พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 893

สรุปบท บทที่ 893 เจ้าคือเสี้ยหลีโม่: พิษรักองค์ชายโฉมงาม

ตอน บทที่ 893 เจ้าคือเสี้ยหลีโม่ จาก พิษรักองค์ชายโฉมงาม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 893 เจ้าคือเสี้ยหลีโม่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ พิษรักองค์ชายโฉมงาม ที่เขียนโดย ใบไม้แดง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 893 เจ้าคือเสี้ยหลีโม่

เสี่ยวเอ้อยกขนมมาเสิร์ฟ เห็นฉินโจวอุ้มเด็กไว้ จึงหัวเราะพูดว่า “หู่เถาน้อย ทำไมวิ่งออกมาอีกแล้ว? อาเหนียงล่ะ?”

หู่เถายื่นหัวเกาะไหล่ฉินโจวไว้ ดวงตากลมโตกระพริบสั่นไหวไปมา “อาเหนียงไม่รู้”

“อาเหนียงไปเก็บยา เจ้าจะวิ่งออกมาซนไม่ได้นะ ระวังเดี๋ยวอาเหนียงจะกลับมาตีก้น” เสี่ยวเอ้อพูดพร้อมหัวเราะ

โหรวเหยาได้ยินเช่นนี้ จึงถามขึ้นอย่างแปลกใจว่า “เขาออกมาวิ่งเล่นแบบนี้ตลอดหรือ?”

“คุณลูกค้ามาจากต่างถิ่นใช่ไหม?” เสี่ยวเอ้อยิ้มพูด “เจ้าเห็นเขาดูเรียบร้อย ไม่รู้หรอกว่าเขาฉลาดแค่ไหน ใครก็เอาเขาไม่อยู่ เผลอแป๊บเดียวก็วิ่งหนีไปแล้ว”

โหรวเหยาพูดอย่างไม่พอใจว่า “เป็นแม่ยังไงกัน? ลูกตัวเองแท้ๆก็ไม่ดูแลดีๆ หากมีใครอุ้มไป ดูสินางจะร้องไห้ไหม”

เสี่ยวเอ้อส่ายหัวพูดว่า “ไม่เป็นเช่นนั้นหรอก ในเฟิงโจวนี้มีใครไม่รู้จักเขาบ้าง?”

“คนเฟิงโจวรู้จักเขา แต่ที่นี่คนต่างถิ่นก็มีเยอะนะ มีพ่อค้าไปมาทุกวันตั้งมากมาย คนเป็นแม่นี่ก็ช่างใจกล้าจริงๆ” โหรวเหยาพูด

“ก็ไม่เป็นไร คนที่จะเข้าออกเฟิงโจวนี้ได้ล้วนต้องมีบัตรผ่าน ตอนมาตรวจแล้ว ตอนกลับไปก็ต้องตรวจอีก อีกอย่าง ใครกล้าแตะต้องเด็กคนนี้?” เสี่ยวเอ้อหัวเราะพูด

โหรวเหยาคิดถึงตอนที่พวกเขาเข้าเมืองมา ก็มีการตรวจเข้มงวดจริงๆ

ฉินโจวกลับถามอย่างแปลกใจว่า “ทำไมถึงไม่กล้าแตะต้องเด็กคนนี้?”

“หู่เถาเก่งมาก อย่ามองว่าเขาอายุแค่สองขวบ เจ้าลองคิดไม่ดีดูสิ?” เสี่ยวเอ้อพูดอย่างหยิ่งยโส

ความหยิ่งยโสนี้ กลับทำให้พวกฉินโจวไม่เข้าใจอย่างมาก

“แม่ของเด็กคนนี้เป็นใครกัน? สถานะสูงส่งมากหรือ?” โหรวเหยาถาม

“เขาเป็นลูกของท่านหมอหยุ่นเอ๋อ” ความหยิ่งยโสของเสี่ยวเอ้อยิ่งดูชัดเจนขึ้น พูดเหมือนกับท่านหมอหยุ่นเอ๋อคนนี้เป็นคนพิเศษของเฟิงโจวพวกเขา

โหรวเหยาลุกขึ้น “ท่านหมอหยุ่นเอ๋ออีกแล้ว ข้าจะต้องไปหาเขาแล้วพูดให้รู้เรื่อง คนเป็นแม่ไม่รู้เรื่อง คนเป็นพ่อก็ไม่รู้เรื่องหรือ?”

“พ่อ?” เสี่ยวเอ้อยิ้มส่ายหัว “ท่านหมอหยุ่นเอ๋อเป็นแม่ของหู่เถา”

โหรวเหยาร้องตกใจ “เป็นผู้หญิงหรือ?”

“อย่าดูถูกผู้หญิง ฝีมือทางการแพทย์ของท่านหมอเก่งมาก” เสี่ยเอ้อรีบพูดขึ้น

โหรวเหยานับถือหมอผู้หญิงมาก โดยเฉพาะหมอหญิงที่เปิดโรงหมอ นางรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เหมือนนางก็นับว่าเป็นคนในตระกูลที่ดีมีฐานะ แต่การเปิดโรงหมอก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายขนาดนั้นเลย

แต่โหรวเหยาไม่เห็นด้วย กับการที่นางเลี้ยงลูกอย่างทิ้งๆขว้างๆแบบนี้ บวกกับเมื่อวานที่แก้สูตรยาของนาง ความนับถือที่มีจึงหายไปแล้วกว่าครึ่ง แต่ยังไงก้ยังอยากจะไปดู

ฉินโจวเองก็อยากที่จะไปดู เฟิงโจวมีหมอหญิงที่ดีขนาดนี้เชียวหรือ? ต้องไปทำความรู้จักดีๆหน่อย

“เสี่ยวเอ้อ ท่านหมอหยุ่นเอ๋อพักอยู่ที่ไหน?” ฉินโจวถาม

เสี่ยวเอ้อตอบว่า “นางอาศัยอยู่ด้านหลังโรงหมอ ปกติตอนกลางวันนางไม่อยู่รักษา ตอนกลางคืนถึงจะออกมารักษา”

“ตอนกลางคืนค่อยมารักษา งั้นนางก็คงยังไม่ตื่น” ฉินโจวพูด

โหรวเหยาพูดว่า “แต่เด็กคนนี้ต้องส่งกลับไป นางออกมาตรวจไข้ตอนกลางคืน กลางวันก็น่าจะมีคนเลี้ยวลูกสิ?”

“มีอยู่ มีแม่นมอยู่ แต่แม่นมคนนี้ใช่คู่ต่อสู้ของหู่เถาที่ไหน?” เขาวิ่งหนีออกมาเล่นตลอด

“ไม่ถูก เมื่อกี้เขาบอกว่าจะไปหาอาเหนียง”

“งั้นแสดงว่าท่านหมอหยุ่นเอ๋อออกไปแล้ว” เสี่ยเอ้อมองดูด้านนอก “บางทีตอนนี้ยังไม่ได้นอน นางออกเวรตอนเช้า หากเจอผู้ป่วยหนัก ปกติก็จะนอนตอนเที่ยง”

พวกเขาได้ยินเช่นนี้แล้ว จึงรีบทานกันแล้วก็พากันไป

เสียงอ่อนหวานของผู้หญิงดังขึ้น

ฉินโจวกับโหรวเหยาแทบจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน แล้วหันไปมองคนที่อยู่ด้านในห้อง

แสงแดดในยามเช้า สาดส่องใบหน้าของนาง น่าจะเพราะไม่ได้นอนมาทั้งคืน ขอบดวงตาจึงดูช้ำนิดๆ ใบหน้าขาวแต่ดูแข็งแรง ดวงตานั้น ปากนั้น ใบหน้านั้น เสียงนั้น สำหรับคนทั้งสองเหมือนดั่งไม่เคยเจอกันมาเป็นชาติแล้ว

“หลีโม่?” โหรวเหยาพึมพำ แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง นวดไปมาอย่างที่สุด

ท่านหมอหยุ่นเอ๋อเงยหน้ามองดูโหรวเหยา แล้วก็มองฉินโจว สีหน้าแลดูสงสัย “ทั้งสองมาเพื่อตรวจไข้หรือ?”

โหรวเหยาก้าวเท้าเดินเข้าไป ผลักเด็กเก็บยาแล้วดึงมือของท่านหมอหยุ่นเอ๋อ ตื่นเต้นจนแทบพูดอะไรไม่ออก “เจ้าไม่รู้จักข้า?”

ท่านหมอหยุ่นเอ๋อมองดูนาง แววตาค่อนข้างแปลกใจ “เจ้ารู้จักข้า?”

“หลีโม่ เสี้ยหลีโม่ ฉินโจว เจ้ามาดู เจ้ามาดู” โหรวเหยาหันไปมองดูฉินโจวที่ยังอึ้งนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาทั้งคู่ของฉินโจวจ้องมองดูหลีโม่ แทบไม่กะพริบตา ความเป็นนักรบทำให้เขามีความสามารถในการเพ่งมองดูได้นาน แต่ตอนนี้กลับค่อนข้างสั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว

“พวกเจ้ารู้จักข้าจริงๆหรือ?” ท่านหมอหยุ่นเอ๋อมองดูโหรวเหยา แล้วก็มองดูฉินโจว

“ข้าคือโหรวหยา เจ้าจะไม่รู้จักข้าได้อย่างไร?” โหรวเหยาร้อนใจ น้ำตาไหลร่วงตกลงมาเป็นทาง “เจ้าจะไม่รู้จักข้าได้อย่างไร? เจ้าจำข้าไม่ได้แล้วหรือ? ข้าคือโหรวเหยา เจ้าดูสิ เจ้าดูดีดี”

“เมื่อกี้เจ้าเรียกข้าว่าหลีโม่?” ท่านหมอหยุ่นเอ๋อยังค่อนข้างอึ้ง

“เจ้าคือหลีโม่ เสี้ยหลีโม่” โหรวเหยาพยายามส่ายมือของนาง อยากที่จะเปิดตาของนางให้กว้างขึ้น เพื่อให้นางได้เห็นอย่างชัดเจน

ท่านหมอหยุ่นเอ๋อส่ายหัว แววตาค่อนข้างว่างเปล่า “พวกเจ้าจำคนผิดแล้ว ข้าชื่อหยุ่นเอ๋อ”

“ไม่ได้จำผิด” ฉินโจวพูดขึ้นอย่างจริงจัง เดินเข้าไปหนึ่งก้าว ขยับเข้าใกล้หลีโม่ “เป็นเจ้า ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า เจ้าคือเสี้ยหลีโม่”

ภายในห้อง เกิดมีเสียง “กริ๊งกรั๊ง” ขึ้นมาในทันใด เหมือนมีคนทำถ้วยแตก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม