บทที่ 87 หลบอยู่นอกเมือง
ใบหน้ามีแต่ความเจ็บปวด ร่างกายก็มี ตอนที่กระโดดลงไปในเหวนั้น ถึงแม้ว่านางจะตกลงไปในพื้นที่ราบอันแรก แต่ว่านางหลบไม่พ้นเลยกลิ้งไปมาจนถึงอีกที่หนึ่งนางถึงสามารถหยุดนิ่งได้ แล้วนางก็รีบไปหลบอยู่ใต้หินที่โผล่ออกมา
รอจนทหารสองคนนั้นกลับไป นางถึงโผล่หน้าออกมา โชคดีหน่อยที่ตรงนั้นมีแสงสว่างมากพอ นางถึงสามารถแก้เชือกออกได้ แล้วก็รอให้เซียวโธ่มาช่วย
“เจ็บมั้ย?”เขาถามขึ้นเสียงแหบพร่า พร้อมกับสีหน้าที่ดูเศร้าสลด สายตาที่ดูโศกเศร้าคู่นั้นหันมาจ้องมองนาง
หลีโม่ส่ายหัวเบาๆ“ไม่เจ็บ!”ที่จริงก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรจริงๆ นางเคยอยู่ในกลุ่มสายลับมา จะมาเจ็บอะไรกับแค่แผลภายนอกแค่นี้?
มือของซือถูเย้นค่อยๆเลื่อนลงมาที่คอของนางที่เป็นรอยแผลค่อนข้างใหญ่ แล้วชี้ไปที่ท้องที่เย็นมาก และก็ค่อยๆสั่น เขาพยายามใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีถึงสามารถยกมือขึ้นมาได้
หลีโม่กุมมือเขาเอาไว้ แล้วก็ค่อยๆวางลง:“ท่านอ๋องฟื้นขึ้นมาได้ก็ดีมากแล้ว หลายคนที่เป็นกังวลกับอาการป่วยของท่าน”
ซือถูเย้นยิ้มอ่อนที่มุมปาก แต่ว่าสายตากลับแฝงความเศร้าใจอยู่“หลายคนเป็นห่วงข้างั้นหรือ?”
เขาพูดราวกับว่ากำลังถาม แต่ก็ปนเสียดสีอยู่บ้าง
หลีโม่เงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย เห็นเขาค่อยๆหลับตาลงก็เลยไม่ถามอะไร แล้วก็ยื่นมือออกไปวัดไข้ดู เขายังมีอาการตัวร้อนอยู่
“ข้ายังต้องทำความสะอาดรอยแผลให้ท่านอีก ท่านอดทนหน่อยนะ”หลีโม่พูดแล้วก็พลางถอดเสื้อออกให้เขา
ซือถูเย้นก็พลันลืมตาขึ้น “สองวันนี้มีคนทำให้เจ้าลำบากหรือไม่?”
หลีโม่ชะงักไปครู่นึง แล้วพลันเงยหน้าขึ้นมา:“ไม่มีหรอก”
ซือถูเย้นพูดขึ้น:“แล้วบาดแผลตามร่างกายของเจ้ามาจากไหน?”
“ข้าโดนหมากัดแล้วก็ล้ม!”
“.....”
เซียวโธ่ยกถาดข้าวเข้ามา พอเห็นซือถูเย้นฟื้นแล้ว เขาก็รีบเอาถาดข้าวไปวางที่โต๊ะทันที แล้วตรงอิ่งเข้ามา“ฟื้นแล้วหรือ?”
เขาเองแทบจะไม่อยากเชื่อ ตอนที่เขาพาตัวซือถูเย้นมานั้น ร่างกายของเขาเย็นเฉียบเหมือนกับคนที่ตายไปแล้วจริงๆ
วันนี้ได้เจอกับเสี้ยหลีโม่ นางบอกว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องเอาตัวเขาออกมา เอาไว้ในตำหนักไม่ได้
เขาหาที่พักที่ปลอดภัยก่อนที่เขาจะเข้าไปในเมือง แล้วก็ตามหาคนของตัวเองที่พอจะไว้ใจได้ จากนั้นก็ไปตีสนิทกับทหารที่เฝ้าซือถูเย้นไว้ แล้วพอเหตุการณ์ในตำหนักเริ่มชุลมุน เขาก็พาซือถูเย้นออกมาทันที
“ข้าฆ่าไม่ตาย เจ้าคงจะผิดหวังใช่หรือไม่?“
เซียวโธ่พยักหน้า“ที่จริงก็ผิดหวังนิดหน่อย แต่ว่าเพียงแค่ผิดหวังที่เจ้าแค่ถูกเหลียงไถ้ฝู้ทำร้ายแค่เจ็บหนักเท่านั้น!“
หลีโม่ชะงักไป เหลียงไถ้ฝู้งั้นหรือ?ไม่ใช่อ๋องเหลียงหรือ?งั้นนางก็เข้าใจอ๋องเหลียงผิดแล้ว.....
ได้ คนไม่รู้คือคนไม่ผิด นางอภัยให้ตัวเอง
ซือถูเย้นพูดขึ้นเบาๆ:“ถ้าเดินทางในความมืดมากๆ ยังไงก็จะต้องเจอผี ต้องโทษข้าที่มองข้ามเขา“
ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ เขาดูแปลกๆ เซียวโธ่สัมผัสไม่ได้ แต่ว่านางสัมผัสได้
รอยแผลของยังคงอักเสบอยู่ ยาทาครั้งก่อนนางล้างออกจนหมดแล้ว โชคดีที่หลีโม่เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดออกก่อนแล้วนิดหน่อย
แล้วก็ทายาล้างแผล เอาผิดออก หลีโม่ก็เริ่มทายาลงไปที่แผลอีกครั้ง
ยาชนิดนี้ละเอียดมาก พอดมเข้าไปแล้วจะได้กลิ่นของโสม และน่าจะเป็นยาที่ผสมกันกับโสมที่สามารถรักษาได้ดีมาก แต่ว่าไม่ใช่ยาที่ใช้สำหรับทาแผล แต่เป็นยาที่เอาไว้กินมากกว่า
“เจ้ากำลังทำอะไร?กินข้าวก่อนค่อยทำ“เซียวโธ่เห็นนางเอาแต่นั่งล้างผ้าเช็ดหน้าอยู่จึงเดินเข้ามาหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...