บทที่ 908 แคว้นเป่าอาน
กลับมาถึงเป่าหยวนถัง หลีโม่ก็เป็นแบบนี้ตลอด ใครพูดอะไรก็ฟังไม่เข้าใจนางดูเหมือนจะเอาทุกคนอยู่ภายนอกชีวิตของนางแล้ว
ซือถูเย้นเป็นห่วงอย่างมาก แต่ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอะไรที่ดี เทียนจีจื่อก็ต้องรออีกสี่ห้าวันถึงจะมาถึง โหรวเหยาจึงต้องให้นางทานยานอนหลับ เพื่อให้นางนอนหลับ
หวังว่าหลายวันนี้ที่หลับๆตื่นๆ สติสมองของนางจะสงบลงได้บ้าง
ฉินโจวก็อาศัยช่วงเวลานี้ จัดการคดีทุจริตในเฟิงโจวให้เรียบร้อย ตั้งแต่วันนั้นที่ฉินโจวส่งทหารมาประจำ เจ้าเมืองเฟิงโจวก็รู้ตัวแล้วว่าจะถูกจับได้ ดังนั้นจึงได้ขนย้ายทรัพย์สินอย่างมากมาย แต่ก็ถูกจับได้จนหมดแล้ว
คดีนี้ที่จริงจัดการไม่ยาก เพราะชาวบ้านที่ไม่พอใจเจ้าเมืองยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีมาก ขอเพียงตั้งใจสืบสวนตรวจสอบ ยังไงก็หาหลักฐานเจอ
ขุนนางที่มาตรวจสอบก่อนหน้านี้ ต่างก็หอบเงินกลับไป แล้วก็ไปรายงานฉินโจวว่า เจ้าเมืองเฟิงโจวคนนี้ดีซื่อสัตย์มาก
ซื่อสัตย์ ซื่อสัตย์มากจริงๆ ฉินโจวโกรธเงินหลายแสนนั้นมาก
เดิมฉินโจวไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่นาน แต่อาการหลีโม่ยังน่าเป็นห่วง นางเองจึงไม่วางใจที่จะกลับไป
กาวเฟิ่งเทียนไปแคว้นเป่ยอาน เดินทางกลับมาเร็วที่สุดก็ต้องประมาณยี่สิบกว่าวัน และยังต้องสืบดูว่าเทียนอืนเป็นลูกสาวของหลีโม่จริงๆหรือเปล่า แต่เป็นเพียงความบังเอิญ...
เฮ้อ ฉินโจวกับซือถูเย้นต่างก็ไม่กล้าคิด
คำพูดก่อนตายของฉู่จิ้ง ทำให้ซือถูเย้นทั้งดีใจทั้งเป็นกังวล ดีใจที่หลีโม่จะได้เห็นลูกสาว แล้วก็จะอาการดีขึ้น
เป็นกังวลก็คือ หากเทียนอืนไม่ใช่ลูกสาวของพวกเขา แบบนั้นควรจะทำอย่างไรดี?
จะแย่งลูกสาวของคนอื่นมาก็คงไม่ได้
ประชาชนเฟิงโจวรู้ว่าท่านหมอหยุ่นเอ๋อป่วย ต่างก็พากันมาเยี่ยม
เห็นประชาชนต่างก็เป็นห่วงกันอย่างจริงใจ โหรงเหยาอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ เป็นหมอคนหนึ่ง สามารถทำได้เหมือนดั่งหลีโม่ เกิดมาชาตินี้ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว
หลังจากห้าวันเทียนจีจื่อก็มาถึงเฟิงโจว
คำสาปแช่งของเซียนเป้ย เขาพอรู้อยู่บ้าง ฟังอาการของหลีโม่แล้ว และก็เห็นกับตาตัวเอง จึงพูดว่า “ตอนนี้ไม่มีหนทางอื่นแล้ว คำสาปแช่งแบบนี้เป็นความเศร้าที่ฝังอยู่ในจิตใจของนาง เป็นวิธีการที่ชั่วร้ายอย่างหนึ่ง แก้ยาก ต่อให้บีบบังคับแก้แล้ว ก็เป็นเพียงชั่วขณะเท่านั้น ตลอดชีวิตคนเราไม่สามารถที่จะสงบสุขโดยปราศจากเรื่องใดๆ หากพบเจอกับเรื่องไม่พอใจเพียงนิดเดียว ก็จะทำให้เกิดอารมณ์ที่เสียสติควบคุมตัวเองแบบนี้ ตอนนี้หวังเพียงว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นที่พวกเจ้าเจอที่แค้วนเป่ยอาน ก็คือเด็กคนที่ฉู่จิ้งปล่อยทิ้งในตอนนั้น เพราะความยินดีจากการที่สูญเสียแล้วได้กลับคืนมา สามารถฟันฝ่าการครอบงำของคำสาปแช่งได้”
ซือถูเย้นกับฉินโจวต่างก็ค่อนข้างผิดหวัง เพราะคิดว่าเทียนจีจื่อมาแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง แต่สุดท้าย ยังต้องอาศัยข่าวทางด้านแคว้นเป่ยอาน
แต่การรอในครั้งนี้ รอแล้วหนึ่งเดือนเต็มๆ ก็ไม่เห็นกาวเฟิ่งเทียนกลับมา
ในหนึ่งเดือนนี้ หลีโม่ล้วนอาศัยยานอนหลับของโหรวเหยา คนทั้งคนดูซูบผอมไปมาก
ข้างกายก็ขาดคนไม่ได้ มีครั้งหนึ่งซือถูเย้นอาศัยตอนที่นางนอนหลับ พาหู่เถาออกไปซื้อถังหูลู่ (พุทราเชื่อมเคลือบน้ำตาล) โหรวเหยาก็ช่วยงานอยู่ในโรงหมอ ให้ฉินโจวเฝ้าดูอยู่ จิ่งเข้ามาหานางกะทันหัน เพียงแค่แป๊บเดียวเอง ตอนที่กลับมา ก็เห็นหลีโม่ปาดข้อมือแล้ว
ถึงแม้จะช่วยชีวิตกลับมาได้แล้ว แต่เทียนจีจื่อพูดว่า “วันนี้นางควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว คำสาปแช่งนี้หากมาถึงขนาดนี้แล้ว นางก็จะไม่มีสติอีกต่อไปแล้ว คิดถึงเพียงแต่ความตาย”
นั่นก็หมายความว่า ข้างกายนางจะขาดคนไม่ได้
สุดท้ายซือถูเย้นตัดสินใจ รออยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่วิธีที่ดี พานางไปแคว้นเป่ยอานไปดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น
ในใจทุกคนต่างก็รู้สึกว่า นานขนาดนี้แล้วก็ไม่เห็นมีข่าวจากกาวเฟิ่งเทียน เกรงว่าคงสืบรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ลูกสาวของหลีโม่ บางที พวกเขาอาจจะกำลังคิดหาวิธีตามหาอยู่ใกล้ๆแคว้นเป่ยอาน
ซือถูเย้นกับฉินโจวคุยกันแล้ว ความหมายของซือถูเย้นก็คือให้ฉินโจวส่งคนไปแคว้นเป่ยอานก่อน คุยตกลงกับคนตัดไม้สองสามีภรรยา ให้บอกว่าเก็บเด็กคนนั้นมา แต่เพราะเลี้ยงดูจนผูกพันแล้ว ดังนั้นจึงไม่ให้พวกเขาพาไป พวกเขาจะไปหาเมื่อไหร่ก็ได้
เพียงแค่ให้หลีโม่สบายใจก่อน แล้วค่อยไปหาเซียนเป้ย ดูซิว่ามีใครสามารถรักษาคำสาปแช่งแบบนี้ไหม
ตอนนี้ก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ฉินโจวจึงตกลงเห็นด้วย
นางให้จิ่งไปก่อน ไปจัดการทุกอย่างที่แคว้นเป่ยอานให้เรียบร้อย
จากนั้นก็ให้โหรวเหยาวางยาหลีโม่ อาศัยตอนช่วงมืดพานางไปจากเฟิงโจว
หลังจากที่ได้เจอหลีโม่อีกครั้ง เขาแทบจะไม่เคยพูดเลยว่าสองปีมานี้เขาต้องมีชีวิตที่ทรมานมากแค่ไหน เพราะเขาคิดว่าไม่ว่ายังไง นั่นก็ล้วนผ่านไปแล้ว เขาหาหลีโม่เจอแล้ว ความทุกข์ทรมานที่ผ่านมาไม่จำเป็นต้องพูดถึง
แต่หากนางยังคิดแต่จะไปอยู่เป็นเพื่อนลูกสาว สุดท้ายเขาก็ยังคงต้องสูญเสียนางไป เขาไม่สามารถที่จะทนรับความเจ็บปวดแบบนั้นได้อีกครั้ง
“ไอ้เจ็ด พวกเราเป็นผู้ใหญ่ ชีวิตให้ความทุกข์ทรมานแบบไหนกับพวกเรา พวกเราก็ล้วนสามารถยอมรับได้ เป็นความทุกข์ก็ดี เป็นความโศกเศร้าก็ดี อดทนเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว แต่ลูกสาวของพวกเราล่ะ? นางยังเล็กขนาดนั้น”
นางถอนหายใจเบาๆ นางรู้ว่าในหัวสมองมีแต่ความคิดที่เป็นลบ แต่นางก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว นางรักและสงสารไอ้เจ็ดมาก สงสารเขาที่ต้องทนทุกข์ทรมานมาตลอดสองปีนี้ สงสารเขาที่ต้องผ่านความเจ็บปวดจากการเปลี่ยนไขกระดูก แต่ไม่ว่านางจะลืมตาหรือหลับตา สิ่งที่เห็นก็มีแต่ใบหน้าของลูกสาวที่เพิ่งคลอดออกมา
ความรู้สึกในใจนาง ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ เหมือนดั่งเอาหัวใจวางย่างไว้อยู่บนไฟ ทั้งเจ็บทั้งร้อน ไม่ได้สงบแม้เพียงวินาทีเดียว
ตอนที่ตื่นอยู่ ก็ทุกความคิดทำให้ทรมาน ตอนที่นอน ฝันร้ายก็คุกคาม
การตายของฉู่จิ้ง ทำให้นางรู้สึกสะใจอยู่เพียงชั่ววูบ แต่หลังจากที่สะใจแล้ว ก็ยิ่งเจ็บปวดมากกว่า
นั่นเหมือนคำสาปอย่างหนึ่ง ล้อมขังนางอยู่ไว้ด้านในอย่างหนาแน่น ไม่สามารถที่จะหลุดพ้น
“เจ้าไม่เชื่อว่าลูกสาวของพวกเรายังไม่ตายหรือ?” ซือถูเย้นถามด้วยน้ำเสียงที่แหบ
แต่คำพูดนี้ แม้แต่ตัวเขาเองที่พูดออกไปก็ไม่มีความมั่นใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเขาไม่กล้ามั่นใจ
หากไม่ใช่ อย่าว่าแต่หลีโม่ แม้แต่เขาเองก็เจ็บปวดทรมานมาก
นั่นก็เป็นลูกสาวของเขาเหมือนกัน
คิดถึงตอนที่เพิ่งมาถึงเฟิงโจวแล้วได้เจอนาง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ตอนนี้ กลับหมดอาลัยตายอยาก รู้แบบนี้แต่แรก เขาไม่ไปทำความรู้จักนางเสียจะดีกว่า
ขอเพียงให้นางสามารถมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข
หลีโม่ไม่ได้ตอบคำถามของเขา เพียงแต่เอาหน้าซบอยู่ในอกของเขาอย่างลึก น้ำตาเปียกเปื้อนเสื้อของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...