บทที่832 เป็นผู้มีพระคุณจริงด้วย – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม
ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่832 เป็นผู้มีพระคุณจริงด้วย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่832 เป็นผู้มีพระคุณจริงด้วย
คำนี้ก็จริงอยู่ หลีโม่ฟังแล้วก็ต้องฉุกคิดทันที
แต่ว่า ต่อมาก็พูดว่า: “ช่างเถอะ ตอนที่ข้ามา ก็เหมือนกับข้ารับใช้นั่นแหละ ดีไม่ดีอาจจะแย่กว่าอีก ข้ารับใช้ยังไงทำงานมาทั้งวันก็ยังได้ข้าวกิน ข้า……เฮอะ ก็เป็นแค่คนที่เสียสละให้คนที่บ้านเท่านั้นเอง”
“ไม่ง่ายเลยนะ ข้า……ข้ายากกว่าอีก” หูฮวนซีถอนหายใจยาวๆ “ตอนนี้สิ่งที่ข้ามีทั้งหมด มาจากความพยายามของข้า ข้าจะไม่ทิ้งงานตัวเองไปเพียงเพราะต้องแต่งงานและมีลูก ส่งออกนอกเมืองเป็นแค่ขั้นแรก ขั้นที่สอง……”
“ขึ้นตลาด?” หลีโม่หัวเราะ
หูฮวนซีพูดตอบว่า “อืม สถานการณ์ไม่อำนวยน่ะสิ”
ทั้งสองมองตากันและหัวเราะออกมา
ตอนเย็นไอ้เจ็ดกลับมา หลีโม่ก็ถามว่า: “ช่วงนี้เจ้าเก้าไปไหนแล้ว? เจ้ากลับมายังไม่เห็นเขามาหาเจ้าเลย”
“มัวยุ่งเรื่องของตึกเสหานน่ะ หยันสวี้ครั้งนี้หาสำนักงานใหญ่ของตึกเสหานได้แล้ว” ซือถูเย้นพูด
หลีโม่เดาว่าคงเป็นเพราะเหตุนี้ ไม่งั้นอ๋องเย่ที่ว่างงาน ยังถูกไท่ฮองไท่เฮา “ไล่ออกจากงาน” ยังจะยุ่งกับที่ไหนกัน?
“ทำไมเหรอ? ทำไมถึงถามถึงเขาล่ะ?” ซือถูเย้นให้เย็นเอ๋อร์แขวนเสื้อนอกให้ดี และนั่งลงถามหลีโม่
“วันนี้ฮวนซีมาน่ะ ถามถึงเจ้าเก้า” หลีโม่เทน้ำให้เขา “กินข้าวมาหรือยัง?”
“กินแล้วล่ะ วันนี้ไปที่ตำหนักพี่รอง ให้เขาเตรียมตัวการออกเดินทางสองวันนี้”
“ออกเดินทาง? ไปไหนเหรอ?” หลีโม่อึ้งและถาม
“ข้าตัดสินใจส่งเขาไปสู่ขอที่แคว้นต้าเหลียง ไปพร้อมกับเจ้าเมือง พอไปแล้ว เจ้าเมืองจะอยู่พักที่นั่น รอเฮ่าเอ๋อแต่งงานกับอี้เอ๋อร์ก่อน พี่รองที่เป็นทูต ก็พักอยู่ที่นั่นสักพัก”
“พักที่นั่น?”
“อืม หนึ่งปีพักสิบเอ็ดเดือน สิ้นปีกลับมาครั้งหนึ่ง” ซือถูเย้นพูดด้วยรอยยิ้ม
หลีโม่ก็ดีใจมาก “งั้นก็ดีน่ะสิ พวกเขาออกจากต้าโจวไป ก็ไม่มีใครพูดอะไรแล้ว พวกเขาอยากทำอะไรก็ได้ อ๋องอานชินอดทนมานานหลายปี เขาควรมีชีวิตเป็นของตัวเองแล้วล่ะ”
“นั่นสิ ที่จริงนี่เป็นความหมายของท่านบรรพบุรุษ ท่านคิดว่าพี่รองจะพาเจ้าเมืองไปนานแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขากลับรออยู่ที่เดิมตั้งนาน จะรอให้เจ้าเมืองพูดตกลงก่อน เขาถึงจะพาไป ท่านบรรพบุรุษยังบอกว่าเขาเป็นไม่สาก ผู้หญิงน่ะ ถ้าพูดยังไงก็ไม่ไป ก็มัดไปเลยสิ”
หลีโม่หัวเราะ “ท่านบรรพบุรุษเด็ดขาดจริง”
“ไม่ใช่เพราะท่านบรรพบุรุษเด็ดขาดหรอก แต่คงเพราะท่านเข้าใจผู้หญิงด้วยกันเองมากกว่า ท่านบรรพบุรุษคงจะดูออกแล้วว่าเจ้าเมืองมีใจให้พี่รอง ถ้าไม่ใช่แบบนี้ ท่านคงไม่พูดแบบนี้ พี่รองน่ะ ปกติจะเห็นเขาเป็นคนเข้มงวด ดูแลตัวเองดี ถ้าไม่ใช่ได้ยินเจ้าเมืองพูดว่าตกลง เขาไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน ไม่งั้น ตอนนั้นเขากลับจากออกรบก็จับเจ้าเมืองมาก็ได้แล้ว”
“ถ้าจับไปแล้ว ท่านแม่ของข้าคงจะไม่ต้องทุกข์ทรมานเป็นสิบปีเช่นนี้” หลีโม่พรึมพรำ เจอคนที่ใช่ในเวลาที่ผิด น่าอดสู่จริง
“ทุกเรื่องล้วนต้องเผชิญเองถึงจะรู้ ถ้าตอนนั้นพี่รองจับตัวนางมาเลย เจ้าเมืองคงได้เกลียดเขาตลอดไปแน่ ในตอนนั้น นางกับเสี้ยห้วยจุนยังรักกัน แต่ก็เผชิญเรื่องด้านหลังมา ถึงทำให้นางเจ็บช้ำใจไปเลย”
“นั่นสิ” หลีโม่มองซือถูเย้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่คิดเลยนะ เจ้ามีความคิดเห็นเช่นนี้กับความรัก”
ซือถูเย้นมองนางอย่างจริงจัง และพูดด้วยถ้อยคำหวานแหวว “เมาแล้วถึงรู้ฤทธิ์เหล้า รักแล้วถึงรู้จักความรัก”
หลีโม่หัวเราะพูดตอบว่า “เจ้าไปเรียนมาจากไหนกัน?”
“อาซื๋อกูกูบอกข้ามาน่ะ” ซือถูเย้นพูดและหัวเราะ
“ใครเหรอ?” หลีโม่ถาม
ซือถูเย้นพยุงนางไปที่เก้าอี้นอน ให้นางล้มตัวลงไปนอนครึ่งตัว จากนั้นก็พูดว่า: “เลือกคนจากสู้เยว่โหลวมาน่ะ คนพวกนี้ต่อไปจะตามตัวเจ้าไป ดังนั้น เจ้าต้องเลือกคนที่ตัวเองถูกตา”
“ได้!” หลีโม่ตอบตกลงทันที ที่จริงเลือกไม่เลือกก็ไม่สำคัญเลย เพราะนางรู้ว่าไอ้เจ็ดต้องตรวจสอบประวัติของพวกเขาทั้งหมดแล้ว ถ้าไม่น่าไว้ใจเขาคงไม่ส่งมา
ซืถูเย้นนอนลงที่เดียวกับนาง ให้หลีโม่นอนลงที่ไหล่ของเขา เย็นเอ๋อร์เข้ามา เห็นภาพอบอุ่นตรงหน้า ก็เผลอยิ้มกว้างออกมา นางนำชาและขนมไปวางไว้บนโต๊ะข้างๆ และเดินออกไปทันที
พึ่งออกไป ก็เห็นหวั่นจิ้งเอาบิญชีมา เย็นเอ๋อร์รีบพูดว่า: “พี่หวั่นจิ้ง พรุ่งนี้ค่อยมาเถอะ ท่านอ๋องกับพระชายากำลังคุยกันอยู่”
หวั่นจิ้งหยุดเดินทันที “ขอบใจนะเย็นเอ๋อร์ งั้นพรุ่งนี้ข้าค่อยมาใหม่”
“พี่หวั่นจิ้ง มามาทำขนมมาน่ะ ทำเยอะไปหน่อย จะกินไหม?” เย็นเอ๋อร์เริ่มไว้ใจหวั่นจิ้งแล้ว เพราะยังไงตอนที่นางมา กุ้ยหยวนเลยต้องไปทำงานที่ลานจวงจือ
หวั่นจิ้งมองเย็นเอ๋อร์ด้วยสายตาซาบซึ้ง “ขอบใจนะ เดี๋ยวข้าค่อยมาเอา”
เย็นเอ๋อร์เคารพนางไปตำหนัก คนอื่นถึงจะเคาระตาม ก่อนหน้านี้มีบางคนเคยบอกว่านางมาเพราะท่านอ๋อง ยังดีเย็นเอ๋อร์กราดด่าให้พวกนั้นเงียบไป ถึงได้มีช่วงวันเวลาที่เงียบสงบได้
เย็นเอ๋อร์พูดว่า: “ตอนนี้ข้าก็ไม่มีอะไรทำ ข้าส่งไปที่ห้องบัญชีแทนเจ้าก็ได้นะ และส่งไปหมออู๋ด้วย”
หวั่นจิ้งนิ่งสักพัก ขมวดคิ้วอ่อนๆและพูดว่า “เย็นเอ๋อร์ หมออู๋คนนั้นเป็นผู้มีพระคุณของพระชายาเหรอ?”
“ใช่ เขาช่วยพระชายาไว้ มามาบอกว่าให้ดูแลอย่างดี” เย็นเอ๋อร์พูด
หวั่นจิ้งทำหน้าเข้าใจ และพูดว่า “ได้ รู้แล้วล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...