พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 845

สรุปบท บทที่ 845 พวกเราเป็นหมอ: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปตอน บทที่ 845 พวกเราเป็นหมอ – จากเรื่อง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

ตอน บทที่ 845 พวกเราเป็นหมอ ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 845 พวกเราเป็นหมอ

หลีโม่พูดอย่างจริงใจว่า “ถึงแม้จะอยากให้เจ้าอยู่ในเมืองหลวงไปตลอด แต่ข้าก็รู้ว่าเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของเป่ยม่อ ประชาชนเป่ยม่อกำลังรอเจ้ากลับไป แต่การลาจากในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีก”

ท่าทีฉินโจวนิ่งไป ใช่ แต่การลาจากในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีกล่ะ?

“รอไม่นานหรอก รอเมื่อเจ้าคลอดลูกแล้ว ข้าจะมาแสดงความยินดีกับเจ้า ลูกในท้องของเจ้า จะต้องยกให้ข้าเป็นคนสำคัญด้วย” ฉินโจวพยายามพูดอย่างเข้มแข็ง

หลีโม่กลับรู้ว่า หากนางอภิเษกกับฮ่องเต้คังผัง คงจะไม่อิสระเหมือนตอนที่เป็นแม่ทัพใหญ่ จะออกมาง่ายๆได้อย่างไร?

แต่การบอกลากันทำให้เจ็บปวดมาก หลีโม่ก็จึงยิ้มพูดว่า “ได้ เจ้าจำคำพูดของเจ้าไว้ ลูกคนคลอดแล้ว ก็จะรอเจ้ากลับมา”

ฉินโจวมองดูหลีโม่อย่างลึกซึ้ง แล้วค่อยพูดกับซือถูเย้นว่า “เจ้ามีพระชายาที่ดี ควรคู่แก่การดูแลนางให้ดี”

ซือถูเย้นพยักหัว แล้วยื่นแขนโอบกอดไหล่หลีโม่ไว้ แล้วพูดว่า “ข้าทำเช่นนั้นอยู่แล้ว”

ฉินโจวหัวเราะ “ยินดีต้อนรับพวกเจ้ามาเป็นแขกที่เป่ยม่อ”

นางยกมือประสาน มองดูทั้งสองสามีภรรยา “วันที่ข้าไป ไม่ต้องไปส่งแล้วนะ”

“จะไปเมื่อไหร่?” หลีโม่รีบถาม

“พรุ่งนี้” ฉินโจวตอบ

หลีโม่พูดว่า “ข้าไปส่งพวกเจ้าถึงประตูเมือง”

ฉินโจวยังอยากพูด แต่หลีโม่กลับพูดว่า “ครั้งนี้จะต้องไปส่ง ห้ามปฏิเสธ”

ฉินโจวจึงพูดได้เพียงว่า “ได้ พรุ่งนี้ประมาณสายๆ ข้าก็จะออกเดินทาง”

“ได้ พรุ่งนี้เจอกัน” หลีโม่มองดูนาง ในใจเจ็บปวดมาก ฉินโจวมาต้าโจวตั้งนานขนาดนี้ ยังไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวกับนางเลย รู้สึกแย่มาก

อีกอย่าง นางอยากที่จะคุยกับฉินโจวดีๆสักครั้ง เกี่ยวกับครั้งนี้ที่นางจะกลับประเทศไปอภิเษก พรุ่งนี้นางจะต้องไปเช้าหน่อย ไปคุยกับนางก่อน แล้วค่อยไปประตูเมืองด้วยกัน อย่างน้อยก็ยังสามารถได้อยู่ด้วยกันหนึ่งชั่วโมง

ดังนั้น ตอนนี้ถึงแม้นางจะมีคำพูดมากมาย กลับก็ต้องอดทนไว้ก่อน รอพรุ่งนี้แล้วค่อยคุย

ฉินโจวหันหน้าไป จิ่งก็หันตามไป ท่าทีเขาดูไม่ค่อยสงบสุข กลับมาเมืองหลวงตั้งหลายวันขนาดนี้ เขากับโหรวเหยาไม่ได้คุยกันสักครั้ง เขารีบหันกลับมา แล้วยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้กลับหลีโม่ แล้วพูดว่า “รบกวนพระชายาช่วยข้ามอบให้กับโหรวเหยา”

หลีโม่รับมา สบตากับจิ่งที่ค่อนข้างโศกเศร้า ใช่แข็งแกร่งคนนี้นับว่ารู้ซึ้งถึงความรักในครั้งนี้แล้ว

“ได้” หลีโม่ตอบรับ

เช้ารุ่ง หลีโม่ตื่นตั้งแต่เช้า วันนี้ซือถูเย้นไม่ต้องขึ้นว่าราชการเช้า จึงตื่นขึ้นมาไปส่งฉินโจวพร้อมกับนาง

และแล้วเมื่อไปถึงตำหนักซีย่วน กลับถูกแจ้งให้ทราบว่าฉินโจวไปจากเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

หลีโม่แทบคิดว่าตัวเองฟังผิดไป “ไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว? เมื่อคืนไปตอนเวลาไหน?”

องครักษ์ของตำหนักซีย่วนพูดว่า “เรียนพระชายา อ๋องอิงจุ้นไปตอนเวลาสามทุ่ม นางบอกว่าเช้านี้พระชายาจะมา ดังนั้นจึงได้สั่งให้ข้ารอท่านอยู่ที่นี่ นางมีคำหนึ่งฝากให้กระหม่อมบอกแก่ท่าน”

“นางพูดว่าอะไร?” หลีโม่ถาม

องครักษ์พูดว่า “อ๋องอิงจุ้นพูดว่า นางไม่เคยชินกับการที่ต้องบอกลากัน ดังนั้น ไม่อยากเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนั้น ขอพระชายาโปรดอภัย หากนางมีโอกาส จะมาหาพระชายาแน่นอน”

ในใจหลีโม่โศกเศร้าอย่างที่สุด หันไปหาซือถูเย้นอย่างแทบจะร้องไห้ “นางไปโดยไม่ลาแบบนี้แล้ว?”

ซือถูเย้นพูดปลอบว่า “เมื่อวานก็ถือว่านางได้บอกลาแล้ว”

“ก็คุยกันแล้วว่าจะไปส่งนาง” หลีโม่รับไม่ได้กับการที่ฉินโจวไปแล้วแบบนี้

ในใจนาง ได้เห็นฉินโจวเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดแล้ว การเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศนั้นยาวไกล และถึงตอนนั้นนางได้เป็นฮองเฮาแล้ว อยากจะเจอกันอีก ก็ไม่ง่ายแล้ว เดิมนางคิดว่าฉินโจวจะเหมือนกับนาง จะรักษาโอกาสที่จะพูดคุยลากันในครั้งนี้ กลับคิดไม่ถึงว่า นางจะไปแล้วแบบนี้

อู๋เยี่ยนจู่ยิ้มพูดกับหลิงลี่ว่า “อาจารย์ของข้าเรียกข้าแล้ว”

แล้วก็วิ่งเข้าไปเลย ม่านลูกปัดกรุ๊งกริ๊งดังอยู่ข้างหลัง

“อาจารย์” อู๋เยี่ยนจู่เข้ามาแล้วก็เรียกหลีโม่ทันที ด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง

หลีโม่พูดยังไม่รู้จะพูดอย่างไรว่า “ข้าไม่ใช่อาจารย์ของเจ้า อย่าเรียกเช่นนี้”

“เรียกพระชายากับเรียกอาจารย์ก็เหมือนกัน ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” อู๋เยี่ยนจู่ถูมือ แล้วลองถามขึ้นว่า “ใช่แล้วอาจารย์ ก่อนหน้านี้ท่านพูดว่าท่านหมอเวินยี่จะมา ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่หรือ?”

หลีโม่มองดูเขา “นางอาจจะไม่มาแล้ว”

อู๋เยี่ยนจู่อึ้ง พูดอย่างผิดหวังว่า “ไม่มาแล้ว? ทำไมล่ะ?”

“ไม่รู้ บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกศิษย์ของนาง” หลีโม่รอคอยการมาของเวินยี่อยู่เหมือนกัน รู้ว่านางไม่มาแล้ว ก็ผิดหวังอย่างมาก ดังนั้นจึงสามารถเข้าใจความรู้สึกของอู๋เยี่ยนจู่

“จะไม่มีคุณสมบัติได้อย่างไร? วันนั้นพี่โหรวเหยาได้บอกกับข้าแล้วว่า ท่านหมอเวินยี่มีเพียงข้อแม้เดียว ก็คือให้ท่านยอมตกลง ว่าต่อไปไม่ว่าจะเจอผู้ป่วยแบบไหน หากมีวิธีสามารถรักษาได้ ก็ต้องรักษา ท่านยอมตกลงก็สิ้นแล้วไม่ใช่หรือ?”

หลีโม่มองดูอู๋เยี่ยนจู่ แล้วในใจก็คิดขึ้นมาได้จึงถามว่า “อู๋เยี่ยนจู่ หากเป็นเจ้า จะสามารถทำได้ไหม?”

อู๋เยี่ยนจู่ตบหน้าอกตัวเอง “หากท่านหมอเวินยี่ยอมรับข้าเป็นลูกศิษย์ จะต้องทำได้แน่”

หลีโม่หัวเราะ “พูดได้อย่างเด็ดขาดขนาดนี้เชียว? หาคนคนนั้นเป็นศัตรูของเจ้าล่ะ?”

“ศัตรูก็ต้องช่วย ใครใช้ให้ข้าเป็นหมอล่ะ” อู๋เยี่ยนจู่ถอนหายใจ

หลีโม่อึ้ง “หมอ?”

“พวกเราเป็นหมอ สิ่งที่เราต้องทำก็คือแย่งคนมาจากยมบาล ให้ท่านหมอเวินยี่ไม่ใช่อาจารย์ของข้า ข้าก็ต้องรักษา สถานะของพวกเราก็คือทำเช่นนี้อยู่แล้ว ส่วนคนคนนี้ควรหรือไม่ควรตาย เป็นหมอไม่ควรที่จะคิดเรื่องนี้ไหม? หาคนคนนี้เป็นคนร้ายจริงๆ ค่าเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง ไม่ให้เขาได้มีจุดจบที่ดีแน่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม