พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 838

บทที่ 838 ยังไงก็ทำใจไม่ได้

หลีโม่คิดถึงคำพูดที่เหลาไท่จุนพูดถึงไทฮองไทเฮา ตั้งใจปกปิดสถานะของนาง คิดว่า สถานะของนางน่าจะเป็นเหมือนกับปรมาจารย์หมอผีอย่างเหมาเสี่ยวฟาง

เพียงแต่ เมื่อพูดแบบนี้ งั้นโลกนี้ก็มีผีจริงๆ?

“ในโลกนี้หากไม่มีผี วิญญาณของเจ้าทำไมถึงสามารถเข้ามาอยู่ในร่างของคนอื่นเขาได้?” ไทฮองไทเฮาเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความคิดเบื้องลึกในใจนาง พูดได้ตรงใจเลย

หลีโม่คิดอยู่แปบหนึ่ง “ก็จริง เรื่องบางเรื่อง วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถที่จะอธิบายได้”

“เอาเถอะ วันนี้ข้าไม่ได้อยากคุยกับเจ้าเรื่องวิทยาศาสตร์”

อาซื๋อกูกูยกน้ำชามา ยกให้กับหลีโม่ก่อน หลีโม่รีบรับมา แล้วเอาถ้วยชาในมือถวายให้กับไทฮองไทเฮา “ท่านดื่มก่อน”

รู้ว่าเราสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้ หลีโม่ยิ่งนับถือนาง

ไทฮองไทเฮาไม่รับ เพียงแค่มองดูนาง แล้วก็พูดอย่างเบื่อหน่ายว่า “หลีโม่ ถ้าพูดเรื่องพวกนี้กับเจ้า เพราะอยากที่จะสนิทกับเจ้า ยอมพูดเรื่องในใจกับเจ้า ดูเจ้าสิ ทำกับข้าเหมือนอยากเห็นผี ก่อนหน้านี้เจ้าก็ไม่ได้กลัวข้าขนาดนี้ ตอนนี้ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”

หลีโม่เห็นท่าทีนางก็เริ่มผ่อนคลายลง สีหน้าก็ไม่ได้มีความน่าเกรงขามนั้น ในใจค่อยโล่งอก พูดขึ้นตรงๆว่า “ถึงแม้ข้าจะรู้ว่าตั้งแต่วันที่ข้าข้ามภพมา สิ่งต่างๆมากมายไม่สามารถใช้วิทยาศาสตร์อธิบาย เพียงแต่ เรื่องผีสางพวกนี้ ยังไงในใจก็ยังคงนับถือ ตั้งแต่เริ่มได้พบเห็นสิ่งแปลกประหลาดที่วัดพญามังกร ในใจของข้าเหมือนแขวนอยู่ในที่สูง บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง”

“นี่เป็นเรื่องไม่สอดคล้องกับความเชื่อของตัวเจ้าเอง จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกแปลก ดังนั้นข้าจึงได้ให้สายเชือกเตาปาแก่เจ้า เพื่ออยากที่จะให้เจ้ายอมรับทีละนิด เจ้าเด็กคนนี้ ก็ดื้อรั้นจริงๆ ไม่โทษเจ้า เพราะเดิมเจ้าเป็นคนเรียนหมอคนหนึ่ง”

ไทฮองไทเฮาเปลี่ยนเป็นคนที่น่าสนิทสนมขึ้นมา ในใจหลีโม่ค่อยสบายขึ้น แล้วก็พูดว่า “ขอบคุณ”

ไทฮองไทเฮาเห็นนางไม่ค่อยเกร็งแล้ว ค่อยพูดว่า “อาการของฮ่องเต้ไม่สู้ดีนัก นอกจากอาการปานผีเสื้อหนักขึ้นแล้ว ยังมีพิษไสยศาสตร์กำเริบ หากเจ้ารักษาไม่ดี พวกเนรคุณพวกนั้นก็จะหาว่าเจ้าสังหารกษัตริย์ ดังนั้นเจ้าต้องระวังหน่อย เวินยี่จะสอนเจ้าเรื่องทักษะทางการแพทย์เท่านั้น จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการรักษาของเจ้าข้าก็จะไม่ถามว่าเจ้ารักษายังไง วิธีการรักษาต่างๆ เจ้าจะต้องดำเนินการด้วยตัวเอง”

หลีโม่ค่อนข้างแปลกใจ “ทำไมถึงไม่ให้ท่านหมอเวินยี่รักษาให้ฮ่องเต้เลยล่ะ?”

อาซื๋อกูกูพูดว่า “ฮ่องเต้ ยังไงก็ยังเป็นฮ่องเต้ คนบางคนไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับอายุขัยของฮ่องเต้ คนบางคนสามารถทำได้”

หลีโม่ยิ่งไม่เข้า แสดงว่านางเป็นคนที่สามารถยุ่งเกี่ยวกับอายุขัยของฮ่องเต้ หรือว่า ตัวเองยังมีความเป็นมาอื่น? เป็นเทพลงมาเกิด?

“ข้า... เก่งขนาดนี้เลยหรือ?” หลีโม่ลองถาม

อาซื๋อกูกูพูดอย่างหมั่นไส้ว่า “คนที่มีความสามารถทางการแพทย์ทุกคน ต่างก็สามารถยุ่งเกี่ยวกับอายุขัยของฮ่องเต้ไม่ได้ ไม่ ต่อให้ไม่ใช่คนที่มีความรู้ทางการแพทย์ก็สามารถทำได้ ขอให้เป็นคนล้วนได้ทั้งนั้น เข้าใจหรือยัง?”

หลีโม่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่เข้าใจ “ขอให้เป็นคนใครก็สามารถทำได้ แต่ท่านหมอเวินยี่กับบรรพบุรุษกลับไม่สามารถทำได้ พวกเจ้าไม่ใช่คน?”

หลีโม่รู้สึกว่าเซลล์สมองของตัวเองไม่พอใช้ นางจะต้องโง่ไปแล้วแน่ๆ

อาซื๋อกูกูถอนกายใจ “ท่านหมอเวินยี่เป็นไทฮองไทเฮาของแคว้นต้าเหลียง นางมาช่วยรักษาให้กับฮ่องเต้ต้าโจวของเรา รักษาได้ก็ไม่เป็นไร หากรักษาไม่ได้ล่ะ? ส่วนบรรพบุรุษ...”

อาซื๋อกูกูหันไปมองดูไทฮองไทเฮา “นี่เป็นเรื่องของสถานะ เจ้าก็ไม่ต้องรู้ว่าเป็นสถานะอะไร”

หลีโม่ค่อยคิดขึ้นมาได้หน่อย ท้องหนึ่งคนโง่ไปสามปีเป็นเรื่องจริง นางเริ่มเข้าสู่อาการของคนมีความโง่แล้ว ยังมีอีกสามปีที่ต้องผ่านไป

ถึงแม้จะรู้สึกแปลกกับสถานะของไทฮองไทเฮา แต่นางก็ฉลาดพอที่จะไม่ถาม หาคนอื่นอยากพูด คงพูดแต่แรกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม