อ่านสรุป บทที่ 836 สองแม่ลูกทะเลาะกัน จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง
บทที่ บทที่ 836 สองแม่ลูกทะเลาะกัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 836 สองแม่ลูกทะเลาะกัน
ทางด้านหลี่ปู้วิ่งเต้นจนเท้าแทบหัก ขุนนางหลี่ปู้ไม่ว่าเล็กใหญ่อย่าว่าแต่ทานข้าว แม้แต่ดื่มน้ำสักคำยังไม่มีเวลา ทางนี้ต้องเตรียมสินสอดที่จะสู่ขอองค์หญิงต้าเหลียง ทางนั้นต้องเตรียมสินสอดขององค์หญิงใหญ่ ถึงแม่จะมีคนในจวนคอยช่วย แต่พิธีการมากมายยังคงต้องเป็นหลี่ปู้จัดเตรียม
ซือถูเย้นก็กลายเป็นไปเช้าค่ำกลับ ส่วนหลีโม่จัดเตรียมการต้อนรับการมาของท่านหมอเวินยี่ ก่อนหน้านี้บอกว่าสองวัน แต่ตอนนี้ผ่านไปตั้งสี่วันแล้ว ก็ยังมาไม่ถึง
เช้าวันนี้ ไทฮองไทเฮาสั่งให้หลีโม่เข้าวังไปตรวจอาการเบื้องต้นให้กับฮ่องเต้ ส่วนการักษารอท่านหมอเวินยี่มาแล้วค่อยว่ากัน
เดิมวันนี้เจ้าเมืองบอกว่าจะมา หลีโม่จึงต้องให้คนไปบอกนางว่า ให้นางมาช่วงพลบค่ำ
ตั้งแต่หลังจากครั้งนั้นเจ้าเมืองก็พักรักษาตัวอยู่แต่ในจวน เมื่อหลีโม่กลับมาแล้วนางก็พูดว่าจะมาหา แต่อ๋องอานชินไม่ให้นางมา บอกว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการพักรักษาตัว หลีโม่ก็ไม่ได้ไปหา ก็เพาะอ๋องอานชินพูดกับหลีโม่ว่า หากเจ้าเมืองเห็นหลีโม่จะทำให้ตื่นเต้น ส่งผลกระทบต่ออาการบาดเจ็บ ความผูกพันระหว่างแม่ลูกสำคัญกว่าอาการบาดเจ็บหรือ? ดังนั้นจึงถูกกีดกันไม่ให้ได้ไปมาหาสู่กัน
ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว หลีโม่ก็พาหลิงลี่ออกเดินทาง ตี่สุยกับโฮ่หยุน จะต้องติดตามไปด้วยอยู่ด้วย ทั้งสองคนขี่ม้าตามอยู่ด้านหลังรถม้า การเดินทางไม่ได้เป็นที่สนใจ เหมือนรถม้าคนรวยเดินทางปกติเท่านั้น ดูเก่ากว่าด้วยซ้ำ
หลีโม่ไม่เคยสนใจลาภยศ หากสามารถไม่เป็นที่สนใจจะดีที่สุด
เสียงรถม้าดัง “ตึกตัก”อยู่บนถนน ถนนหนทางเริ่มคึกคักขึ้นมา ตอนเช้าบนถนนเส้นนี้มีร้านอาหารเช้าเยอะที่สุด กลิ่นหอมๆของขนมปังกับซาลาเปาร้อนๆโชยมา กลิ่นควันฟุ้งกระจาย
หลีโม่เปิดม่านมองดูชาวบ้านที่กำลังยุ่งกันอยู่ ในใจรู้สึกถึงความเป็นจริงของการใช้ชีวิต
“โย้ นั่นไม่ใช่ฮูหยินหลิงหลงหรือ?”หลิงลี่พูดขึ้นมาในทันใด “เหมือนกำลังทะเลาะอยู่กับคนอื่น”
ชื่อที่ไม่เคยได้ยินมานานมากแล้ว หลีโม่แทบจะลืมนางไปแล้ว
หลิงลี่หัวเราะขึ้นมา “เป็นเสี้ยโล่เยว่”
นางสั่งให้คนขับรถม้าหยุดรถ แล้วมองดูผ่านหน้าต่าง
เดิมหลีโม่ได้อยากดู นางคิดมาตลอดว่าเสี้ยโล่เยว่กับฮูหยินหลิงหลงตายไปแล้ว
แต่ได้ยินเสียงกรี๊ดด่าดังมาจากด้านนอก หลีโม่จึงสนใจขึ้นมา ขยับหันมองไปดูพร้อมกับหลิงลี่
“ไม่มีได้ยังไง?”เสี้ยโล่เยว่พูดอย่างไม่พอใจว่า “ วันนั้นน้องชายให้เงินเจ้ามาหนึ่งร้อยตำลึง ข้าคำนวณดูแล้ว ตอนนั้นพวกเราใช้มากที่สุดก็น่าจะแค่ห้าสิบตำลึง ยังเหลืออีกห้าสิบตำลึงเจ้าต้องเอาไปแล้วแน่ ที่เหลืออีกห้าตำลึง แบ่งมาให้ข้าครึ่งหนึ่ง แสดงว่าต้องให้ค่าอีกสิบห้าตำลึง
เฉินหลิงหลงพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า " เจ้าพูดเหลวไหล เงินหนึ่งร้อยตำลึงนั่นเจ้าใช้หมดไปตั้งนานแล้ว แค่ใช้ซื้อเครื่องแป้งเครื่องสำอางของเจ้า ก็ใช้ไปตั้งเท่าไหร่แล้ว? ของกินของดื่มเจ้าก็จะเอาแต่ของดีๆ บอกให้เจ้าประหยัดบ้าง เจ้าก็ไม่ฟัง ตอนนี้เงินก็ใช้หมดแล้ว เจ้ายังจะมาหาว่าข้าโกงเจ้าหรือ? จะบอกเจ้าให้นะ ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกของเราสองคนจบไปนานแล้ว ตอนที่เจ้าคิดว่าจะสามารถได้เสพสุข เจ้าถีบหัวข้าส่ง ข้าหาทางออกได้แล้ว เดิมก็คิดที่จะอยากพาเจ้าไปด้วย แต่เจ้ามีท่าทีอย่างไร?"
"อย่าพูดไม่น่าฟังขนาดนั้น ตอนนั้นเงินอยู่ในมือของเจ้า เครื่องสำอางพวกนั้นข้าก็ซื้อไปไม่เท่าไหร่เอง ส่วนใช้ไปเท่าไหร่กันแน่ ในใจเจ้ารู้ดีที่สุด ข้าไปถามมาหมดแล้ว เจ้าบอกว่าเครื่องแป้งกล่องสามตำลึง ที่จริงแค่สลึงเดียว ส่วนที่เหลือเจ้าก็หักเอาไปหมดแล้ว”
คนเดินไปมาต่างก็ล้อมมามุงดู รู้สถานะของทั้งสองคนแล้ว ต่างก็นินทาต่อว่ากันต่างนานา
ตอนนี้เฉินหลิงหลงมีสามีใหม่แล้ว นางหน้าไม่อาย แต่สามีของนางอาย เห็นคนมามุงดูเยอะ สีหน้าชายขายเนื้อก็ค่อยๆแย่ลง นางจึงโกรธขึ้นมา “เงินพวกนั้นลูกชายของข้าให้ข้า อย่าว่าแต่ข้าเอาไปใช้บนตัวเจ้า ต่อให้ข้าใช้เองหรือเก็บเอาไว้ ล้วนก็เป็นเรื่องที่สมควร ทำไมข้าต้องให้เจ้า? หากไม่ใช่เพื่อเพราะเจ้า ข้าก็ไม่ต้องมาตกยากลำบากแบบทุกวันนี้ กว่าข้าจะได้มีชีวิตที่สงบสุข เจ้ากลับมาเดือดร้อนว่าข้าโกง? ยังมีจิตใจอยู่ไหม? หากเจ้ายังไม่ไป เชื่อไหมว่าข้าจะฉีกปากของเจ้าเป็นชิ้นๆ?”
เสี้ยโล่เยว่จนจนเป็นบ้าไปแล้ว นางไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด เขย่งเท้าข้างหนึ่งแล้วก็ตะคอกพูดขึ้นมาว่า “เจ้าฉีกสิ เจ้าฉีกปากข้าแล้วดูสิเจ้าจะต้องชดใช้ให้ข้าไหม? ยังไงวันนี้ถ้าไม่ได้เงิน ข้าก็จะไม่ไป เจ้าผ่าหัวเลยหรือ? ข้าไม่เคยเห็นผู้หญิงที่น่าไม่อายแบบเจ้านี้ ลูกชายลูกสาวของตัวเองก็ไม่สนใจ วิ่งตามผู้ชายไป ยังไงท่านพ่อก็เป็นถึงเฉิงเสี้ยง เจ้าไม่รักษาเกียรติของเขาขนาดนี้ จะต้องไม่ได้ตายดีแน่”
เฉินหลิงหลงถูกนางด่าจนเสียสติแล้ว ไม่สนใจว่ามีคนอยู่เยอะแยะขนาดนี้ ตะคอกพูดออกไปว่า “เจ้าคิดว่าพ่อของเจ้าคือเสี้ยห้วยจุนหรือ? ข้าบอกเจ้าแต่แรกแล้ว พ่อของเจ้าคือเฉินเอ้อ เจ้าเป็นลูกของคนบ้าคนหนึ่งเท่านั้น”
ทุกคนได้ยินแล้ว ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นที่ร่ำลือกันทั่วเมืองหลวง แต่ก็ไม่เคยมีหลักฐาน ตอนนี้ได้ยินเฉินหลิงหลงพูดออกมาต่อหน้า ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
ใครจะไปคิด เฉิงเสี้ยงที่ตายไปแล้วคนนั้น ถูกสวมเขามาตั้งนานหลายปีก็ไม่รู้ตัว
ในขณะที่ทุกคนกำลังน้ำตาไหลเห็นใจเฉิงเสี้ยงอยู่ เสี้ยโล่เยว่ได้ยินเช่นนี้แล้ว อับอายจนหน้าแดงกลายเป็นสีเลือดหมู ไม่จาสักคำ พับแขนเสื้อขึ้นแล้วก็เดินพุ่งเข้าไป ตบตีเฉินหลิงหลงขึ้นมา
เสี้ยโล่เยว่คนนี้เมื่อก่อนเป็นเพียงผู้หญิงรูปร่างเพรียวบ้าง คิดไม่ถึงว่าหลังจากผ่านความลำบากมาสักพักหนึ่งแล้ว กลับกลายเป็นคนที่มีแรงมาก แค่กระโจนเข้าไปก็ทำให้เฉินหลิงหลงล้มลงกับพื้นไปแล้ว
เฉินหลิงหลงนั่นก็เป็นคนที่ไม่ยอมให้ใครรังแกได้ง่ายๆ ยกมือกำเส้นผมของเสี้ยโล่เยว่ ยกเข่าชันขึ้น เสี้ยโล่เยว่ก็กลิ้งไปอีกข้าง เฉินหลิงหลงควบขี่อยู่บนตัวนาง ตกหน้าซ้ายขวา ตบลงไปแต่ละที เจ็บจนเสี้ยโล่เยว่ร้องเรียกหาพ่อหาแม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...