พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 862

ตอนที่ 862 ฉินเหลาไท่ไท่กล้า

หลีโม่ไม่ยิ้ม การอภิเษกของฮ่องเต้ เตรียมงานไม่ถึงสองเดือน ฉินโจวแต่งงานกระชันชิดมาก

“เสี่ยวเตา เจ้าตามข้ามานี่” หลีโม่ลุกขึ้นมา เรื่องของเป่ยม่อ นางต้องรู้ เรื่องนี้มันไม่ธรรมดาแน่

แม้แต่การแต่งงานของคนทั่วไป เตรียมการสองเดือนมันไม่ทันแน่นอน ถึงแม้เป่ยม่อจะไม่ได้มีธรรมเนียมซับซ้อนเหมือนต้าโจว แต่ว่าพิธีอะไรที่ควรมีก็ต้องมี นอกจากว่า มันมีอะไรมากกว่านี้

ทุกคนมองหน้ากัน เสี่ยวเตาตามหลีโม่เข้าไปในห้อง หลิงลี่คิด แล้วก็ตามเข้าไปด้วย

“เสี่ยวเตา เจ้ารู้เรื่องสถานการณ์ในเป่ยม่อเท่าไหร่?” หลีโม่เข้าห้องแล้วก็ถามทันที

หลิงลี่ปิดประตู แล้วก็นั่งลง เสี่ยวเตาเองก็นั่งลง

เสี่ยวเตาพูดว่า “สถานการณ์ในวัง ข้าไม่รู้ รู้แค่ว่าหลังจากแม่ทัพฉินกลับไปที่แคว้นแล้ว ก็มาหาข้ากับแม่ทัพหลงครั้งหนึ่ง คืนนั้นแม่ทัพหลงก็เข้าวังไปทันที บอกว่าจะมาเจรจาเรื่องการแต่งงานของแม่ทัพฉินกับฮ่องเต้ .......”

หลีโม่พูดแทรกเขาขึ้นมา “เจ้าเล่ามาตั้งแต่เริ่มเลย เรื่องของอ๋องลั่วชินที่อยู่ในเมืองหลวง ยังมีเรื่องของฉู่จิ้ง เรื่องของฉินเหล่าไท่ไท่ เล่าเรื่องที่เจ้ารู้มาทั้งหมดเลย”

เสี่ยวเตาถอนหายใจแล้วพูดว่า “ตอนแรกอ๋องลั่วชินก็ยังพอมีบารมีอยู่มาก แทบจะคุมฉู่จิ้งกับฉินเหล่าไท่ไท่อยู่หมัดเลย แต่หลังจากนั้น กองทัพที่อ๋องลั่วชินพามากลับเกิดความวุ่นวายภายใน พวกเขาตีกันเองอ๋องลั่วชินเองก็ถูกคนลอบทำร้าย เขาบาดเจ็บสาหัสมาก ได้ยินว่าถึงตอนนี้ก็ยังไม่หายเลย อีกทั้งขาก็ใช้การไม่ได้ไปข้างหนึ่ง”

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้? คนของฉินโจวไม่ได้เคลื่อนไหวไม่ใช่เหรอ?” หลีโม่ถาม

การที่ในกองทัพเกิดความวุ่นวาย แสดงว่าจะต้องมีคนกบฏ ยุยง ปั่นป่วน แต่ว่า ทหารที่อ๋องลั่วชินพามา เป็นคนของเขาทั้งนั้น ตามหลักแล้ว มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

อีกทั้ง มีเทียนจีจื่ออยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ?

“กองทัพของฉินโจวไม่มีใครสั่งการได้ จุดนี้น่าแปลกมาก เป่ยม่อแปลกมาก แปลกมากมากเลย แม้แต่ฮ่องเต้คังผิงเองก็ไม่สามารถสั่งเคลื่อนพลได้ คนพวกนั้น ทำได้แค่มองอย่างเดียว เพราะพวกเขาฟังแค่คำสั่งของแม่ทัพฉินคนเดียวเท่านั้น”

“แล้วเทียนจีจื่อล่ะ?”

“ก่อนที่จะเกิดความวุ่นวายท่านเทียนจีจื่อ ถูกอ๋องลั่วชินไล่ออกไปแล้ว”

“เพราะอะไร?” หลีโม่ตะลึงไป

เสี่ยวเตาพูดว่า “ได้ยินมาว่า เทียนจีจื่อรังแกองค์หญิงอานหราน”

“รังแก?”

“ใช่ รังแก ....... ก็รังแก่แบบนั้น หลังจากที่องค์หญิงกลับมาจากหนานจุ้นไม่นาน ก็พบว่านางนอนอยู่ในห้องของเทียนจีจื่อ ไม่ได้สวมเสื้อผ้า ถูกคนรังแกมาก่อน หลังจากที่องค์หญิงทรงตื่นมา นางราวกับคนเป็นบ้า เจอใครก็กรีดร้อง แล้วก็หลบ”

หลีโม่คิดไม่ถึงเลยว่า เป่ยม่อจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น องค์หญิงเป็นคนที่นางนับถือมาก ไม่คิดเลยว่าต้องมาเจอเรื่องแบบนี้

“แล้วตอนนี้องค์หญิงอยู่ที่ไหน?” หลีโม่ถาม

“ตอนนี้อยู่ในวัง ฉู่จิ้งสั่งให้ฉินเหล่าไท่ไท่รับนางเข้าวัง แล้วให้หมอหลวงคอยดูแล ได้ยินว่าอาการเสียสติตอนนี้รักษาหายแล้ว”

“แล้วในช่วงนี้ ฮ่องเต้คังผิงเป็นยังไงบ้าง?”

