พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 874

สรุปบท บทที่874 ในที่สุดซือถูเย้นก็ทรยศ: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

สรุปเนื้อหา บทที่874 ในที่สุดซือถูเย้นก็ทรยศ – พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง

บท บทที่874 ในที่สุดซือถูเย้นก็ทรยศ ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่874 ในที่สุดซือถูเย้นก็ทรยศ

เมื่อซือถูเย้นรู้ว่าหมันเอ๋อร์ท้อง ก็แปลกใจเล็กน้อย “ จริงรึ? เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ”

หลีโม่ เห็นเขาขมวดคิ้ว จึงคิดได้ว่ายาสมุนไพรของโรคตามฤดูกาลที่เจียงตงยังมาไม่ถึง จึงพูดปลอบว่า “ เจ้าไม่ต้องรีบร้อน ยังไงก็ซื้อยาสมุนไพรได้”

ซือถูเย้นนวดคิ้วของเขา “ ข่าวนี้แพร่กระจายอย่างกว้างขวาง ทว่า นี่เป็นแผนการที่มีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า เขาเรียนรู้กลอุบายของฉู่จิ้ง

รู้จักเรียนรู้แล้วนำไปใช้ ช่างเป็นฮ่องเต้ที่ดีจริงๆ!

เมื่อเป็นเช่นนี้ กรมฮุ่ยหมิน ที่ก่อตั้งด้วยความหวังของประชาชน ก็ต้องล่มสลายเพราะไม่มียาที่สามารถรักษาโรคระบาดได้

แผนประกันสุขภาพก็ถูกบังคับให้หยุด ความดีความชอบของซือถูเย้น ก็หายไปจนหมดสิ้น แม้กระทั่งชื่อเสียงก็ฉาวโฉ่ไปทั่ว

ซือถูเย้นพูดเสียงเบา “ขอบเขตของข้าคือประชาชน และขอบเขตของข้าก็ถูกเขารุกราน

หลีโม่จกใจ “เจ้าคิดจะทำอะไร?”

“ ไม่มีอะไร ตอนนี้เขาหายเป็นปกติแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้าวังเพื่อรักษาเขา” ซือถูเย้นยิ้มเล็กน้อย ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับดูมืดมน

หลีโม่ มองไปที่เขา แต่กลับไม่ได้ทำอะไรเพียงแค่พูดว่า “อืม ข้ารู้”

ตอนนี้เขาจะทำอะไร นางก็ไม่คัดค้านทั้งนั้น

หมอเวินยี่ทำการรักษาซุนฟางเอ้อร์แล้ว และซุนฟางเอ้อร์ก็จะหายเป็นปกติ นางไม่ต้องกังวลอะไร

หูฮวนซีมาบอกหลีโม่ด้วยความหดหู่ใจ ไม่ว่าจะถามผู้ขายยาสมุนไพรกี่ราย ล้วนบอกว่าไม่มียาที่สามารถรักษาโรคระบาดได้

แม้หูฮวนซีจะหาไม่เจอที่นี่ แต่อ๋องเย่กลับมีข่าวดี

มีคนขายยาที่เหมียวเจียง คนหนี่ง มียาสมุนไพรมากพอที่จะรักษาโรคระบาดได้ เขาสามารถบริจาคได้โดยไม่มีเงื่อนไข ทว่า เขาให้หนึ่งเงื่อนไข คือต้องให้พระชายาซื่อเจิ้งรักษาแม่ของเขา

การรักษาไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่สถานที่นั้นคือเหมียวเจียง

เหมียวเจียงเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในการเลี้ยงพิษกู่ ซึ่งแตกต่างจากเหมียวเจียงในประวัติศาสตร์ที่หลีโม่ คุ้นเคยเล็กน้อย ประการแรก เหมียวเจียงแห่งนี้เล็กมากมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของเมืองหลวง และมีประชากรเพียงสามสี่พันคน

ผู้ขายยาในเหมียวเจียงคนนี้ เดิมทีไม่ได้อาศัยอยู่ที่เหมียวเจียง แต่ว่าแม่ของเขาคือผู้นำของที่นั่น กล่าวคือแม่ของเขาคือคนเลี้ยงพิษกู่

รักษาหายก็หยุด หากรักษาไม่หายจะได้กลับมาหรือไม่?

ซือถูเย้นต้องคัดค้านแน่นอน

เหตุผลง่ายง่ายแม้ว่าเหมียวเจียงจะอยู่ไม่ไกล แต่อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเดินทางห้าถึงหกวันไม่ต้องพูดถึงความลำบากในการเดินทาง และอีกอย่างก็ไม่รู้ว่าผู้นำของเหมียวเจียงป่วยเป็นอะไร คนที่เลี้ยงพิษกู่แต่ไม่สามารถรักษาอาการป่วยของตัวเองได้ แน่นอนว่าไม่ใช่โรคธรรมดา

นอกจากนี้ก็ไม่รู้ว่าโรคนี้จะต้องรักษานานแค่ไหน นางอาจจะต้องคลอดที่เหมียวเจียง

ซือถูเย้นจะสบายใจได้อย่างไร?

หลีโม่ยืนยันที่จะไป เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะไม่มีวิธีอื่นแล้ว

“การประกันสุขภาพข้าก็คือคนเสนอ ดังนั้นข้าก็คือผู้นำ และข้าก็ยังเป็นหมอของกรมฮุ่ยหมิน ข้าไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไป”

“ไม่มีอะไรจะพูด” ซือถูเย้นเพียงแค่สั่งให้กักตัวหลีโม่ ไม่อนุญาตให้ออกนอกตำหนัก

หลีโม่พูดด้วยความโกรธ “ เจ้าไม่มีสิทธิ์ห้ามข้า อย่างน้อยเจ้าควรจะให้ข้าไปเจอผู้ขายยานี้ ให้ข้าได้ถามอาการของแม่เขา”

ซือถูเย้นำม่สนใจนาง เพียงแค่สั่งให้หลิงลี่ ตี่สุยและโฮ่หยุน เฝ้าดูนางให้ดี นางสามารถเป็นอิสระในตำหนัก แต่ห้ามออกนอกตำหนัก และช่วงนี้ก็ไม่อนุญาตให้ใครมาหานาง

ซือถูเย้นปิดประตูวัง และไม่อนุญาตให้ใครเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้

ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้เริ่มให้ขุนนางชั้นใหญ่เข้าพบแล้ว เป็นการรับรองความมั่นใจให้กับหลายคน การเคลื่อนไหวของซือถูเย้น สร้างความรำคาญให้กับคนเหล่านี้อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ทว่า เมื่อเขาหันไปกลับเห็นคนเหล่านั้นที่เพิ่งซักถามข้อสงสัยกับซือถูเย้น ล้วนถูกทหารรักษาพระองค์ควบคุมตัวไม่สามารถพูดอะไรได้

จื่นเฉิงพาคนเข้ามาควบคุมใต้เท้าซุน ท่านผู้นี้เพิ่งรับตำแหน่งสูงยังคงไม่รู้จักความตาย “ซือถูเย้น เจ้ากล้ารึ? ข้าคือน้าของเจ้า เจ้ากล้าสังหารข้า ไม่กลัวไม่ตายดีใช่หรือไม่?”

ซือถูเย้นยกมือขึ้นวาดแขนเสื้อสีดำต่อหน้าฝูงชน พลาง พูดด้วยเสียงเย็นชาไม่มีผู้ใดเทียม “ยังไม่ลากไปอีก รออะไรอยู่?”

“เจ้าทำเช่นนี้ ซุนไทเฮาไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ ท่านแม่ของเจ้าก็จะไม่ปล่อยเจ้าไว้เช่นกัน” ใต้เท้าซุนตะโกนเสียงดังลั่น

จื่นเฉิงลากเขาไป ได้ยินเพียงเสียงไม้ที่กระทบกับเนื้อพร้อมกับเสียงที่ร้องโหยหวนของใต้เท้าซุน ดังกึกก้องอยู่นอกพระตำหนักจินหลวน ดังอยู่เป็นเวลานาน

กลิ่นเลือดหลั่งไหลเข้ามาการต่อสู้เพื่ออำนาจไม่เคยปราศจากเลือกตั้งแต่ไหนแต่ไร

การเคลื่อนไหวของซือถูเย้น ในวันนี้ ไม่มีลางสังหรณ์เลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งในตอนเช้าตรู่เขาก็ไม่ได้มีการเตรียมการอะไร เพียงแค่สั่งเท่านั้น พูดให้มาก็มา พูดว่าจะแย่งชิงก็แย่งชิง

เขาไม่ได้ขึ้นของราชบัลลังก์เป็นฮ่องเต้ ทว่าเขากลับนั่งบนเก้าอี้มังกรแล้ว

เขาไม่ได้อ้างตนเป็นฮ่องเต้ ทว่ามีราชโองการให้ขุนนางทั้งหลาย

เขาไม่ใช่ฮ่องเต้ ทว่าอยู่สูงกว่าฮ่องเต้

หลังจากพบปะกันเสร็จแล้ว ทุกคนล้วนเดินออกมาด้วยอาการขาสั่น เมื่อเห็นแสงอาทิตย์ข้างนอกยังคงไม่กล้าเชื่อว่าท้องฟ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว

ในตำหนักซีเวย ฮ่องเต้ฟังลู่กงกงพูดถึงทุกอย่างเกี่ยวกับเมื่อเช้า

สีหน้าของเขาซึมกระทือ อยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะพูดกับลู่กงกงว่า “เอายามา ข้าควรกินยา”

ลู่กงกง หยิบกล่องยาจากตู้อย่างสั่นเทา ในกล่องมียาหนึ่งเม็ด ในเม็ดยามีกลิ่นเลือดคละคลุ้ง ยาเม็ดราวกับยังสามารถมองเห็นพิษกู่คลานอยู่ในนั้น

ฮ่องเต้หยิบยาแล้วกลืนลงไป จากนั้นมองไปที่ลู่กงกงแล้วยิ้มออกมา “เป็นอย่างไร? ข้าเดาถูกใช่หรือไม่? ในที่สุดซือถูเย้นก็ทรยศ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม