สรุปเนื้อหา บทที่ 839 ข้าไม่ได้เป็นคนดีขนาดนี้ – พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง
บท บทที่ 839 ข้าไม่ได้เป็นคนดีขนาดนี้ ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 839 ข้าไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้นนี้
หลีโม่ถอนหายใจ ญาติพี่น้องเป็นอะไรที่ตัดขาดกันยากอยู่แล้ว เหมือนกับไอ้เจ็ด กุ้ยไท่เฟยทำกับเขาขนาดนี้ เขาก็ยังคงลงมืออย่างเด็ดขาดไม่ลงไม่ใช่หรือ?
ลู่กงกงยืนรอรับอยู่ในประตูที่สอง ทำความเคารพ แล้วก็พาอาซื๋อกูกูกับหลีโม่เข้าไป
หมุยกุ้ยเฟยยังคงปรนนิบัติอยู่ข้างเตียง เห็นหลีโม่เข้ามา ดวงตาของนางก็เปียกชื้น “มาแล้วหรือ?”
“เหนียงเหนียง” หลีโม่ย่อคำนับ
“ย่อได้เกรงใจ” หมุยกุ้ยเฟยพยุงหลีโม่ “เห็นเจ้าปลอดภัยกลับมา ก็ดีแล้ว”
“ขอบพระทัยที่เหนียงเหนียงเป็นห่วง ข้าไม่เป็นไร” หลีโม่ยิ้มมองดูนาง “ขอแสดงความยินดีเหนียงเหนียงได้เป็นถึงกุ้ยเฟย”
หมุยกุ้ยเฟยพูดขึ้นอย่างขมขื่นว่า “เป็นเรื่องดี แต่...”
นางหันไปมองดูบนเตียงผู้ป่วย พูดขึ้นอย่างเป็นเหนื่อยใจว่า “ฮ่องเต้เริ่มนอนตั้งแต่เมื่อคืน ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตื่น หมอหลวงมาดูตั้งหลายรอบแล้ว ล้วนบอกว่าอาการไม่ค่อยดี เจ้ามาแล้ว ข้าก็วางใจแล้ว”
หลีโม่ไม่ได้พูดปลอบนาง ต่อให้พูดไปก็ไม่ใช่คำที่มาจากใจ นางไม่อยากพูดอะไรที่ไม่ตรงกับใจตัวเอง
ลู่กงกงคุกเข่าอยู่บนพื้น ก้มหัวให้หลีโม่หลายที “พระชายา ขอท่านอย่าถือสาเรื่องไม่ดีที่ผ่านมา บ่าวขอร้องท่านตรงนี้ ขอร้องที่เมื่อก่อนบ่าวก็เคยช่วยท่าน ช่วยท่านอ๋องไว้ ช่วยเหลือฮ่องเต้ด้วยเถอะ”
หลีโม่ไม่เคยลืมบุญคุณที่ผ่านมา สำหรับลู่กงกงก็นับถืออย่างมาก พยุงเขาขึ้นมา พูดว่า “ไทฮองไทเฮาใช้ให้ข้ามา ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
ลู่กงกงปาดน้ำตา “ขอบพระทัยพระชายา”
หลีโม่เดินไป ฮ่องเต้หลับตาไว้ ด้านล่างตาค่อนข้างบวมแล้ว รอยปานแดงบนใบหน้าชัดเจนมาก มองเพียงสีหน้า ดูอาการค่อนข้างหนักกว่าที่ผ่านมาจริงๆ
อีกอย่างปลายจมูกค่อนข้างดำทั้งสองข้าง ดำเหมือนกับริมฝีปาก นี่น่าจะเป็นอาการพิษไสยศาสตร์กำเริบ
หลีโม่ตรวจดูชีพจรก่อน แล้วก็ถามอาการ เพราะหมุยกุ้ยเฟยกับลู่กงกงดูแลปรนนิบัติอยู่นาน ดังนั้น ถามพวกเขาสองคน อาการเบื้องต้นล้วนสามารถรู้ได้
“อ้วกออกมาเป็นเลือดเยอะกว่าเมื่อก่อน เมื่อวานอ้วกออกมาสาม ในฟองเลือด ดูเหมือนจะมีหนอน” หมุยกุ้ยเฟยพูด
หลีโม่พยักหัว “อืม นี่เป็นอาการของพิษไสยศาสตร์กำเริบ พิษหนอนเจริญเติบโตอยู่ในเลือดของเขาเป็นจำนวนมาก หากขึ้นถึงสมอง ก็ยากที่จะรักษาแล้ว”
“งั้น...” ลู่กงกงตกใจมาก “งั้นจะรู้ได้ยังไงว่าขึ้นถึงสมองแล้วหรือยัง?”
“ช่วงนี้ฮ่องเต้พูดจาเรื่อยเปื่อยไหม? ได้พูดจาไม่รู้เรื่องหรือพูดอะไรที่แปลกประหลาดไหม?” หลีโม่ถาม
ลู่กงกงกับหมุยกุ้ยเฟยมองตากัน “ก็ไม่มี ถึงแม้อารมณ์ของเขาจะไม่ค่อยดี แต่ว่า ก็ไม่ถึงขึ้นพูดจาไปเรื่อย ก็แค่ด่าเป็นบางครั้ง”
“เป็นคำพูดปกติ?”
หมุยกุ้ยเฟยลังเลอยู่แปบหนึ่ง “ล้วนเป็นคำต่อว่าไทฮองไทเฮา ถือว่าปกติไหม?”
“เป็นเช่นนี้แล้ว พิษหนอนน่าจะยังไม่ขึ้นถึงสมอง”
หลีโม่เขียนสูตรให้ก่อน แล้วก็ยื่นให้ลู่กงกง “เจ้าไปใช้ให้หมอหลวงไปต้มยานี้มา ดื่มวันละสองครั้ง ทานหลังอาหารประมาณ 15 นาที”
“เพคะ บ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
สูตรยาล้วนเป็นสูตรยาไล่หนอน ยาไล่หนอนมีพิษอยู่ระดับหนึ่ง คนที่มีสุขภาพแข็งแรงทานเข้าไปแล้วก็จะไม่มีปัญหาอะไร มากสุดก็แค่มีผลข้างเคียง แต่ร่างกายของฮ่องเต้อ่อนแอมาก อาจจะรับไม่ได้
ดังนั้น หลีโม่จึงฝังเข็มห้ามเลือดไว้ส่วนหนึ่ง ห้ามส่วนที่เป็นพิษของยา อวัยวะภายในจะได้ไม่ได้รับผลกระทบ
“เรียนฮ่องเต้ เป็นจริงที่ไทฮองไทเฮาใช้ให้ข้ามา” หลีโม่พูดตอบ
ฮ่องเต้หัวเราะเยาะ “สั่งให้เจ้ามาทำไม? วางยาข้าหรือ?”
อาซื๋อกูกูขมวดคิ้วพูดว่า “ฮ่องเต้ หากไทฮองไทเฮาจะให้เจ้าตาย จะต้องวางยาเจ้าทำไม? แค่ไม่ต้องสนใจก็สิ้นแล้ว หรือฮ่องเต้คิดว่าอาการป่วยของตัวเอง หมอหลวงสามารถรักษาได้? หรือรอให้ฟ้าสวรรค์เมตตา?”
“ข้าขอร้องนางตั้งนาน นางก็ไม่ยอมช่วยข้า ไม่ใช่เพราะนางอยากให้ฆ่าตายหรอกหรือ?”
เมื่อฮ่องเต้มีสติขึ้นมาแล้ว ก็เริ่มเกลียดแค้นขึ้นมาจริงๆ
หลีโม่รู้ว่าในขณะนี้เขาจะยังไม่เป็นอะไร ก็ไม่อยู่รอที่จะถูกต่อว่า จึงพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ฮ่องเต้จะยังไม่เป็นอะไร พรุ่งนี้ข้าค่อยมาดูฮ่องเต้อีก”
ฮ่องเต้หัวเราะอย่าเยาะเย้ยขึ้นมา “พวกเจ้าร่วมมือกัน โกหกหลอกลวงข้า โทษฐานใหญ่หลวง เจ้ากลับไปบอกซือถูเย้น ช้าเร็วข้าจะต้องลงโทษเขา”
อาซื๋อกูกูค่อนข้างโกรธ กำลังจะพูด หลีโม่กลับห้ามนางไว้ ย่อตัวเบาๆแล้วพูดว่า “ฮ่องเต้ คำพูดของท่าน ข้าจะกลับไปบอกไอ้เจ็ด แต่มีคำพูดบางอย่าง ไอ้เจ็ดก็น่าจะอยากพูดกับฮ่องเต้ ความเป็นพี่น้องกันมาในช่วงเวลายี่สิบปี ทุกอย่างอย่างสุดจิตสุดใจ สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นการถูกทำร้าย เช่นนี้ ความเป็นพี่น้องก็แล้ว ความเป็นประชาชนก็แล้ว ก็ไม่ต้องคิดถึงแล้ว”
“พระชายา” หมุยกุ้ยเฟยตกใจมาก รีบห้ามนางไว้
หลีโม่มองดูหมุยกุ้ยเฟยอย่างเย็นชา แล้วค่อยหันไปมองฮ่องเต้และพูดว่า “ต่อให้วันนี้ข้าไม่พูดอะไร คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเตียงของเจ้าแล้วช่วยรักษาให้เจ้า ก็ไม่มีคำพูดดีๆสักคำ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมข้ายังจะต้องลำบากใจตัวเอง? ปล่อยให้เขาดูถูกเหยียดหยามท่านอ๋องข้าอีกอย่างนั้นหรือ? ถึงแม้จะเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่ก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนไม่รู้จักกัน วันนี้หากไม่ใช่เป็นเพราะคำสั่งของไทฮองไทเฮา ข้าจะไม่เข้าวังเด็ดขาด ข้าเสี้ยหลีโม่ถึงแม้จะเป็นหมอ แต่ก็ไม่ได้มีจิตใจเป็นเหมือนดั่งพระแม่กวนอิม คิดวางแผนฆ่าแกงกันขนาดนี้ ยังจะให้ข้าปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความจงรักภักดีหรือ ข้าไม่ได้เป็นคนดีขนาดนี้”
พูดเสร็จ สักพักแล้วก็พูดว่า “ไอ้เจ็ดของข้าก็ไม่ได้ดีขนาดนี้”
สีหน้าฮ่องเต้ดูแย่มาก ความโกรธรวมกันเป็นไฟแค้น เขาจ้องมองดูหลีโม่ ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ สายตาที่เกลียดชังนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ยิ่งมีมากยิ่งขึ้น
“ไสหัวไป” ฮ่องเต้ตะคอก มือกำหมัดแน่นทุบตีบนเตียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...