“ไม่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระองค์เลย ถึงแม้เขาจะยังเป็นฮ่องเต้อยู่ แต่ว่าได้ยินจากแม่ทัพหลงว่า คนที่เป็นคนบริหารจริง ๆ คือฉู่จิ้ง”

“แล้วฉู่จิ้งกับแม่ทัพหลงเป็นยังไงบ้าง? ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น แม่ทัพหลงไม่ได้ช่วยอ๋องลั่วชินเหรอ?”

“ตอนที่ท่านอ๋องกลับมาเมืองหลวง ก็ได้กำชับข้าไว้ว่า ไม่ว่าใครมาให้ท่านแม่ทัพนำทหารออกไป ให้ข้าขวางเขาเอาไว้ ตอนแรกเขาก็ไม่ฟัง ข้าเลยต้องใช้ยาแรง ทำให้เขาสลบไปสองวัน”

เสี่ยวเตาเล่าแบบกลัว ๆ เขากลัวแล้วมองไปที่หลีโม่ เขาไม่รู้สิ่งที่เขาทำนั้นมันถูกหรือผิด

หลีโม่ก็เหมือนไม่พอใจ แต่พอคิดดูดีดีแล้ว นางก็รู้สึกว่าเสี่ยวเตาทำถูกแล้ว มันต้องเป็นแผนแน่ แม้แต่ท่านแม่ทัพหลงก็ถูกคำนวณไปแล้วเหมือนกัน หากเขาไปร่วมด้วย ต้องตกหลุมพรางแน่

“พระชายา ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าว่าท่านแม่ทัพฉินมั่นใจมากเลยนะ” เสี่ยวเตาเห็นหลีโม่ขมวดคิ้ว เลยปลอบใจ

“เจ้าปลอบใจคนเป็นด้วยเหรอเนี้ย?” หลิงลี่มองไปที่เขา “ไม่เสียแรงที่ไปฝึกอยู่ที่เป่ยม่อมาเป็นเดือน ๆ รู้เรื่องขึ้นเยอะเลย”

เสี่ยวเตาพูดว่า “แน่นอน โตแล้วนี่นา”

“ได้ยินมาว่าเจ้ากับหลงจูจู เหมือนจะมีอะไรกันนะ” หลิงลี่มองไปที่เขา

เสี่ยวเตาหน้านิ่งลง “อย่าพูดถึงปีศาจน้อยนั่นเลย พูดแล้วก็โมโห ตอนแรกนางจะกลับมากับข้าด้วย ข้ารับปากนางไปก่อน ตกดึกก็เลยหนีกลับมาก่อน หากให้นางตามมาทัน แย่แน่? ไม่มีวันสงบสุขแน่นอน”

หลิงลี่เห็นหลีโม่เครียด ก็เลยไล่เขาออกไป “เพิ่มกลับมายังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม? รีบไปกินข้าวก่อนไป”

“ตกลง พระชายา ข้าออกไปก่อนนะ” เสี่ยวเตาพูดอย่างมีความสุข

“ไปเถอะ” หลีโม่ยิ้มให้เขา

เสี่ยวเตาเดินกระโดดออกไป เขาอารมณ์ดีมาก ได้เจอพระชายา ได้เจอเย็นเอ๋อร์กับท่านพี่หลิงลี่ อีกเดี๋ยวจะไปเล่นกับกุ้ยหยวนด้วย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ต้องเจอปีศาจน้อยนั่นอีก

“หลิงลี่” หลีโม่เห็นเสี่ยวเตาออกไปแล้วก็พูดกับหลิงลี่ว่า “ข้ารู้ว่าสู้เยว่โหลวมีหน้าที่รวบรวมข่าวสารข้อมูลโดยเฉพาะ ที่เป่ยม่อมีคนของสู้เยว่โหลวไหม?”

หลิงลี่พูดว่า “เป่ยม่อมีคนของสู้เยว่โหลวอยู่ แต่ว่าหากจะสืบข่าวในวังของเป่ยม่อ คิดว่าไม่ง่าย แต่ว่า เราจะไปหากาวเฟิ่งเทียนได้นี่นา”

“ใช่ กาวเฟิ่งเทียน” หลิวลี่นิ่งไป “รอเจ้าเจ็ดกลับมา เราสองคนจะลองหารือกันอีกที”

“ได้ อย่าเพิ่งกังวลไป อย่างน้อยแม่ทัพฉินยังมีกองทัพคอยคุ้มกันอยู่ ฉู่จิ้งไม่กล้าทำอะไรนางหรอก”

ฉู่จิ้งไม่กล้า แต่ฉินเหล่าไท่ไท่กล้า หลีโม่พูดในใจ