ตอนที่ 91 การเคลื่อนไหวในวัง
ฮองไทเฮายิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น พ่อลูกสองคนนี้ทำเหมือนว่านางหูหนวกตาบอด มองไม่เห็นอะไร
ช่วงไม่กี่ปีมานี้เหลียงไถ้ฝู้ได้เอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว ยักยอกที่ของราชวัง เบียดเบียนคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับตัวเอง แล้วกดขี่ข่มเหงคนในราชวัง คบค้าสมาคมกับจนที่เจียงหู สั่งสมกองกำลัง แล้วคิดว่าสามารถปกปิดนางได้อย่างนั้นหรือ?
คนที่อยู่ข้างนอกถ้าไม่ใช่ว่าเป็นเขาเองที่เรียกมา จะมีใครอีกที่กล้ามาบีบนางถึงหน้าตำหนักแบบนี้?
และยิ่งวันนี้ทั้งพ่อทั้งลูกต่างร่วมมือกัน ดูแล้ววันนี้ถ้าไม่สามารถบีบให้นางตัดสินใจอะไรบางอย่าง คงไม่มีวันยอมอย่างแน่นอน
พอนึกดูแล้วฮองไทเฮาก็พลันยกมือขึ้นมาทาบอก แล้วแสดงสีหน้าที่เจ็บปวดทรมานอย่างมาก
ซุนกงกงก็พลันรีบเข้ามาพยุงนางทันที“ไทเฮา ท่านเป็นอะไรพ่ะย่ะค่ะ?ทหาร รีบไปเรียกหมอหลวงมา!“
ฮองเฮามองแวบนึง พลันเดินเข้ามาแล้วพูดขึ้น:“เสด็จแม่ วันนี้ท่านกินเยอะเกินไปใช่มั้ยเพคะ?ท่านต้องการดื่มน้ำสมุนไพรต้มมั้ยเพคะ?“
ฮองไทเฮาขมวดคิ้วพลัน มุมปากก็เริ่มงอขึ้น และยิ่งดูเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
ซุนกงกงพลันพูขึ้น:“เกี่ยวกับการกินเยอะที่ไหนกันพ่ะย่ะค่ะ?ท่านคงจะปวดท้องแน่เลยใช่มั้ย?โธ่ ท่านหมอก๋บอกแล้วว่า ห้ามท่านโศกเศร้าเสียใจมากเกินไป ตอนนี้ท่านอ๋องก็จากไปแล้ว ท่านเองก็ต้องดูแลร่างกายท่านให้ดีนะพ่ะย่ะค่ะ ห้ามอด\อาหารแบบนี้อีกได้มั้ย?“
ซุนกงกงพูดประโยคนี้เพื่อประชดประชันฮองเฮา อ๋องซื่อเจิ้งจากไปแบบนี้ จนฮองไทเฮากินอะไรไม่ลง นางจะกินเยอะได้อย่างไร?
ฮองเฮาก็พลันหน้าถอดสีแวบนึง แล้วพูดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง:“เสด็จแม่ เดี๋ยวหม่อมฉันพาท่านกลับไปพักผ่อน“
ฮองไทเฮาจับมือซุนกงกงเอาไว้ทันที “พยุงข้าเข้าไป นอกจากหมอหลวงแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามเข้าพบ“
ซุนกงกงรับคำสั่ง แล้วก็พลันเข้ามาพยุงนางกลับเข้าไปในห้อง เหลียงไถ้ฝู้กับฮองเฮาจึงหันมามองหน้ากันโดยไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
ใต้เท้าเหลียงไถ้ฝู้จึงลุกขึ้นแล้วหันไปพูดกับฮองเฮา:“ฮองเฮา หม่อมฉันขอหารือด้วยหน่อย“
เขาและฮองเฮาเดินออกมาด้านนอกตำหนัก แล้วไปหลบอยู่ใต้ร่มไม้
“ท่านพ่อเราควรทำยังไงดี?ฮองไทเฮาไม่ยินยอมรับสั่ง เฉียวเอ๋อจะได้ขึ้นครองราชย์ได้อย่างไร?เราจะยึดครองอำนาจได้อย่างไรกัน?ไม่มีรับสั่งจากฮองไทเฮาเราจะยืนยันอย่างไรได้“ฮองเฮาพูดขึ้นมาอย่างเป็นกังวล
เหลียงไถ้ฝู้พูดขึ้น:“นางหลบได้หลบไป วันนี้ไม่ได้ก็เป็นพรุ่งนี้ ยังไงนางก็ต้องรับสั่งออกมาอยู่ดี นอกจากว่านางคิดที่จะปกครองเอง เพียงแต่นางก็รู้ตัวเองดีว่า ถ้าเปรียบกับหรงไทเฮาแล้ว นางไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน ยังไงนางก็ไม่มีทางเลือกอื่นอยู่ดี นางก็ทำได้แค่ยื้อเวลาออกไปสองสามวันเท่านั้น“
ฮองเฮาถามขึ้นอย่างข้องใจ“ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงไม่ยอมสนับสนุนเฉียวเอ๋อให้ขึ้นครองราชย์?หรือว่านางยังมีใครบางคนในใจ?“
เหลียงไถ้ฝู้ส่ายหน้า“พูดยาก นางไม่ค่อยพอใจองค์รัชทายาทมาโดยตลอด อีกอย่างถ้าเดาไม่ผิดละก็ นางยังคงตั้งความหวังกับร่างกายของฮ่องเต้อยู่ นางยังคิดว่าฮ่องเต้จะสามารถฟื้นกลับมาอีกครั้ง และนางก็เชื่อในตัวของอ๋องซื่อเจิ้ง คิดว่าอ๋องซื่อเจิ้งไม่มีความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าซือถูเย้นคนนี้ลูกเล่นเยอะมาก ถนัดในเรื่องเสแสร้งมาก เขาถึงได้รับความไว้วางใจจากนาง ช่วงเวลาที่ผ่านมา ฮองไทเฮาก็เหมือนพยายามโต้ตอบขุนนาง ที่จริงก็เพื่อที่จะรักษาตำแหน่งสำเร็จราชการแทนนี้เอาไว้ เพื่อรอให้ฮ่องเต้ฟื้นขึ้นมาก่อน “
“แต่ซือถูเย้นได้ตายไปแล้วนิ“ฮองเฮาพูดขึ้นอย่างเบาๆ”ท่านพ่อ ท่านมั่นใจว่าซือถูเย้นได้ตายไปแล้วจริงๆใช่มั้ย?“
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...