บทที่853 จนถึงที่สุดเจ้าก็ไม่เชื่อใคร
ในห้องบรรทม อบอวลไปด้วยกลิ่นไอของยา
ซือถูจิ้งนั่งอยู่ด้านหน้าของเตียง ในมือถือยาที่มีไอร้อนระอุพวยพุ่ง ถ้วยยาสีแดงอิฐที่ไม่มีลวดลายสลัก ซือถูจิ้งหยิบเอาช้อนขึ้นมาคนเบา ๆ แล้วก็ค่อย ๆ เป่าสักพัก ถามขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ฝ่าบาททรงรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วหรือไม่?”
ฝ่าบาทนับตั้งแต่ซือถูจิ้งเข้ามาในตำหนัก พลันก็เอนอยู่ที่เตียงแล้วหลับตา ในตอนที่ซือถูจิ้งนั่งลงนั้น เขาก็ไม่ได้ลืมขึ้น เพียงแค่แข็งขืนตัวขึ้นเล็กน้อย ราวกับตื่นตัวระแวดระวังรอบกาย
ในตอนนี้ที่ซือถูจิ้งส่งเสียงขึ้น เขาถึงค่อย ๆ ลืมตา โดยที่ไม่ได้มองไปทางซือถูจิ้ง เพียงแค่จ้องมองถ้วยยาสีแดงอิฐที่อยู่ในมือของนาง “ดีขึ้นมากแล้ว เสี่ยวกูกูช่างมีน้ำใจ”
ซือถูจิ้งส่งเสียงตอบอืม “เช่นนั้นก็ดีแล้ว”
นางหยิบช้อน ยกชามจ่ออยู่ตรงริมฝีปากเขา “ยาเย็นแล้ว เสวยก่อนเถอะเพคะ”
นางไม่ได้เอาช้อนป้อนให้เขา นางคิดอยากจะทำท่าทีสนิทสนม อยากจะยกเอาอำนาจบัญชาสวรรค์ยกออกไปไว้ข้าง ๆ ก่อน พูดแค่เพียงเรื่องความสัมพันธ์ฉันสายโลหิต แต่ในท้ายที่สุดแล้วนางเองก็ทำไม่ได้เสียก่อน
ฮ่องเต้ไปตามมือของนาง เอายาขึ้นดื่มจนหมด จากนั้นก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ
ซือถูจิ้งหยิบเอาผ้าเช็ดหน้า ส่งให้กับเขา ฝ่าบาทรับเอามา เช็ดตรงมุมปากด้วยตัวเอง เอ่ยขึ้นกับตัวเองอย่างเย้ยหยัน “เสี่ยวกูกูวางตัวห่างเหินกับข้า ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อน เสี่ยวกูกูจะต้องเช็ดให้แทนข้า”
ซือถูจิ้งเองก็หัวเราะสักพัก “เพคะ ดูห่างเหิน เมื่อก่อน หม่อมฉันชอบตามหลังของฝ่าบาทมากที่สุด”
ฮ่องเต้จ้องมองนาง “แค่ชั่วพริบตา เจ้าก็โตแล้ว ช่างคิดถึงเมื่อก่อนจริง ๆ”
“ไม่ใช่ว่าโตหรอกเพคะ แก่แล้วต่างหาก”ซือถูจิ้งมีรอยยิ้มประดับเอาไว้ เพียงแค่ว่ารอยยิ้มนั้นดูจางลง มองเห็นความทุกข์ระทมได้อย่างราง ๆ
ฮ่องเต้สะดุดชะงักไปเล็กน้อย ยื่นมือจับเอาผ้าห่ม ค่อย ๆ ดึงขึ้นมา แล้วก็ถอนหายใจ “เมื่อครู่ข้ารับใช้บอกว่าวันนี้น่าจะฝนตก ไม่รู้ว่าวันที่ท่านแต่งงาน จะฝนตกไหมนะ”
สายตาของเขามองข้ามผ่านซือถูจิ้งไป ราวกับกำลังมองไปทางด้านนอก แต่ ผ้าม่านหนัก ๆ ประตูตำหนักที่ปิดสนิท จะมองเห็นด้านนอกกันเสียที่ไหน?
เห็นได้ชัดเลยว่ามีความประหม่าหวั่นเกรง
“ฝนจะตกหรือไม่ตก ก็ไม่ได้สำคัญอะไร”
“นั่นสินะ ไม่ได้สำคัญอะไร เจ้าแต่งกับเซียวเซียว ก็เป็นเพราะความเต็มใจ ข้ารู้สึกมีความสุขแทนท่านจริง ๆ”ฮ่องเต้เอ่ย
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”ซือถูจิ้งจ้องมองที่เขา “เพียงแค่ หม่อมฉันหวังว่าฝ่าบาทจะรับสั่งจากใจจริง”
ฮ่องเต้ค่อย ๆ เก็บงำสายตาลง แล้วหยุดลงอยู่ที่ใบหน้าของซือถูจิ้ง นำพาไว้ด้วยการประเมินตัดสิน “ท่านรู้สึกว่า ตัวข้าไม่จริงใจรึ?”
ซือถูจิ้งยิ้ม ด้วยใจที่ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวโดยตลอด แต่ในตอนที่สงสัยเขาอยู่นั้น เขาก็รีบดึงเอาหนามรอบตัวขึ้นในทันที
“ไม่ใช่ว่าหม่อมฉันรู้สึก แต่เป็นด้วยหม่อมฉันหวังว่า”ซือถูจิ้งค่อย ๆ หุบยิ้ม พูดขึ้นด้วยความจริงจัง “หม่อมฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับคำอวยพรจากพระองค์ ในพระทัยพระองค์ควรจะเข้าใจ ว่าหม่อมฉันใส่ใจต่อพระองค์ กระทั่งว่ามากกว่าไอ้เจ็ดมากกว่าเจ้าสองเจ้าสาม”
ฮ่องเต้แย้มพระสรวล “ใช่สิ นับตั้งแต่เล็กท่านชอบมาเกาะติดกับข้า และไม่ยอมใกล้ชิดกับคนอื่น ทำเอาเสียจนไอ้เจ็ดก็ชอบมาเกาะติดอยู่กับข้า ในตอนนั้น ท่านค่อนข้างให้ความสำคัญกับข้า เพียงแค่เมื่อค่อย ๆ เติบโตขึ้น ท่านก็สนิทสนมกับไอ้เจ็ด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...