พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 907

บทที่ 907 เป็นศพอยู่ในท้องหมาป่า

แต่ครั้งนี้เขาได้ยินเพียงเสียงรอยเท้ากระหน่ำ

เป็นฝูงหมาป่า

อยู่ที่เหมียวเจียงสองปี เขาเห็นฝูงหมาป่าออกมาอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงสามารถสร้างรู้เสียงนี้

เขากระโดดขึ้นมา แล้วตะโกนไปหาหลีโม่ “หลีโม่ รีบหนีไป หมาป่ามาแล้ว”

เขารีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ดึงหลีโม่ไว้แล้วกำลังจะไป แล้วก็มองเห็นฉู่จิ้งที่อยู่บ้านพื้น ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด สีหน้านิ่งเงียบไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

หลีโม่เงยหน้าขึ้น มองดูเขาอย่างโศกเศร้า “ไอ้เจ็ด ข้ากลับไปไม่ได้แล้ว เจ้ารีบหนีไป”

“ไม่” ซือถูเย้นเข้าใจขึ้นมาทันที นางจำเรื่องราวทุกอย่างได้หมดแล้ว นางกำลังแก้แค้นเพื่อลูก

เขาประคองใบหน้าของหลีโม่ไว้ พูดอย่างร้อนใจว่า “เจ้าฟังข้านะ ลูกสาวของเรายังไม่ตาย ตอนนี้อยู่ที่แคว้นเป่ยอาน กาวเฟิ่งเทียนกำลังไปรับ เจ้าจะได้เห็นนางในไม่ช้าแล้ว”

หลีโม่หัวเราะจนน้ำตาไหล “เจ้าไม่ต้องโกหกข้า ข้าจำได้หมดแล้ว เป็นเขาที่อุ้มลูกของข้าไป ฝูงหมาป่าก็อยู่ใกล้ๆ ลูกถูกหมาป่ากินไปแล้ว ขอโทษ ไอ้เจ็ด....”

นางกำลังพยายามระงับความเจ็บปวดในใจตัวเอง น้ำเสียงที่พูดเบาแสนเบา พูดออกมาอย่างสั่นเทา

“ไม่ เจ้าฟังข้าพูด เป็นความจริง ข้าเห็นลูกสาวของเราด้วยตาตัวเอง สองขวบกว่านิดๆ ชื่อเทียนอืน มีคนตัดม้าไปเจอก็เลยอุ้มกลับไปเลี้ยง หน้าตาเหมือนเจ้ามาก จริงๆ เจ้าไปกับข้า อีกไม่กี่วันลูกก็จะมาถึงแล้ว”

“ไม่...” หลีโม่ตะโกนออกมาอย่างแทบขาดใจในทันใด “ข้ารู้ นางตายแล้ว นางถูกหมาป่ากินไปแล้ว นางเพิ่งคลอดออกมาเอง ข้ายังไม่ทันได้มองนางดีๆเลย นางตัวคนเดียวจะหวาดกลัวแค่ไหน ข้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนนาง ไอ้เจ็ด เจ้ากลับไป ดูแลหู่เถาให้ดี ข้าจะไปดูแลลูกสาวของเรา”

“ไม่ หลีโม่ หลีโม่ จริงๆ ข้าไม่ได้โกหกเจ้า...” ซือถูเย้นกอดนางไว้ หัวใจร้อนรนจนแทบมอดไหม้ “ข้าเห็นแล้วจริงๆ เป็นลูกสาวของเรา หากเจ้าตายแล้ว เจ้าก็จะไม่ได้เห็นนางแล้ว”

ฉู่จิ้งที่ร้องขอชีวิตอยู่ตลอด ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมาทันที “เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว นางฟังไม่เข้าใจหรอก คำสาปแช่งสัมฤทธิ์ผลแล้ว นางจะต้องฆ่าตัวตายเท่านั้นถึงจะสามารถระงับจิตใจมารร้ายภายในใจได้ นอกเสียจาก นอกเสียจากลูกสาวที่ตายไปแล้วของพวกเจ้าจะสามารถมีชีวิตขึ้นมาใหม่ มีเพียงความยินดีที่ยิ่งใหญ่มาแทนที่ นางถึงจะสามารถหลุดพ้น ไม่อย่างนั้น ต่อให้ตอนนี้นางไม่ตาย กลับไปแล้วก็ต้องตาย”

เขาไม่สนอะไรแล้ว พูดทำให้ซือถูเย้นโกรธจัด บางทีเขาอาจจะฆ่าตัวเองให้ตายทันที ไม่ต้องไปเป็นศพอยู่ในท้องหมาป่า

สีหน้าซือถูเย้นเขียวปัด ยันเท้าถีบออกไป แย่งมีดสิ้นของหลีโม่มา แล้วก็แทงเข้าไปในดวงตาของเขา

ได้ยินเพียงเสียงร้องตะโกนอย่างทุกข์ทรมานออกมาจากปากของฉู่จิ้ง เลือดก็ไหลพุ่งออกมา ฉู่จิ้งขยับเคลื่อนไหวไม่ได้ ทำได้เพียงอ้าปากกว้างแล้วตะโกน สีหน้าบูดเบี้ยวเหมือนดั่งปีศาจ

“เสี่ยวเตา” ซือถูเย้นหันกลับตะโกน

เตาเหล่าต้าตกใจจนอึ้งไป เมื่อซือถูเย้นตะโกน เขาค่อยมีสติขึ้นมา แล้วรีบวิ่งไป

“รีบพาพระชายาไป”

ฝูงหมาป่าจะมาถึงในไม่ช้านี้แล้ว คนวิ่งหนีหมาป่าได้ไม่พ้น เขาจึงต้องอยู่รับมือก่อน จะได้เป็นการยื้อเวลาให้พวกเขาหนีไปได้

เตาเหล่าต้ารีบอุ้มหลีโม่ขึ้นมา หลีโม่ขาดสติไปครึ่งหนึ่งแล้ว โบกมืออยู่อย่างรุนแรง “ปล่อยข้าลงมา ข้าจะต้องถูกหมาป่ากัดตาย ถึงจะสามารถได้เจอนาง”

เตาเหล่าต้าหันตัวไป ฝูงหมาป่าก็มาถึงแล้ว

ซือถูเย้นตกใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าฝูงหมาป่าจะมาจากข้างหลังแล้ว

หมาป่าที่มีแสงสีฟ้ามากกว่าสิบตัว ยืนเรียงถมึงทึง แต่ความสนใจจับจ้องอยู่ที่บนตัวฉู่จิ้งไม่สามารถขยับตัวได้ แต่ฝูงหมาป่ามีนิสัยชำนาญในการโจมตี และหมาป่าตั้งสิบกว่าตัว ล่าเนื้อชิ้นเดียว เพียงพอที่ไหน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม