ตอนที่ 877 หลีโม่ไปเหมียวเจียง – ตอนที่ต้องอ่านของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม
ตอนนี้ของ พิษรักองค์ชายโฉมงาม โดย ใบไม้แดง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 877 หลีโม่ไปเหมียวเจียง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 877 หลีโม่ไปเหมียวเจียง
ทุกคนเห็นฮ่องเต้ตายในมือของซือถูเย้น อ๋องหลี่ชินก็อยู่ข้างๆ ไม่ไกล ถึงแม้จะไม่ได้ยินที่พวกเขาคุยกัน แต่ว่า เขาเห็นว่าฮ่องเต้นั้นปาดคอตนเอง
เขาช่วยห้ามขุนนางที่กรูกันเข้ามา แล้วพูดว่า “อย่าเข้าใกล้ ข้าเห็นชัดเจนเลยว่า ไอ้เจ็ดไม่ได้ปลงพระชนม์ แต่ฮ่องเต้ปลงพระชนม์เอง”
ไม่มีใครเชื่อ แต่ว่า เหล่าทหารที่ลาดตระเวนรอบเมืองอยู่ พอเห็นซือถูเย้นมีอำนาจในมือ ต่างก็ตะโกนพูดว่า “ฝ่าบาทได้เอาชีวิตตนเองไถ่โทษแล้ว!”
“ฮ่องเต้เอาชีวิตตนเองไถ่โทษ!”
“ฮ่องเต้เอาชีวิตตนเองไถ่โทษ!”
ราษฎรด้านล่าง มองไม่เห็นเหตุการณ์บนปะรำพิธี พอได้ยินเช่นนั้น เสียงด่าของทุกคนก็เงียบลง
ความเงียบ ได้แพร่ออกไปทั่ว
มีเงาคนหนึ่งลอยลงไปด้านล่างปะรำพิธี แล้วควบม้าไปยังทางตำหนักอ๋อง
หลีโม่เป็นแม่พิษหนอน เมื่อลูกพิษหนอนตาย แม่พิษหนอนก็จะตายภายใน7วัน
ในหัวเขาหมุนวนอยู่แต่คำพูดนี้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้
พอมาถึงหน้าประตูตำหนัก เขาก็กระโดดลงม้า แล้วพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วตะโกนเรียกว่า “หลีโม่ หลีโม่”
มามาก็รีบเข้ามาห้ามซือถูเย้น “ท่านอ๋อง!”
“หลีโม่อยู่ที่ไหน?” ซือถูเย้นโกรธมากจนหน้าแดง
มามาพูดอย่างโมโหว่า “ไอ้อู๋เยี่ยนจู่นั่น พาพระชายาออกไปแล้ว ทิ้งกระดาษไว้บอกว่าจะไปเจียงตง”
“อะไรนะ?” ซือถูเย้นตะโกนดัง “อู๋เยี่ยนจู่ไปกับหลีโม่แค่นั้นหรือ?”
“ยังมีเสี่ยวเตาด้วย ไม่รู้ว่ามีทหารตามไปด้วยหรือไม่ หลิงลี่และตี่สุยโฮ่หยุนก็ตามไปแล้ว”
“ออกไปกันตอนไหน?” ซือถูเย้น อดโมโหถามไม่ได้
“ไปเมื่อวานนี้ ได้ส่งคนไปตามท่านอ๋องตลอด แต่เข้าไปไม่ได้” มามาก็กังวลใจมาก
“จื่นเฉิง จื่นเฉิง!” ซือถูเย้นหันตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
พอเขาวิ่งมาถึงประตู ก็รู้สึกว่าเจ็บเข้าที่หน้าอก และหน้ามืดเหมือนกับมีเงาอะไรเกิดขึ้นในหัว แล้วก็เห็นเลือดตรงหน้า ที่แท้ก็เป็นเจ้าแปด เจ้าแปดกำลังนอนอยู่ในกองเลือด
เขาลุกขึ้น แล้วส่ายหัว เขากำลังมึนหัว
“ท่านอ๋อง เป็นอะไรไปหรือ?” จื่นเฉิงมาถึงหน้าประตู ก็เห็นซือถูเย้นผิดปกติ แล้วก็รีบมาพยุงเขา
หลีโม่ไม่ได้ไปเจียงตง แต่ไปเหมียวเจียง
อู๋เยี่ยนจู่วางกับดักหลอกลวงไว้ แล้วช่วยนางออกไป ศิษย์อาจารย์สองคน แล้วก็มีเตาเหล่าต้า ควบรถม้าออกเมืองไป ตอนนั้นซือถูเย้นกำลังเตรียมงานบูชาสวรรค์อยู่
ก่อนออกไป ก็ได้ปรึกษากับอ๋องเย่แล้ว อ๋องเย่เป็นคนรับหน้าที่ไปหาพ่อค้ายาสมุนไพรคนนั้น แล้วบอกว่านางไปเหมียวเจียงแล้ว แล้วให้ขนยาจำนวนหนึ่งไปยังเจียงตง
พ่อค้ายาสมุนไพรคนนั้นก็รับปาก บอกจะส่งไปจำนวนครึ่งหนึ่ง รอนางถึงเหมียวเจียง ไม่ว่าจะรักษาหายหรือไม่ ก็จะยอมส่งยาที่เหลือไปให้ แต่ถ้ารักษาไม่หาย ยาที่ส่งออกไปก็จะต้องคิดเงิน โดยมีราคาสูงกว่าท้องตลาดครึ่งหนึ่ง
หลีโม่กำลังท้องอยู่ นั่งรถม้านานๆ ก็ไม่สะดวก แต่ในสมัยนี้ นอกจากขี่ม้า ก็มีแต่รถม้าที่ไวที่สุดในการเดินทางทางบกแล้ว
“ท่านอาจารย์ พักเสียหน่อยไหม?”
เมื่อคืนไม่ได้พักที่โรงเตี๊ยม แต่พักที่บ้านร้างในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลีโม่นอนไม่เต็มที่ วันนี้ก็เลยมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
หลีโม่กล่าว “พอเจ้าเข้าไป ก็ได้รักษาคนเหมือนกัน แน่นอนว่า ถ้าเจ้าทำมันได้ดีพอ เจ้าก็จะได้ใช้ตำแหน่งของเจ้า ช่วยคนได้มากขึ้น”
“ศิษย์ไม่เข้าใจ” อู๋เยี่ยนจู่หลักการเป็นขุนนาง แล้วไม่รู้ว่าหลีโม่อยากจะช่วยเหลือเขาให้เป็นหัวหน้าของกรมฮุ่ยหมิน
หลีโม่ยิ้มๆ “เดี๋ยววันหลังก็เข้าใจ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว รีบกินเถอะ แล้วรีบเดินทางต่อ จะได้ไม่เสียเวลา ยาที่ให้ไปคราวแล้วนั้น ยังคงช่วยได้อีกไม่นาน”
อู๋เยี่ยนจู่ก็ยิ้มขึ้นมา “ท่านอาจารย์ ท่านมีจิตใจดีเหลือเกิน ตนเองลำบากเช่นนี้ ยังจะอยากไปช่วยคนที่เจียงตงอีก”
หลีโม่มองเขา “ข้าติดเชื้อมาจากเจ้าไง หรือไม่เจ้าก็เตือนสติข้า ทำให้ข้าไม่ลืมความเป็นหมอ”
หลังจากย้อนมาอดีต นางก็ตกอยู่ในการแก่งแย่งชิงดี จนลืมว่าตนเองนั้นเป็นหมอ
นางเป็นหมอ หน้าที่ของหมอก็คือ รักษาคน ไม่มีสิ่งใดสำคัญกว่าการรักษา
ตั้งแต่วันที่ปฏิญาณตน ก็ทำให้นางต้องแบกรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ โดยไม่เปลี่ยนใจ
อู๋เยี่ยนจู่ก็ยิ้ม “ศิษย์ได้ยินเรื่องราวของหมอเวินยี่ ก็เลยตั้งใจว่าจะเป็นหมอ วิชาการแพทย์ของศิษย์นั้นไม่ดีพอ เลยอยากจะหาเงินเพื่อไปกราบหาอาจารย์ ตอนนี้มีอาจารย์มาคอยสั่งสอนแล้ว ศิษย์ช่างโชคดีจริงๆ”
หลีโม่นิ่ง “กราบหาอาจารย์หรือ? จะหาอาจารย์ต้องจ่ายเงินด้วยหรือ?”
อู๋เยี่ยนจู่ยิ้มแหยๆ “ทำไมจะเอาเงินเล่า? ท่านคิดว่าหมอใหญ่ๆ ของร้านหมอจะรับศิษย์ง่ายๆ หรือ? ศิษย์เคยอยู่ในร้านหมอมาสักพัก คนเป็นศิษย์ต่อให้อดทนเรียนแค่ไหน ก็ไม่ได้อะไร เพราะว่า ไม่ให้เงินแล้วใครจะยอมสอน ได้เรียนก็แค่วิชาพื้นๆ”
หลีโม่คิดว่า ขอแค่ได้เข้าไปในร้านหมอ ก็จะมีอาจารย์คอยสั่งสอนทุกอย่าง ถึงว่าการรักษาของแคว้นต้าโจวถึงได้ล้าหลัง เพราะหมอทุกคนหวงวิชา แล้วจะพัฒนาได้อย่างไร?
หลายปีมานี้ ไม่รู้ว่าวิชาความรู้มากมายถูกตัดขาดการสืบทอดไปเท่าไรแล้ว
พอนึกถึงจุดนี้ หลีโม่ก็คิดว่าควรจะมีนโยบายให้กรมฮุ่ยหมินรับศิษย์โดยไม่คิดเงิน
เช่นนี้ ก็จะสามารถพัฒนาวิชาการแพทย์ได้ แล้วราษฎรก็จะได้รับประโยชน์สูงสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...