พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 831

สรุปบท บทที่831 ท่านอาจารย์จะมา: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

อ่านสรุป บทที่831 ท่านอาจารย์จะมา จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บทที่ บทที่831 ท่านอาจารย์จะมา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่831 ท่านอาจารย์จะมา

หลิงลี่ก็พูดสิ่งที่จื่นเฉิงบอกมา หลีโม่รู้ว่าจื่นเฉิงหมายความถึงไอ้เจ็ด

นางครุ่นคิดสักครู่ รู้สึกตัวเองอยู่ในเมือง อาจทำให้ไอ้เจ็ดคิดมากและเอาแต่ห่วงนาง และนางยังหวังอยากจะดูแลครรภ์ตัวเองดีๆ เพราะเหตุนี้ นางจึงตกลงที่จะไปโดยหาน

จากนั้น ไอ้เจ็ดเข้าวังไป กลับบอกนางว่าท่านบรรพบุรุษให้นางไปรักษาอาการป่วยของฮ่องเต้

“ข้า?” หลีโม่ถามอย่างแปลกใจ

“นางพูดมาแบบนี้”

“แต่ว่า ข้าก็ไม่รู้ว่าอาการป่วยตอนนี้ของฮ่องเต้เป็นอย่างไรบ้าง อาการป่วยครั้งก่อนก็ยังรักษาไม่หาย แล้วยังถูกพิษสะท้อนกลับ ข้าไม่รู้ด้วยสิ”

“ท่านบรรพบุรุษบอกว่ามีคนสอนเจ้า”

“ใครกัน?” หลีโม่คิดถึงอ๋องอานหรานได้เป็นคนแรก “ทำไมท่านอ๋องไม่ไปรักษาคนเดียวล่ะ? กลับเรียกข้าไปเนี้ยนะ? ข้าที่ถูกสอนมาให้เขาไปรักษาเองไม่ดีกว่าหรือ”

ซือถูเย้นจับมือนางเข้ามา กอดหมับและพูดว่า “ไม่ใช่ท่านอ๋อง เป็นอาจารย์ของท่านอ๋องต่างหาก”

หลีโม่เอามือปิดปากไว้ “ท่านหมอเวินยี่เหรอ?”

ซือถูเย้นพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ดีใจไหม?”

หลีโม่พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอ? ท่านหมอเวินยี่ขอมาเช่นนี้งั้นหรือ? เมื่อไหร่กัน?”

“ท่านบรรพบุรุษบอกว่าในสองวันนี้ก็คงจะถึงในเมืองเอง” ซือถูเย้นลูบสันจมูกนางเบาๆ มองดูสีหน้าที่มีความสุขของนางก็พูดว่า “เจ้าอยากจะเรียนกับนางขนาดนั้นเชียวหรือ? ดีใจมากเลยนะ?”

หลีโม่พูดตอบว่า: “แน่นอนสิ ก็เหมือนตอนที่เจ้าออกรบครั้งแรก เจ้าเป็นแค่นายทหารคนหนึ่ง ถ้าได้แม่ทัพสอนและเห็นตัวเองสำคัญ เจ้าจะดีใจไหมล่ะ?”

ซือถูเย้นยิ้มและพูดว่า: “เจ้าอยากเจอท่านหมอเวินยี่เช่นนั้นเชียวเหรอ ทำเอาข้าก็อยากเจอแล้วเหมือนกัน ยังไม่พูดเรื่องที่นางจะมาเป็นอาจารย์เจ้า บุคคลที่เป็นตำนานเช่นนี้ ข้าก็อยากจะเจอเหมือนกัน”

หลีโม่ต่อมาสองวันนี้ ก็เอาแต่อยู่กับกองหนังสือทั้งวัน ศึกษาทบทวนเรื่องการฝังของท่านหมอเวินยี่ ก็กลัวว่าตอนไหว้ครู อาจารย์อาจจะทดสอบนางก่อนก็ได้

ที่จริงไหว้ครูเป็นแค่สาเหตุหนึ่งที่นางตื่นเต้น ยังมีอีกสาเหตุที่ตื่นเต้นมากกว่าคือ หนังสือการฝังเข็มของท่านหมอเวินยี่ส่วนมากจะเป็นตัวจีนตัด นี่ก็คือเหตุผลที่อ๋องอานหรานดูไม่ออก นางน่าจะเป็นคนบ้านเดียวกัน และอีกอย่าง อาจจะเป็นเวินยี่ที่นางรู้จักเมื่อก่อน

เหตุผลที่หลีโม่ตื่นเต้น แน่นอนไม่ได้บอกกับไอ้เจ็ด นักปราชญ์ไม่พูดเรื่องภูตปีศาจ แม้ไอ้เจ็ดจะรู้ว่านางมาจากไหน แต่เรื่องนี้ พูดตลอดก็คงไม่ได้

วันนี้อ่านหนังสือ หูฮวนซีมาแล้ว

หลีโม่ก็แบ่งปันข้าวดีนี้ให้นางรู้ หูฮวนซีที่ได้ยินแล้ว ก็เบิกตาโพลงโตพูดไม่ออก นานมากกว่าจะพูดว่า “เมื่อไหร่กัน ข้าเปิดมิติ หาเงินทั้งสองทาง ถึงจะน่าสนุก”

“สมแล้วที่เป็นนักธุรกิจ พูดแต่ละเรื่องไม่ห่างจากเรื่องธุรกิจเลย” หลีโม่พูดและยิ้ม

“เจ้าเป็นหมอ ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง?” หูฮวนซีพูดด้วยรอยยิ้ม

ทั้งสองพูดเรื่องเมื่อก่อน หลีโม่ก็ถามว่า: “ช่วงนี้บริษัทเป็นยังไงบ้าง? ติ่งเฟิงก็จะได้ส่งออกนอกประเทศแล้ว ภูมิใจล่ะสิท่า?”

“ก็ไม่มีอะไรน่าภูมิใจหรอก ในปัจจับัน ส่งออกนอกประเทศก็ไม่นับอะไรหรอก” หูฮวนซีพูดอย่างถ่อมตัว แต่ว่า สีหน้ากลับดูภูมิใจมาก

เพราะยังไง ประเทศไม่เหมือนกัน

“พวกคนตระกูลหูชั้นสูงของพวกเจ้า ตอนนี้หยุดลงหน่อยหรือยัง?”

หูฮวนซีในมือจับแว่นไว้ สีหน้าดูลังเลมาก “เจ้ารู้ไหมว่าช่วงนี้อ๋องเย่เป็นอะไรไป?”

“อ๋องเย่?” หลีโม่นิ่ง “เขาเป็นอะไรเหรอ? พูดมาแล้ว ข้ากลับมายังไม่เห็นเขาเลย”

หูฮวนซีก้มหน้าลงและพูดว่า: “ก็ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่คิดว่าไม่เห็นเขานานแล้ว อยากถามว่าเขาไปทำอะไรน่ะ”

หลีโม่หัวเราะขึ้นมาและพูดว่า “พวกเจ้านี่เป็นคู่กัดกันจริงๆเลย ปกติพอเจอกันก็เอาแต่ทะเลาะ พอเขาไม่มาวุ่นวายกับเจ้า เจ้ารู้สึกตัวคันยุกยิกหรือไง?”

“ไม่ใช่นะ” หูฮวนซีหน้าแดงระเรื่อ “ไม่ใช่อย่างที่เจ้าว่ามาเสียหน่อย? ข้ากับเขาเป็นเพื่อนกันยังไม่นับเลย ก็เขาร่วมหุ้นทำธุรกิจใหม่ของข้า พวกเรานับว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ก็เหมือนกับเหลียงเหาเย๋และองค์หญิง เพื่อนร่วมงานไม่เจอแล้ว ข้าก็คงต้องถามหน่อยสิ? อย่าคิดไปมั่วนะ”

หลีโม่มองดูนางและพูดว่า “ไม่สิ ฮวนซี เจ้าหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกข้าไม่ได้หรอกนะ เจ้าคิดอะไรกับเขา เป็นเพราะเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา และเขาเป็นอ๋อง เจ้าคิดว่าไม่คู่ควรกับเขาเหรอ? ตายแล้ว เจ้าเป็นคนปัจจุบันนะ มีความคิดเช่นนี้ได้ยังไงกัน?”

หูฮวนซีมองค้อนนางอยู่นาน “เจ้ามีความคิดเช่นนี้ได้ยังไง? ข้าจะคิดว่าข้าไม่คู่ควรกับเขางั้นรึ?”

นางนิ่งไปสักพัก และปัดมืออย่างไม่สนใจ “ก็ได้ ข้าก็ไม่กลัวจะพูดตรงๆกับเจ้า เอาตามความจริงข้าก็รู้สึกชอบเขาหน่อยๆ เหตุผลนี้ เจ้าก็น่าจะรู้นะ หน้าตาเขาก็ดูใช้ได้ คนก็ดูดี แต่ว่า ข้าไม่ได้คิดว่าไม่คู่ควรกับเขา กลับกัน ข้าคิดว่าเขาไม่คู่ควรกับข้ามากกว่า แม้เขาจะเป็นอ๋อง แต่เขาก็เป็นแค่คนโบราณ ในยุคของพวกเรา เขาเป็นหินก้อนหนึ่ง ดีไม่ดีอาจจะเป็นดินปั้นก็ได้ เจ้าจะให้ข้าคบกับดินปั้นงั้นเหรอ ไม่เด็ดขาด!”

ครั้งนี้ ตาหลีโม่ที่มองค้อนนางแล้ว “ฮวนซี เจ้านี่จริงๆเลย……คนยุคใหม่ก็ต้องทำตัวให้เป็นยุคใหม่สิ พวกเราก็มาถึงที่นี่แล้ว สิ่งที่เจ้าเห็นทั้งหมด คนไหนบ้างที่ไม่ใช่คนที่ตายในยุคเรา? เจ้าจะเป็นโสดไปตลอดชีวิตหรือไง?”

“เป็นโสดตลอดไปมีอะไรไม่ดีกัน? ในปัจจุบัน ข้าก็ไม่คิดจะแต่งงานอยู่แล้ว”

“ในยุคปัจจุบันเจ้าไม่มีแฟนมาตลอดเลยเหรอ?”

“มีแฟนก็ไม่ได้แปลว่าจะแต่งงาน แต่งงานน่ะยุ่งยากจะตาย ยังต้องคลอดลูกอะไรอีก เดี๋ยวมาขัดขวางการทำงานข้าอีก”

พูดจบ นางมองไปที่ท้องของหลีโม่ “ยังดีที่เจ้าเป็นพระชายา ยังมีกินมีที่อยู่ ธุรกิจบ้านก็ใหญ่โต มีร้านมากมายที่ผลิตข้าวสารอาหารแห้งให้ แต่ถ้าเจ้าข้ามมิติมาเป็นข้ารับใช้ จะคบหามีความรักอย่างมีความสุขแบบนี้เหรอ? เกรงว่าถ้าดูแลรับใช้เจ้านายไม่ดี คงถูกขายไปให้ตาแก่อายุเจ็ดแปดสิบเป็นเมียน้อยแล้วล่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม