พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 848

สรุปบท บทที่848 ไม่รู้จะเลือกอย่างไร: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอน บทที่848 ไม่รู้จะเลือกอย่างไร จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่848 ไม่รู้จะเลือกอย่างไร คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่848 ไม่รู้จะเลือกอย่างไร

รอจนถึงในตอนกลางคืน อู๋เยี่ยนจู่ ก็ยังไม่กลับมา

เดิมทีซือถูเย้นรับปากกับหลีโม่ว่าจะมาร่วมรับประทานอาหารเป็นเพื่อนกับหลีโม่ แต่ก็ยังอยู่ถกเถียงเรื่องการรักษากับขุนนางทั้งหลาย โดยกลับมาไม่ทัน จึงได้เรียกให้จี่นเฉิงกลับมาบอกกับหลีโม่ ว่าเขาจะกลับมาช้าสักหน่อย

หลีโม่รู้ว่าเขายึดเอาเวลา โดยการบริหารนี้ จะดีที่สุดถ้าได้ประกาศไปก่อนในปีนี้ บัดนี้ก็จะมีคนที่ได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้นไปอีก

ซือถูเย้นกลับมาในเวลายามจื่อ หลีโม่เองก็ยังไม่ทันได้หลับไป รอเขา และก็รออู๋เยี่ยนจู่ไปด้วย

“ทำไมยังไม่นอนล่ะ?”ซือถูเย้นมีไอเย็นจากอากาศในต้นฤดูหนาวห่อกายกลับมาด้วย เมื่อเห็นว่าหลีโม่ยังดูหนังสือการแพทย์ ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นขึ้นเบา ๆ

“นอนไม่หลับ”หลีโม่เงยหน้าขึ้น ยิ้มออกไปให้เขาอย่างราบเรียบ “เหนื่อยไหม?มามาตุ๋นซุปให้เจ้า ข้าจะเรียกให้คนยกมาให้”

“ไม่รีบ!”ซือถูเย้นทรุดกายนั่งลงบนเตียง แล้วก็โอบนางไว้อย่างเบามืออยู่ในอ้อมแจน ยื่นมาออกไปลูบเบา ๆ ที่ท้องน้องของนาง “เด็กน้อยว่าง่ายไหม?”

หลีโม่ยิ้มแล้วเอ่ย “แม้กระทั่งเด็กขยับก็ยังไม่ขยับเลย จะไม่ว่าง่ายได้ที่ไหนกันล่ะ?”

“เด็กขยับ?”ซือถูเย้นเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ขยับได้ด้วยหรอ?เมื่อไหร่ถึงจะรู้สึกได้”

“ผ่านไปสองเดือนก่อน เจ้าไม่รู้ว่าต้องขยับหรอ?นี่เป็นความรู้ทั่วไปนะ”

“ข้าไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้”ซือถูเย้นดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด

หลีโม่ดึงมือของเขาให้วางลงบนหน้าอก “วันนี้หารือกับพวกขุนนาง เป็นอย่างไรบ้าง?”

“เห็นชอบเป็นจำนวนมาก แต่ว่าก็มักจะมีพวกชอบขัด ก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องกังวลใจ ” ซือถูเย้นปล่อยผ่านไป ต่อหน้าของหลีโม่แล้ว เขาเลือกที่จะไม่พูดเรื่องการเมืองมากมายให้นางฟัง เพื่อไม่ให้นางต้องกังวลใจและประหวั่นพรั่นพรึง

“เช่นนั้นก็ดี”หลีโม่เอนกายอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วก็พูดเรื่องอู๋เยี่ยนจู่ให้เขาฟัง

ซือถูเย้นฟังจบ ก็ดูไม่ค่อยได้สนใจ “อู๋เยี่ยนจู่เคยสำรวจมาก่อน อีกทั้งอ๋องอานหรานยังเคยพูดกับข้าว่า คนผู้นี้ไม่มีอะไรที่ต้องไปสงสัย”

หลีโม่ประหลาดใจ “อ๋องอานหราน?แต่เมื่อก่อนในตอนที่อยู่ในชิงโจว อ๋องอานหรานเองก็ไม่ได้รู้จักเขา”

“ท่านอ๋องประหลาดไง”ซือถูเย้นหัวเราะและกล่าว แล้วก็เสริมขึ้นอีกประโยค “เช่นนั้นอู๋เยี่ยนจู่เองก็ประหลาด”

“ข้าเพียงแค่ประหลาดใจ ทำไมเขาถึงรู้เรื่องพิษท่งหมิง”หลีโม่เอ่ย

“คืนวันนี้เขายังไม่กลับมา?”

“เรียกให้คนมาเฝ้าที่หน้าประตู พอเขากลับมาแล้วก็รีบไปตามให้เขามาพบข้า จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นเลย”

ซือถูเย้นคิดพินิจดูสักพัก “พรุ่งนี้ข้าจะไปหาอ๋องอานหราน บางทีอาจจะได้รู้สถานะของอู๋เยี่ยนจู่จากปากของเขา”

“ก็ดีนะ!”หลีโม่ตอบรับ จากนั้นก็หยัดกายลุกขึ้น “รีบไปอ่านน้ำเถอะ ข้าเรียกให้คนยกซุปให้เข้ามา”

ซือถูเย้นยิ้มแล้วมองไปทางเขา “ชอบมากเลยกับท่าทางที่เจ้ายุ่งให้กับข้า”

โอบกอดนางเอาไว้ แล้วหอมนางไปทีหนึ่ง ถึงยอมปล่อยให้นางไป

เช้าวันถัดมา หลีโม่ยังไม่ทันได้ตื่นขึ้น ซือถูเย้นก็ออกไปแล้ว ด้วยความยุ่งวุ่นวายเช่นนี้ ทำให้หลีโม่รู้สึกเห็นใจยิ่งนัก จำต้องเรียกให้มามาคืนวันนี้ตุ๋นซุปให้กับเขาอีกครั้ง

มามาเพิ่งออกไป พลันเห็นหลิงลี่ที่ลากให้อู๋เยี่ยนจู่ให้เข้ามาด้วย

เมื่อคืนหลิงลี่ออกไปพาพ่อหนุ่มคนนี้ หาอยู่ตลอดทั้งคืน ก็โมโหหัวร้อนเป็นยิ่งนัก ผลักให้เขาเข้าไปพบกับหลีโม่

“ปล่อยข้านะ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด!” อู๋เยี่ยนจู่คำราม

หลีโม่ได้ยินเสียงของอู๋เยี่ยนจู่ ก็เลิกผ้าม่านแล้ววิ่งออกมา

แค่เห็นว่าเขาดูท่าทางของเขาตกอยู่ในสภาวะลำบาก เสื้อผ้าถูกฉีกขาดวิ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าบวมปูด เห็นได้เลยว่าโดนหลิงหลีกระทำซัดอย่างหนักหน่วง

อู๋เยี่ยนจู่จับผมเผ้าให้เรียบร้อย ทำท่าทีขออภัยต่อหลีโม่ “ท่านอาจารย์อย่าโมโหไป ไม่ใช่ว่าข้ามีแผนคิดเล่ห์อะไร คนผู้นั้นเคยบอกกับข้าว่า ถ้าหากทำให้ท่านอาจารย์เป็นศิษย์ของท่านหมอเวินยี่ได้ นางจะเรียกให้ท่านรับข้าเอาไว้เป็นศิษย์”

“ไปเจอคนผู้นี้จากที่ไหน?เป็นหญิงหรือชาย?แก่หรือว่าอายุน้อย?”หลิงลีรัวคำถามออกไปไปพรืด

อู๋เยี่ยนจู่นวดเข้าอยู่ที่ข้างแก้ม “ในเมื่อวานซืนก่อนหน้ามานี้ ข้าไปร้านแถวกำแพงเมืองกินอาหารเช้า กินไปแล้วก็เดินเล่นไปแถวกำแพงเมืองสักพัก ในทันใดนั้นก็มีคนหนึ่งมาจับข้าขึ้นไปบนรถม้า แล้วยังตีข้าจนสลบ พอถึงในเรือนก็เอาข้าขังเอาไว้ในห้องมืด ข้าไม่เห็นว่าคนนั้นคือใคร เสียงทุ้มต่ำ เป็นผู้หญิง นางบอกกับข้าว่า ให้ข้าโน้มน้าวให้ท่านไปรักษาฝ่าบาท เพียงแค่ให้ท่านรักษาให้ฝ่าบาท หมอเวินยี่ก็จะรับท่านเป็นศิษย์”

“เรื่องพิษท่งหมิงเอง นางก็เป็นคนบอกเจ้า?”หลีโม่ถาม

“ใช่ นางยังสอนข้าอีกว่าจะพูดกับท่านอย่างไร ให้ท่านไม่ลืมว่าตัวเองก็เป็นหมอ”

หลีโม่ถอนหายใจออกมาเบา ๆ จนถึงในตอนนี้แล้ว นางพอจะรู้ว่าคนนั้นเป็นใคร

เกรงว่าหมอเวินยี่จะมายังเมืองหลวงแล้ว

“นอกจากสอนให้เจ้ามาโน้มน้าวข้าแล้ว นางยังพูดอะไรอีกไหม?”หลีโม่ถาม

อู๋เยี่ยนจู่มองไปทางหลีโม่แล้วถาม “ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว นางพูดว่าทำให้ท่านอย่าลืมว่าตัวเองก็เป็นหมอ อย่าลืมว่าเป็นหมอแล้วมีหน้าที่ต้องทำอะไร”

เมื่อหลายวันก่อนหน้า ในวันที่ไท่ฮองไท่เฮาได้ให้ตำรับยากับนาง และก็เป็นวันเดียวกับที่ไท่ฮองไท่เฮาไปในวันนั้นเอง

เห็นได้ชัดเลยว่านางไม่ได้เดาผิด ไท่ฮองไท่เฮาคิดอยากจะช่วยฝ่าบาท

“ใช่แล้ว นางยังพูดอีกประโยค” อู๋เยี่ยนจู่พลันเอ่ยขึ้นในทันที “ในตอนที่พูดเรื่องพิษท่งหมิง นางบอกว่าพิษสำแดงขึ้นมาอีกนั้น มีเพียงหมอเวินยี่ที่รักษาได้”

หลีโม่ตัวสั่นเทาขึ้นเล็กน้อย เป็นเช่นนี้จริง ๆ

นี่ไม่ใช่ปัญหาการเลือก ดูนางว่าจะตัดสินใจช่วยหรือไม่ช่วยฝ่าบาท แต่ไม่มีหนทางให้เลือก และก็ไม่มีหนทางที่จะเลือกได้

ต้องแก้พิษท่งหมิง ก็ต้องช่วยซุนฟางเอ้อร์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม