุ่งนี้หม่อมฉันจะไปวัดเสียหน่อย ไปขอยันคุ้มครองมาให้ท่าน”
“ได้ รบกวนมามาด้วยนะ” หลีโม่ยิ้มหวานและพูด
“ยันคุ้มครองอะไร? ข้าก็จะเอา” ซือถูเย้นพึ่งไปสั่งการหวังจุ้นเสร็จ ออกไปแค่ครู่เดียวเท่านั้น เข้ามาก็ได้ยินพวกนางพูดถึงเรื่องยันคุ้มครอง ก็รีบพูดแทรกขึ้นมา
“เจ้าค่ะ หม่อมฉันจะไปขอให้นะเจ้าคะ” มามาพูดแล้ว ก็รีบเทชาในมือ วางไว้ข้างหลีโม่ นางรู้ว่าซือถูเย้นต้องนั่งข้างหลีโม่แน่นอน
ซือถูเย้นนั่งลง หยิบชาขึ้นมาจิบช้าๆ และมองดูหลีโม่ด้วยรอยยิ้มหวาน “กลับบ้านรู้สึกยังไงบ้าง?”
“ไม่มีที่ใดที่ให้ความปลอดภัยเหมือนบ้านแล้วล่ะ” หลีโม่ถอนหายใจ ยื่นมือไปลูบสัมผัสท้องน้อย “ต่อไปข้าจะไม่ไปไหนแล้ว จะอยู่แต่บ้านรักษาครรภ์”
“งั้นก็ดีสิ” ซือถูเย้นพูด
เย็นเอ๋อร์ก็ถามว่า: “พระชายา อู๋เยี่ยนจู่คือใครกัน? คนผู้นั้นดูกะล่อนมากเลย”
“เขาเป็นคนที่ข้าพามาจากชิงโจวด้วย คนที่ช่วยข้าไว้ก็คือเขานั่นแหละ”
“อืม” เย็นเอ๋อร์รีบแก้คำพูดว่า “อ้อ เป็นเขานั่นเอง เขาก็คือผู้มีพระคุณเหรอ ก็ว่าคำพูดที่พูดดูน่าสนใจมากเลย”
มามาถอนหายใจเบาๆพูดว่า “หม่อมฉันคิดว่าบ่าวไพร่ที่ซื้อมาใหม่ ไม่คิดว่าจะเป็นผู้มีพระคุณ จัดที่อยู่ให้ไม่ดีเลย งั้นเดี๋ยวหม่อมฉันไปจัดที่อยู่ให้ใหม่นะเจ้าคะ”
“อืม ให้ห้องเดี่ยวกับเขา เขารู้เรื่องแพทย์ ต่อไปถ้ามีคนในจวนป่วยเป็นไข้ตัวร้อย ก็ไปหาเขาแล้วกัน” หลีโม่พูด
“จะใช้ผู้มีพระคุณแบบนี้คงไม่ได้นะเจ้าคะ” มามาพูดว่าหลีโม่หน่อยๆ “ทำไมพาผู้มีพระคุณกลับมาไม่บอกกันก่อน? ต้อนรับไม่ดีเสียด้วยสิ”
ซือถูเย้นพูด: “มามาอย่าตื่นเต้นเกินไป ต่อไปเขาอาจจะเป็นลูกศิษย์ของพระชายาก็ได้ เขาตามมาไหว้ครูน่ะ”
“ไหว้ครู? จะเรียนแพทย์เหรอ? วิชาแพทย์ของเขาดีอยู่แล้ว ไม่งั้นจะช่วยพระชายาได้อย่างไร? ไม่ว่าเขาจะมาทำอะไร แต่อย่างไรก็ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ ก็ต้องต้อนรับและดูแลอย่างดี”
หลีโม่รู้สึกก็จริง ถ้าเป็นลูกศิษย์ ก็ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้รับเขามาเป็นศิษย์ ก็ต้องดูแลและต้อนรับแขกคนนี้ดีๆ
“งั้นได้ มามาก็ไปจัดการเถอะ เรื่องในจวนก็อย่าให้เขาทำเลย พรุ่งนี้เรียกเขามาพบข้าแล้วกัน” หลีโม่พูด
ไม่รับเขาเป็นศิษย์ แต่ถ้าใจอยากเรียนจริง นางก็ยังสอนเขาได้ แต่ว่าแค่ไม่ยอมรับตำแหน่งนั้นก็พอ
กลางคืน ดวงดาววิบวับ ก้อนเมฆหนาบดบังพระจันทร์
อากาศหนาวเล็กน่อย หลีโม่หลับลงไปอย่างเหนื่อยล้า ซือถูเย้นหยิบเหล้ามา นั่งลงตรงศาลาในสวนเย็นๆ นอกสวนดอกไม้ก็เป็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่
ลมพัดมาอ่อนๆ พัดมาพร้อมความเหน็บหนาว
“ดังนั้นข้ากำลังคิดอยู่ว่า จะทำให้นางตกลงยังไง”
จื่นเฉิงพูด: “แต่ว่า อยู่โดยหานยังไงก็ไม่สะดวก พระชายาทรงตั้งครรภ์อยู่ และยังอยู่โดยหานคนเดียวอีก แม้รอบข้างจะมีคนดูแล และยังไงใช้ชีวิตที่นั่นก็ยากมากอยู่ดี”
“เรื่องนี้ ข้าก็คิดได้แล้ว” ซือถูเย้นรู้สึกลำบากใจ “แต่ว่า หลีโม่อยู่ในตำหนัก ยังไงก็อันตรายมากอยู่ดี”
“ท่านอ๋อง เหมือนที่ท่านพูดมา เลือกคนที่เก่งด้านวรยุทธ์ปกป้องอยู่ข้างๆ บวกกับทหารในตำหนักอีก ปัญหาน่าจะไม่ใหญ่นะขอรับ”
“ไปโดยหานเป็นแค่ความคิดเริ่มต้น เมื่อกี้นางพูดว่า อยู่บ้านถึงจะรู้สึกปลอดภัย เพราะเหตุนี้ข้าถึงไม่กล้าบอกเรื่องที่จะส่งนางไปโดยหาน และให้เจ้าไปเลือกคนเก่งๆมาก็เป็นแผนที่ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ส่งนางไปโดยหานเป็นความคิดที่ดีที่สุดแล้ว”
“งั้น……” จื่นเฉิงครุ่นคิดก็พูดว่า: “ถ้าอย่างงั้น กระหม่อมจะส่งหลิงลี่ไปถามพระชายาดูว่าคิดอย่างไร?”
“อืม ก็ดี” ซือถูเย้นพูด
จื่นเฉิงก็รีบไปหาหลิงลี่ทันที หลิงลี่กลับตอบมาว่า: “ไม่ต้องลองใจหรอก พระชายาไม่ห่างจากท่านอ๋องแน่ ครั้งนี้เกือบต้องตาย พระชายาไม่รู้ว่าจะกลัวมากแค่ไหน ให้นางหวาดกลัวอยู่โดยหานคนเดียว ไม่เกินหนึ่งเดือน นางคงจะป่วยเพราะโรคคิดมาก”
จื่นเฉิงพูดอย่างลำบากใจว่า: “แต่ว่าความกังวลของท่านอ๋องก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ถ้างั้น เจ้าลองไปถามดูสิ?”
หลิงลี่คิดแล้วก็ตอบว่า: “ถ้างั้น ข้าไปขอคนจากอ๋องเย่ คนของสู้เหย่โหลวคงจะเชื่อใจได้?”
“แต่ว่า ตอนนี้คนของสู้เหย่โหรวกับตึกเสหานยังกล้าปรากฏตัวในเมืองอีกเหรอ? หยันสวี้ก่อนหน้านั้นได้ราชโองการมา ว่าจะจับทุกคนในตึกเสหานและสู้เหย่โหลวทั้งหมด”
“แม้เขาจะมีใจคิดแต่ก็ไม่มีความสามารถนี้” หลิงลี่พูดด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ฮ่องเต้ยังอยู่ในอันตรายเลย ยังคิดจะฆ่าคนนั้นคนนี้อีก ยังดีที่ท่านอ๋องของพวกเราอดทนได้ ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับไท่ฮองไท่เฮา ไม่งั้นล่ะก็……”
จื่นเฉิงมองไปที่นางและพูดว่า “ไท่ฮองไท่เฮาก็ยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ คนของตึกเสหานโจมตีวังหลวงจริง ฮ่องเต้จะลงโทษ ไท่ฮองไท่เฮาจะไม่สนใจไม่ได้? ข้าคิดว่า อ๋องเย่พูดถูก แม้จะเป็นเหตุผลนี้ ถ้าไท่ฮองไท่เฮาช่วยคนของตึกเสหาน ในที่ประชุมพวกขุนนางที่ภัคดีต่อไท่ฮองไท่เฮาอาจจะมีความคิดอื่นได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...