บทที่866 ศิษย์พี่ของซุนฟางเอ้อร์
หลังจากที่ทุกคนนั่งลง หลีโม่จึงถามเลียงห้านเหวินว่า “แม่นางซุนบอกว่าเจ้าคือคนที่หมอเวินยี่เชิญมาใช่หรือไม่?”
“ใช่” เลียงห้านเหวินพูดด้วยท่าทางหยิ่งผยอง แต่ก็ไม่ได้หยาบคายเท่าใดนัก ความหยิ่งผยองนี้รวมความเย่อหยิ่งและความภาคภูมิใจเข้าด้วยกัน ราวกับว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับหมอเวินยี่
หลีโม่ไม่ได้สอบถามเรื่องของหมอเวินยี่มากจนเกินไป เพียงแต่ถามเกี่ยวกับซุนฟางเอ้อร์ก็เท่านั้น “ตอนนี้แม่นางซุนเป็นอย่างไรบ้าง?”
เลียงห้านเหวินเหลือบมองซุนฟางเอ้อร์ “ค่อนข้างน่าขยะแขยง”
…….
“นี่......” หลีโม่กระซิบ “ดูแล้วก็ค่อนข้างน่าขยะแขยงจริงๆ แต่ข้าถามเกี่ยวกับการแว้งกัดของพิษกู่ของนาง”
เลียงห้านเหวินรู้สึกอาย “ดีขึ้นมากแล้ว อย่างน้อยพิษกู่ก็ค่อยๆไหลซึมออกมาจากผิวหนัง หมอเวินยี่บอกว่า พิษกู่ไม่สามารถขับออกช่องทางอื่นได้ จะต้องผ่านทางรูขุมขนพร้อมกับเหงื่อเท่านั้น ดังนั้น ตอนนี้ต้องให้ยานางก่อนเพื่อกระตุ้นกระเติบโตของพิษกู่ในร่างกายและจึงใช้ยาฆ่ามัน จากนั้นก็แช่ด้วยยาเป็นเวลาสองเดือน แล้วสารพิษที่อยู่ในร่างกายของพิษกู่จะถูกขับออกทั้งหมด”
หลีโม่รู้สึกว่ามีเหตุผลจึงขอคำปรึกษา “แล้ววิธีแก้ปัญหาการแว้งกัดของพิษกู่ของนางใช้กับผู้ป่วยที่พิษกู่แว้งกัดได้หรือไม่?”
เลียงห้านเหวินส่ายหัว “เป็นไปไม่ได้ เพราะยานี้รุนแรงมากการที่จะใช้ยาฆ่าพิษกู่ทำให้คนส่วนใหญ่ทนไม่ไหว
แต่ที่ซุนฟางเอ้อร์ทนไหวเพราะนางเลี้ยงพิษกู่ด้วยเลือดมาตลอด และความสามารถในการทนพิษของนางนั้นแข็งแกร่งกว่าคนอื่นมาก”
หลีโม่พยักหน้า “เข้าใจแล้ว”
สักพักนางก็ถามอีกครั้ง “ต้องใช้เวลานานแค่ไหนสำหรับการกำจัดการแว้งกัดของพิษกู่และเตรียมยาแก้พิษท่งหมิง”
เลียงห้านเหวินครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “มันเป็นเรื่องยากที่จะพูด ขึ้นอยู่กับความสามารถของนาง หากทนต่อยาที่แรงกว่าได้ก็สามารถหายขาดได้ในสามเดือนโดยประมาณ แต่ถ้าหากนางไม่สามารถทนได้ นางก็อาจจะเสียชีวิต”
“นี่มันอันตรายเกินไป” หลีโม่ส่ายหัว “หากต้องการให้ปลอดภัยกว่านี้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
“ถ้าเช่นนั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าเดือน”
ห้าเดือน พอๆกับเวลาที่ฮ่องเต้หายเป็นปกติ
ซุนฟางเอ้อร์คิดว่าหลีโม่รีบจึงพูดกับเลียงห้านเหวินว่า “เจ้าเริ่มพรุ่งนี้เลย เพิ่มขนาดยาอย่างเหมาะสม ข้าทนได้”
เลียงห้านเหวินพูดว่า “เจ้าเองก็รู้ว่าถึงแม้เจ้าจะทนได้มันก็ไม่มีประโยชน์ แม้เจ้าจะทนได้จริงๆ ทว่าหากเกิดข้อผิดพลาด
เทพเจ้าก็ยากที่จะช่วย ข้าแนะนำให้เจ้าฆ่ามันตามแบบแผนดีกว่า”
เสี้ยฮ่าวหรานที่อยู่ข้างๆพูด “ใช่ อย่าเพิ่งวู่วาม”
เขาหันหน้าไปมองหลีโม่แล้วพูดด้วยความกังวล “พี่สาว หากพี่สาวซุนฟางเอ้อร์ไม่ดีขึ้น ถ้าเช่นนั้น พี่เขยก็ตกอยู่ในอันตราย?”
หลีโม่ยิ้มแล้วตอบว่า “ไม่หรอก เขาจะไม่เป็นอะไร พิษท่งหมิงจะไม่พรากชีวิตคนในทันที จึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
เพียงแค่เจ้าแปดมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะมีชีวิตอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ก็นับว่าดีแล้ว
หลังจากกินข้าวที่โดยหานเสร็จ หลีโม่จึงพาเสี้ยฮ่าวหรานเข้าไปในห้องพูดคุยเป็นการส่วนตัว
“เจ้าอยู่ที่นี่มีความสุขไหม?” หลีโม่ยื่นมือออกมาพลางลูบไรผมของเสี้ยฮ่าวหราน ใบหน้าของเสี้ยฮ่าวหรานไม่ได้อ่อนเยาว์เหมือนแต่ก่อนแล้ว เด็กคนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว
“มีความสุข” เสี้ยฮ่าวหรานยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว มองไปที่หลีโม่อย่างมีความสุข
“มีความสุขก็ดี ศิษย์พี่ของเจ้าล่ะ?” ตอนที่นางขึ้นมาก็ไม่เห็นเจ้าอ้วนฟันหลอแล้ว
“ศิษย์พี่ไปเก็บยา”
“อืม ฟังที่ศิษย์พี่พูด” หลีโม่แสร้งไม่สนใจแล้วถามว่า “ใช่แล้ว เจ้าคิดถึงแม่กับพี่โล่เยว่บ้างหรือไม่?”
วันนั้นเมื่อหลีโม่เห็นเฉินหลิงหลงและเสี้ยโล่เยว่ แม้นางจะมีความสุขมากแต่ก็รู้สึกว่าพวกนางควรจะแจ้งข่าวบ้าง ทว่า เมื่อคิดถึงพวกนางแล้ว คนหนึ่งก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดฮ่าวหราน อีกคนก็เป็นพี่สาวของเขา เหมือนมีนามแหลมซ่อนอยู่ในใจ
เสี้ยฮ่าวหรานตะลึงเล็กน้อย “ไม่คิดถึง ทำไมรึ? พวกนางคิดถึงข้า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...