ตอน บทที่873 หัวหน้าสูตินารี จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่873 หัวหน้าสูตินารี คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
บทที่873 หัวหน้าสูตินารี
หมันเอ๋อร์กลอกตา “ ข้าไม่ได้มีปัญหาอื่นแค่กินข้าวไม่ลง เจ้าจะทำให้ขายหน้า อยากให้คนรู้อยากให้คนคิดว่าข้าป่วยหนัก”
“แต่เจ้าชอบกินมาตลอด หากินไม่ได้นั่นคือความผิดปกติ” อ๋องหลี่ชินพูดอย่างกังวล จากนั้นจึงมองไปที่หลีโม่แล้วถามว่า “เจ้าคิดเช่นนั้นหรือไม่? เรื่องที่เกิดขึ้นต้องมีปีศาจอย่างแน่นอน ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่คนๆหนึ่งจะฝ่าฝืนกฎตามกินของนาง”
หลีโม่เปิดแขนเสื้อของหมันเอ๋อร์จากนั้นเริ่มตรวจชีพจร พลางฟังคำพูดเหล่านั้น แต่ทว่านางไม่ได้ตอบกลับ เพียงแต่ตั้งใจฟังเท่านั้น
อ๋องหลี่ชิน เห็นนางจริงจังมากจึงไม่กล้ารบกวน ทำได้เพียงคอยอยู่ข้างๆอย่างใจจดใจจ่อ
“เป็นอย่างไรบ้าง?” อ๋องหลี่ชินรีบถามเมื่อเห็นหลีโม่เอามือออก
หลีโม่เอามือจับที่ชายกระโปรงพลางมองตาที่ประหม่าของอ๋องหลี่ชิน แล้วนางก็พูดอย่างใจเย็น “ไม่มีอะไร นางท้อง”
อ๋องหลี่ชินถอยหลังไป3ก้าว ดวงตาเบิกโพลง แล้วชี้นิ้วที่สั่นเทาไปที่หลีโม่พร้อมกับพูดตะกุกตะกัก “ซือถูหลีโม่เจ้าอย่าพูดเรื่องไร้สาระ”
หลีโม่ถอนหายใจ “พี่สามเจ้าอย่าพูดไร้สาระ ข้านามสกุลเสี้ย แต่ถ้าเจ้าจะบอกว่าข้านามสกุลซือถูก็ได้ เพราะข้าแต่งงานกับไอ้เจ็ดแล้ว ก็ควรจะใช้นามสกุลสามี แต่อย่างไรก็ตาม ซือถูควรจะอยู่นามหลังคำว่าเสี้ย
เขาคว้าข้อมือหลีโม่อย่างแรงจนข้อมือแทบจะหลุด “หลีโม่ เจ้าพูดจริงรึ? เจ้าอย่าเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น ข้าขำไม่ออก”
หลีโม่มองหมันเอ๋อร์ “เรื่องการจับชีพจร ข้าไม่เคยผิดพลาด”
เหตุใดคนจึงสงสัยความสามารถในการจับชีพจรของนาง?
หมันเอ๋อร์ยกผ้านวมขึ้นและกำลังจะลงจากเตียง อ๋องหลี่ชินมีสติกลับคืนมาแล้วจึงร้องออกมา “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ข้าลุกขึ้น ข้าอยากจะถามให้เข้าใจ” หมันเอ๋อร์ยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก อีกทั้งอยากถามเรื่องนี้ให้ชัดเจน จึงลุกขึ้นแล้วมองไปที่หลีโม่อย่างแข็งแกร่ง
“นอนลงแล้วถาม” อ๋องหลี่ชินก้าวไปข้างหน้าแล้วกดไหล่ของนางลง และรู้สึกว่าน้ำเสียงของตนเองรุนแรงเกินไปจึงเบาเสียงลงเล็กน้อย “นอนงเถิด เดี๋ยวข้าถามเอง”
เขามองไปที่หลีโม่ หลีโม่ไม่รอให้เขาถามแล้วพูดอย่างมั่นใจ “นางท้องจริงแท้แน่นอน หากไม่ใช่ ข้าจะเอาเด็กในท้องของข้ามาให้พวกเจ้า”
“ถ้าเช่นนั้นก็เป็นเรื่องจริง” อ๋องหลี่ชินหันไปหาหมันเอ๋อร์ ด้วยใบหน้าที่เอาจริงเอาจัง “หมันเอ๋อร์พวกเราท้องแล้ว”
อู๋เยี่ยนจู่หัวเราะ “พระชายาท้อง ท่านอ๋องท่านท้องไม่ได้”
อ๋องหลี่ชินไม่ได้โกรธแต่อย่างใด “ใช่ ข้าพูดผิดแล้ว พระชายาท้อง และข้ากำลังจะเป็นพ่อ”
หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา ริ้วรอยบนใบหน้าของเขาเอ่อนนุ่มลงมาก คิ้วโก้ง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ดูเขามีความสุขมาก
หมันเอ๋อร์ปิดหน้าแล้วพูดว่า “ข้าไม่อยากจะเชื่อ จะท้องได้อย่างไร? ก่อนหน้านี้ข้ากินยาบำรุงตั้งมากมายยังไม่ท้อง พอไม่กินกลับท้อง? “ข้ากินไปเพื่ออะไรตั้งหลายปี?”
อ๋องหลี่ชินครุ่นคิดสักพัก “อาจเป็นเพราะความดีความชอบที่ข้าไม่อ่านหนังสือตอนกลางคืน”
หลีโม่พูดด้วยรอยยิ้ม “เป็นความดีความชอบของพวกเจ้าทั้งสอง เตรียมตัวให้พร้อมเถอะ เร็วๆนี้เจ้าจะเป็นพ่อแม่คนแล้ว”
นางลูบท้องตนเอง “ลูกของข้า จะมีน้องชายหรือน้องสาวนะ”
ดวงตาของอ๋องหลี่ชินแสดงถึงความประทับใจ ในใจตื่นเต้นมาก ความตื่นเต้นแบบนี้30กว่าปีที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นกับเขาเลย นิสัยของเขาสงบนิ่งดั่งสายน้ำ
หลีโม่แสร้งทำเป็นสงบ ทั่งๆที่ในใจตื่นเต้นมาก เด็กคนนี้ของหมันเอ๋อร์มาพร้อมกับความตื่นเต้นจริงๆ
อ๋องหลี่ชินถามหลี่โม่อย่างละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ควรระวัง และขอให้หลีโม่สั่งยาบำรุงครรภ์
หลีโม่ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรต้องระวัง หาหมอตำแยที่มีประสบการณ์มาดูแลพี่สะใภ้ส่วนยาบำรุงครรภ์ คือยาพิษ3จุด หากไม่กินได้ก็ไม่ต้องกิน”
“ได้ ได้ ฟังเจ้า” อ๋องหลี่ชินพยักหน้า
อ๋องหลี่ชินนั่งอยู่ด้านหน้าของเตียง พลางกอดไหล่หมันเอ๋อร์ด้วยสายตาที่อบอุ่น ทำให้หลีโม่คิดถึงไอ้เจ็ดตอนที่รู้ว่านางท้องครั้งแรกก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน พี่น้องคู่นี้เหมือนกันจริงๆ
จากนั้นเขาก็ตบปากตัวเองหกครั้ง และขี่ม้ากลับไปอย่างเงียบๆ
หลีโม่จ้องไปที่อู๋เยี่ยนจู่ ด้วยตาที่เบิกโพลง “นี่หมายความว่าอย่างไร?”
อู๋เยี่ยนจู่ส่ายหน้า “ ข้าไม่รู้ น่าจะมาบอกเจ้าว่า ไม่ให้บอกใครเรื่องที่พระชายาท้อง อาจจะกลัวเด็กในท้องใจแคบ”
“อืม ถ้าเช่นนั้นข้าจะไม่พูด” หลีโม่ ปิดผ้าม่านด้วยความรู้สึกแปลกใจ บอกให้นางไม่ต้องพูดแล้วเหตุใดเขาจึงประกาศไปทั่วท้องถนน?
หรือว่ากลัวใครจะไม่รู้ว่าเขามีลูกในวัยกลางคน
อู๋เยี่ยนจู่ก็ปิดผ้าม่าน “ข้าก็จะไม่พูด”
“พี่สามผู้นี้แปลกจริงๆ” หลีโม่พูด
“ใช่ แปลกมาก” อู๋เยี่ยนจู่พูด
รถมาวิ่งไปยังตำหนักอ๋องซื่อเจิ้ง ปนะชาชนที่ถนนตงต่างตกตะลึง จากนั้นก็เหมือนหม้อไฟระเบิด
“ เป็นไปไม่ได้หรอก พระชายาหลี่ชิน มีลูกยากไม่ใช่รึ? แล้วจู่ๆจะท้องได้อย่างไร?”
“หรือว่าพระชายาซื่อเจิ้งรักษานาง? ฝีมือการรักษาของพระชายาซื่อเจิ้งยอดเยี่ยมจริงๆ”
“ น่าทึ่ง แม่ไก่อายุ 30 ปีก็สามารถวางไข่ได้”
วันรุ่งขึ้น หญิงสาวที่มีลูกยากหลายคนล้อมรอบที่ประตูตำหนักอ๋องซื่อเจิ้ง บอกว่าอยากเห็นกวนอิมประทานบุตรหลีโม่
ตำหนักอ๋องซื่อเจิ้งเป็นที่ที่รักษาผู้ที่มีลูกยากไปเสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...