บทที่831 ท่านอาจารย์จะมา
หลิงลี่ก็พูดสิ่งที่จื่นเฉิงบอกมา หลีโม่รู้ว่าจื่นเฉิงหมายความถึงไอ้เจ็ด
นางครุ่นคิดสักครู่ รู้สึกตัวเองอยู่ในเมือง อาจทำให้ไอ้เจ็ดคิดมากและเอาแต่ห่วงนาง และนางยังหวังอยากจะดูแลครรภ์ตัวเองดีๆ เพราะเหตุนี้ นางจึงตกลงที่จะไปโดยหาน
จากนั้น ไอ้เจ็ดเข้าวังไป กลับบอกนางว่าท่านบรรพบุรุษให้นางไปรักษาอาการป่วยของฮ่องเต้
“ข้า?” หลีโม่ถามอย่างแปลกใจ
“นางพูดมาแบบนี้”
“แต่ว่า ข้าก็ไม่รู้ว่าอาการป่วยตอนนี้ของฮ่องเต้เป็นอย่างไรบ้าง อาการป่วยครั้งก่อนก็ยังรักษาไม่หาย แล้วยังถูกพิษสะท้อนกลับ ข้าไม่รู้ด้วยสิ”
“ท่านบรรพบุรุษบอกว่ามีคนสอนเจ้า”
“ใครกัน?” หลีโม่คิดถึงอ๋องอานหรานได้เป็นคนแรก “ทำไมท่านอ๋องไม่ไปรักษาคนเดียวล่ะ? กลับเรียกข้าไปเนี้ยนะ? ข้าที่ถูกสอนมาให้เขาไปรักษาเองไม่ดีกว่าหรือ”
ซือถูเย้นจับมือนางเข้ามา กอดหมับและพูดว่า “ไม่ใช่ท่านอ๋อง เป็นอาจารย์ของท่านอ๋องต่างหาก”
หลีโม่เอามือปิดปากไว้ “ท่านหมอเวินยี่เหรอ?”
ซือถูเย้นพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ดีใจไหม?”
หลีโม่พยักหน้าอย่างตื่นเต้น “จริงเหรอ? ท่านหมอเวินยี่ขอมาเช่นนี้งั้นหรือ? เมื่อไหร่กัน?”
“ท่านบรรพบุรุษบอกว่าในสองวันนี้ก็คงจะถึงในเมืองเอง” ซือถูเย้นลูบสันจมูกนางเบาๆ มองดูสีหน้าที่มีความสุขของนางก็พูดว่า “เจ้าอยากจะเรียนกับนางขนาดนั้นเชียวหรือ? ดีใจมากเลยนะ?”
หลีโม่พูดตอบว่า: “แน่นอนสิ ก็เหมือนตอนที่เจ้าออกรบครั้งแรก เจ้าเป็นแค่นายทหารคนหนึ่ง ถ้าได้แม่ทัพสอนและเห็นตัวเองสำคัญ เจ้าจะดีใจไหมล่ะ?”
ซือถูเย้นยิ้มและพูดว่า: “เจ้าอยากเจอท่านหมอเวินยี่เช่นนั้นเชียวเหรอ ทำเอาข้าก็อยากเจอแล้วเหมือนกัน ยังไม่พูดเรื่องที่นางจะมาเป็นอาจารย์เจ้า บุคคลที่เป็นตำนานเช่นนี้ ข้าก็อยากจะเจอเหมือนกัน”
หลีโม่ต่อมาสองวันนี้ ก็เอาแต่อยู่กับกองหนังสือทั้งวัน ศึกษาทบทวนเรื่องการฝังของท่านหมอเวินยี่ ก็กลัวว่าตอนไหว้ครู อาจารย์อาจจะทดสอบนางก่อนก็ได้
ที่จริงไหว้ครูเป็นแค่สาเหตุหนึ่งที่นางตื่นเต้น ยังมีอีกสาเหตุที่ตื่นเต้นมากกว่าคือ หนังสือการฝังเข็มของท่านหมอเวินยี่ส่วนมากจะเป็นตัวจีนตัด นี่ก็คือเหตุผลที่อ๋องอานหรานดูไม่ออก นางน่าจะเป็นคนบ้านเดียวกัน และอีกอย่าง อาจจะเป็นเวินยี่ที่นางรู้จักเมื่อก่อน
เหตุผลที่หลีโม่ตื่นเต้น แน่นอนไม่ได้บอกกับไอ้เจ็ด นักปราชญ์ไม่พูดเรื่องภูตปีศาจ แม้ไอ้เจ็ดจะรู้ว่านางมาจากไหน แต่เรื่องนี้ พูดตลอดก็คงไม่ได้
วันนี้อ่านหนังสือ หูฮวนซีมาแล้ว
หลีโม่ก็แบ่งปันข้าวดีนี้ให้นางรู้ หูฮวนซีที่ได้ยินแล้ว ก็เบิกตาโพลงโตพูดไม่ออก นานมากกว่าจะพูดว่า “เมื่อไหร่กัน ข้าเปิดมิติ หาเงินทั้งสองทาง ถึงจะน่าสนุก”
“สมแล้วที่เป็นนักธุรกิจ พูดแต่ละเรื่องไม่ห่างจากเรื่องธุรกิจเลย” หลีโม่พูดและยิ้ม
“เจ้าเป็นหมอ ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือไง?” หูฮวนซีพูดด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองพูดเรื่องเมื่อก่อน หลีโม่ก็ถามว่า: “ช่วงนี้บริษัทเป็นยังไงบ้าง? ติ่งเฟิงก็จะได้ส่งออกนอกประเทศแล้ว ภูมิใจล่ะสิท่า?”
“ก็ไม่มีอะไรน่าภูมิใจหรอก ในปัจจับัน ส่งออกนอกประเทศก็ไม่นับอะไรหรอก” หูฮวนซีพูดอย่างถ่อมตัว แต่ว่า สีหน้ากลับดูภูมิใจมาก
เพราะยังไง ประเทศไม่เหมือนกัน
“พวกคนตระกูลหูชั้นสูงของพวกเจ้า ตอนนี้หยุดลงหน่อยหรือยัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...