พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 849

บทที่ 849 เจ้าไร้หัวใจข้าไร้เหตุผล

หลังจากรู้ทุกอย่างทั้งหมดแล้ว หลีโม่เองกลับผ่อนคลายลงไปมาก

การเป็นหมอสักคนนั้น นางเองก็ยากที่จะทรยศต่อความดีงามในใจของตัวเอง รู้ว่าช่วยได้แต่ก็ไม่ช่วย

เมื่อตอนที่อู๋เยี่ยนจู่ไปแล้ว แล้วก็กลับมาพูดอีกประโยค “เมื่อสองสามวันมานี้ข้าเดินอยู่นอกเมือง สอบถามเรื่องราวในตอนนี้ของฝ่าบาท ประชาชนยังสรรเสริญเคารพต่อฝ่าบาทเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาบอกกันว่า ฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้ที่ดี”

หลีโม่พยักหน้า “อืม ข้ารู้ เข้าไปเถอะ”

อู๋เยี่ยนจู่ลังเลอยู่สักพัก ถามไปอีกว่า “เช่นนั้นท่าน จะช่วยฝ่าบาทหรือไม่?ท่านไม่อยากเป็นศิษย์ของหมอเวินยี่หรือ?”

“ข้าคิดก่อนนะ ได้ไหม?”หลีโม่เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ

หลิงลี่รู้ว่าหลีโม่ลำบากใจ ก็ผลักให้ อู๋เยี่ยนจู่ ออกไป

หลีโม่ทรุดกายนั่งลงอยู่ตรงข้างหน้าต่าง ถอนหายใจออกมาเบา ๆ ใช่แล้ว ฝ่าบาทเคยเป็นฮ่องเต้ที่ดี ทำเรื่องราวดี ๆ มากมายให้กับประชาราษฎร์ในแคว้นต้าโจว

สิ่งนี้เองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะว่าแม้กระทั่งไอ้เจ็ดเองก็เคยพูดเช่นนี้

ฮ่องเต้ที่ประเสริฐ พลันแปรเปลี่ยนเป็นฮ่องเต้ที่โง่เขลา เพราะว่าเขาได้รับการคุกคาม เขาคิดว่าภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด ก็คือไอ้เจ็ด ซึ่งเคยเป็นน้องชายที่เขาไว้ใจที่สุด

ก็ไม่รู้ว่าน่าขันหรือว่าน่าเสียใจดี

หลีโม่ทอดถอนหายใจเป็นเวลานานแล้ว ก็เริ่มไปศึกษาตำรับยาอย่างตั้งใจ

เมื่อได้ตัดสินใจไปแล้ว ก็ดีกว่าในหลายวันก่อนอยู่มาก อย่างน้อย ๆ ก็ไม่ต้องรู้สึกลำบากทุกข์ใจ

เมื่อซือถูเย้นกลับมา หลีโม่ก็ได้บอกกับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ

ซือถูเย้นกอดนางเอาไว้ในอ้อมอก กล่าวว่า “ไม่ว่าเจ้าจัดตัดสินใจอย่างไร ข้าสนับสนุนเจ้าทุกอย่าง ความตั้งใจที่แย่ที่สุด ก็คือก่อนที่เขาจะดีขึ้น พวกเราก็จะออกไปเมืองหลวงไปยังแดนหนานกั๋ว”

“อื้ม ไปแดนหนานกั๋ว จริง ๆ การไปแดนหนานกั๋วก็ไม่ใช่ทางเลือกที่แย่ที่สุด กลับยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดด้วย”หลีโม่ซบอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไปยังแดนหนานกั๋วก็ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดี อย่างน้อย ๆ อยู่ให้ห่างจากพระราชอำนาจของฮ่องเต้ แล้วก็ไปเป็นเพื่อนบ้านกับอ๋องเยว่ตง ฮ่องเต้ไม่ใช่คนเขลาเสียขนาดนั้น จะไปยั่วแหย่เสือที่ยังอยู่นิ่ง ๆ ดังนั้นการใช้ชีวิตก็จะดูมั่นคงมากกว่าในเมืองหลวงมากเลยทีเดียว

“การรักษาต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน?”ซือถูเย้นถามขึ้น

“เร็วหน่อยก็ครึ่งปี ถ้าอย่างช้าเลยก็หนึ่งปี”

“ถ้าเช่นนั้นพวกเรารอให้เฮ่าเอ๋อแต่งงานไปแล้วหลังจากนั้นก็ค่อยไป”ซือถูเย้นพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง อีกทั้งในเวลาปีกว่า ๆ มานี้ เขาสามารถเอานโยบายที่เอนเอียงบิดพลิ้ว บ่มเพาะคนสำคัญให้กับองค์รัชทายาท

“เพียงแค่ว่า ซุนฟางเอ้อร์เองจะรับมือเอาไว้ได้นานขนาดนี้เลยหรอ?”ซือถูเย้นถาม

ปัญหานี้เองหลีโม่ก็เคยคิดถึงมาก่อน แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อคนผู้นั้นสามารถพูดสิ่งเหล่านี้กับอู๋เยี่ยนจู่ได้ คิดว่านางเองก็จะสามารถช่วยซุนฟางเอ้อร์ได้อย่างแน่นอน”

ส่วนทางของซุนฟางเอ้อร์นั้นเองนางก็หมดหนทาง ทำได้เพียงแค่ให้คนผู้นั้นคอยช่วยเหลือแล้ว

“เจ้าอย่าไปเหนื่อยเกินไปนักล่ะ เอาเรื่องของตัวเองเป็นสำคัญ รู้หรือไม่?”ซือถูเย้นเอ่ยกำชับมา

“ข้ารู้แล้ว ข้าจะรับอู๋เยี่ยนจู่ เขาจะเข้าวังเป็นเพื่อนข้า”หลีโม่รู้ว่าในภายหลังตัวเองฝังเข็มได้ไม่แม่นยำพอเท่าไหร่ ยังดีที่ว่าอู๋เยี่ยนจู่รู้เรื่องวิทยาการการฝังเข็มอยู่บ้าง ถ้าหากว่าภายในสองเดือนสามารถพัฒนารุดหน้าไปได้ การฝังเข็มร่วมกับการกินยา ในครึ่งปีหรือราว ๆ แปดเดือน ฝ่าบาทก็จะทรงฟื้นตัวขึ้นได้อย่างมาก

หลายวันต่อ ๆ มาทั้งสองสามีภรรยาก็ยุ่งวุ่นวายเป็นอย่างมาก

ซือถูเย้นดำเนินเรื่องด้วยความรวดเร็ว ดึงเอาพวกกลุ่มคนภักดีออกมาได้เป็นพรวน และไม่ได้ลงโทษ เพียงแค่ส่งให้เขาไปอยู่ข้างนอก สำหรับฝ่าบาทที่ดึงเอาอำนาจในราชสำนักมาแล้วหลังจากนั้นก็ได้ปรับตำแหน่งให้ข้าราชสำนักพวกนั้น พวกขุนนางเองก็เคยได้ตรวจสอบ ใครที่มีประโยชน์ก็เก็บเอาไว้ ใครที่ไม่น่าเชื่อถือก็ให้โยกย้ายออกไปหรือไม่ก็ลดตำแหน่ง

จากนั้น พอปรับตำแหน่งของนายทหารแม่ทัพ แม่ทัพพวกนี้ก็ล้วนแล้วแต่มีกำลังในราชสำนัก ต่อให้ในวันหน้าฮ่องเต้ใช้อำนาจ ก็ไม่สามารถช่วงชิงเอาตำแหน่งของพวกเขาไปได้

หลีโม่รับเอาอู๋เยี่ยนจู่มาด้วย ทุกวันก็ได้พาอู๋เยี่ยนจู่เข้าวังไปฝังเข็ม รักษาด้วยยา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม