พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 92

ตอนที่ 92 คำสั่งของหานชาน

ฮองไทเฮาตาลุกวาว“องค์ชายสามหรือ?“

ซุนกงกงพูดขึ้น:“ถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ ลูกของหมุยเฟยเหนียงเหนียง พวกเขามีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกันมานานแล้ว“

ฮองไทเฮาคิดไปคิดมาพลันพูดขึ้นอย่างร้อนใจ:“รีบไปเอากระดาษกับหมึกมา“

“ไทเฮาต้องการ...“

“เตรียมจดหมาย ข้าต้องการส่งสารไปที่เขาหาน “ฮองไทเฮาร้อนใจอย่างมาก จนแทบจะไม่มีสติ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่นางที่จะสามารถตัดสินใจคนเดียวได้ ตอนที่คนนฃๆนั้นจะไป เขาได้ทิ้งนกพิราบส่งสารเอาไว้ให้ บอกว่าถ้าหลังจากนี้ในวังเกิดเรื่องใหญ่อะไรก็ให้ส่งนกพิราบไปบอกเขา

ซุนกงกงน้อมรับสั่ง:“พ่ะย่ะค่ะ“

ส่งนกพิราบออกไปไม่นาน เรื่องที่ซุนกงกงพูดขึ้นก็เกิดขึ้นทันที

“กุ้ยไท้เฟยขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะ“

ฮองไทเฮาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลันนึกถึงเรื่องวันนั้นที่เกิดความขัดแย้งกัน วันนี้นางมาพบก็ไม่สามารถที่จะหลบได้ ยังไงนางก็เป็นน้องสาวแท้ๆ เป็นพี่ก็ต้องใจเย็นเอาไว้ก่อน

ซุนกงกงกระซิบเบาๆ“ถ้าข้าน้อยเดาไม่ผิดละก็ คงจะมาขอให้ท่านรับสั่งเรียกตัวอ๋องหนานหวยกลับเมืองหลวงอย่างแน่นอน“

ฮองไทเฮาส่ายหน้า“ไม่ได้ องค์ชายแปดกลับเมืองหลวงตอนนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต้องเกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน“ ผ่านไปครู่นึง ฮองไทเฮาก็พูดขึ้นมาอีกรอบ:”ข้าเกรงว่าเจ้าจะคิดเยอะเกินไปแล้วล่ะ ในใจของนางเองก็รู้ดีที่บ้านเมืองสงบสุขได้ตอนนี้ก็เพราะองค์ชายเจ็ดที่ลำบากในการทำงานบ้านเมืองถึงเป็นแบบนี้ นางเองก็รู้นิสัยขององค์ชายเจ็ดดี ยังไงก็ไม่มีทางให้องค์ชายแปดกลับมาทำลายความตั้งใจของอาเย้นอย่างแน่นอน“

ซุนกงกงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่นางในกลับนำกุ้ยไทเฟยเข้ามาพอดี

วันนี้กุ้ยไท่เฟยสวมชุดสีดำลายนกกระยางที่เป็นชุดไว้อาลัย หน้าตาหม่นหมอง ดวงตาปวมเป่ง ไม่ได้แต่งหน้าทาตา ดูโทรมลงไปอย่างมาก

พอนางเข้ามาด้านในตำหนัก ยังไม่ทันจะพูดอะไร นางก็ร้องไห้ทันที

ฮองไทเฮาเห็นน้องสาวเป็นอย่างนั้นก็เจ็บปวดอย่างมาก แล้วพลันเข้าไปจับมือนางเอาไว้ แล้วตัวเองก็พลันอดที่จะร้องไห้ตามไม่ได้ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงสั่น:“พอแล้ว ไม่ต้องร้องไห้แล้ว มีข้าอยู่ที่นี่“

กุ้ยไท้เฟยเงยหน้าขึ้นมา“ท่านพี่ไม่โกรธข้าในเรื่องวันนั้นใช่มั้ยเพคะ?“

“งี่เง่า ข้าจะไปคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเจ้า?เราเป็นพี่น้องแท้ๆ ยังไงซะข้าก็ไม่ว่าเจ้าหรอก“ฮองไทเฮาเห็นนางดูเหมือนจะสำนึกผิดแล้ว ก็พลันพูดขึ้นมาอย่างปลอบใจ

กุ้ยไท้เฟยคุกเข่าลง แล้วพูดลากเสียง“ชะตาชีวิตของน้องช่างน่าเวทนายิ่งนัก ให้กำเนิดลูกชายสองคน คนนึงเก่งกล้าสามารถแต่ต้องมาจากไปเร็วแบบนี้ อีกคนนึงกลับต้องห่างจากข้าเป็นพันพันกิโล หลังจากนี้ข้าก็ไม่เหลือใครแล้ว ช่างหดหู่ยิ่งนัก“

ฮองไทเฮาเห็นนางร้องไห้อย่างทรมาน นางก็ทนไม่ได้พลันร้องออกมา

กุ้ยไท้เฟยพลันเอาหัวโขกพื้นเพื่อทำความเคารพ แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก“ข้าขอร้องท่านพี่เรื่องหนึ่ง ขอให้องค์ชายแปดกลับมาเพื่อร่วมงานศพพี่ชายด้วยเพคะ เมื่อปีก่อนเขาเองเคยส่งจดหมายมาว่าคิดถึงข้าอย่างมาก ที่นั่นแสนไกลไม่มีคนสนิทชิดใกล้ ในใจก็รู้สึกอยู่ไม่ได้ อยากจะกลับมาเจอข้า และอยากมาคารวะท่านด้วย ท่านพี่ทรงอนุญาตเรื่องนี้เถอะนะเพคะ เห็นแก่ความกตัญญูของเขาหน่อยนะเพคะ!“

ฮองไทเฮาชะงักไปทันที น้ำตาก็พลันหยุดไหลทันที แล้วมองนางอย่างแปลกประหลาดทันที

เมื่อกี้ที่ซุนกงกงพูดนั้น นางเองยังไม่อยากเชื่อ พอได้ยินนางพูดขึ้นมาก็แทบจะไม่เชื่อ

“ตอนนี้วังหลวงกำลังโกลาหล ยังไม่เหมาะที่จะเรียกเขากลับมา รออีกหน่อยเถอะนะ“ฮองไทเฮายื่นแขนออกไปจับนาง แต่นางกลับไม่ยอมลุกขึ้นมา แล้วก็เอาหัวโขกพื้นอยู่อย่างนั้น

อยู่ดีๆกุ้ยไท่เฟยก็เงยหน้าขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้นพลันพูดขึ้น“พี่ชายเขาก็จากไปแล้ว กลับมาเพื่อไว้อาลัยต่อพี่ชายนั้นเป็นเรื่องที่สมควรทำ เขาเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องผลักไสเขาไปไกลถึงขนาดนั้นแล้วไม่ยอมให้เขากลับมา?เขาเองก็เรียกท่านว่า เสด็จแม่เหมือนกัน“

ฮองไทเฮาส่ายหน้าพลันพูดขึ้น“รอจนถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าจะสั่งให้เขากลับมาเอง“

พอกุ้ยไท้เฟยได้ยินประโยคนี้ นางก็ค่อยๆลุกขึ้นมา แล้วยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วก็จ้องมองฮองไทเฮาเขม่ง“ท่านจะไม่ยินยอมจริงๆใช่มั้ย?“

ฮองไทเฮามองนางอย่างผิดหวัง“เจ้าก็น่าจะรู้ ว่าถ้าให้เขากลับมาแล้วจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาเป็นลูกชายที่เจ้าให้กำเนิดมา แต่ข้าเองก็เห็นเขามาตั้งแต่เด็กจนโต เขาเป็นคนยังไงนั้น ข้ากับเจ้าก็รู้กันดี“

“เป็นเพราะว่าท่านเห็นแก่ตัว กลัวว่าถ้าเขากลับมาแล้วจะมาแย่งตำแหน่งจากลูกชายของท่านใช่หรือไม่?“กุ้ยไท้เฟยหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น แล้วก็เริ่มบ้าคลั่งขึ้นเรื่อย เสียงหัวเราะราวกับคนที่ขาดสติ และความโมโห เคียดแค้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม