พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 100

“พระชายารักของข้ากำลังตั้งครรภ์ ไม่สะดวกยืนนาน ต้องขอตัวก่อน”

เซียวปี้เฉิงกล่าวเสียงเรียบแล้วจับไหล่อวิ๋นหลิงเดินผ่านแขกเหรื่อที่เข้ามาทักทาย

ทุกคนตะลึงกับคำว่าพระชายารัก ใบ้กินไปชั่วขณะ ต่างพากันสบตาแล้วใช้สายตาสงสัยระคนตกใจส่งให้กันและกัน

ไม่ใช่บอกว่าจิ้งอ๋องจงเกลียดจงชังอวิ๋นหลิงถึงขั้นสุดหรือ?

วันนี้เป็นงานมงคลสมรสของรุ่ยอ๋อง ทางจวนได้จ้างคณะงิ้วมาแสดงด้วย เขาเลือกตำแหน่งอันเหมาะสมให้อวิ๋นหลิง เป็นตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจน

เซียวปี้เฉิงหยิบผ้ามาเช็ดเก้าอี้ที่อวิ๋นหลิงจะนั่ง เขารู้สึกว่ายังไม่สะอาด จึงใช้เสื้อของตัวเองปูบนเก้าอี้แล้วให้อวิ๋นหลิงนั่ง

ทุกคนเห็นการกระทำของเขาแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป เสียงวิพากษ์วิจารณ์เมื่อครู่ก็เริ่มเบาลง

เซียวปี้เฉิงพูดไม่เก่ง แต่เขารู้ว่าหากต้องการแก้คำนินทานี้ การอธิบายหรือเดินเข้าไปห้ามไม่ใช่ทางออกที่ดี วิธีที่ได้ผลคือใช้การกระทำปิดปากคนกลุ่มนั้น

“ถึงอากาศวันนี้จะร้อน แต่ก็ดื่มน้ำชาเย็นๆไม่ได้ ถ้าเจ้ารู้สึกร้อน ข้าจะพัดให้เจ้า”

เซียวปี้เฉิงรินน้ำชาอุ่นๆแล้วกางพัดออก จากนั้นก็พัดให้อวิ๋นหลิงที่มีเหงื่อซึมออกตรงหน้าผาก

ตอนอยู่ที่จวนจิ้งอ๋อง อวิ๋นหลิงให้เขาดูแลตัวเองเช่นนี้จนชินแล้ว ดังนั้นสีหน้าของพวกเขาจึงเป็นธรรมชาติ พากันพูดคุยด้วยรอยยิ้มเป็นระยะ

แม้นจะเป็นเยี่ยงนี้ นางก็ยังคงสัมผัสถึงความตั้งใจของเซียวปี้เฉิง แววตาเผยความอบอุ่นขึ้นมา

เสียงซุบซิบเกรียวกราวหยุดได้สักพักก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง

“ข้าไม่ได้ดูผิดใช่ไหมไยท่านจิ้งอ๋องจึงดีกับนางอัปลักษณ์เยี่ยงนี้?”

“รินน้ำชาให้แล้วก็พัดคลายร้อนให้ด้วย ข้าแต่งงานยี่สิบปี สามีข้ายังไม่เคยทำแบบนี้กับข้าเลย...”

“โอ้สวรรค์ จิ้งอ๋องใช้เสื้อของตัวเองปูเก้าอี้ของนาง ใครบอกว่าจิ้งอ๋องเกลียดนางขี้เหร่เข้ากระดูกดำกัน?”

ผู้คนพากันสงสัย เมื่อเห็นท่าทางของเซียวปี้เฉิงแล้ว บ้างก็ตกตะลึง บ้างก็อิจฉา ไม่มีใครอยากเชื่อเลยว่าจิ้งอ๋องจะรักสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้จริง

“ท่านจิ้งอ๋องอาจจะไม่ชอบสตรีอัปลักษณ์ก็ได้ แต่เพราะนางตั้งท้อง จึง...”

เมื่อลั่นประโยคนี้ออกมา คนส่วนใหญ่ก็พยักหน้าเห็นด้วย

หน้าตาขี้เหร่ขนน่ากลัวขนาดนั้น ทั้งยังไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าต่อธารกำนัลด้วย จะมีบุรุษชอบได้อย่างไร? ไม่ใช่เพราะลูกในท้องหรอกหรือ?

คำนินทาพวกนี้ไม่มีผลใดๆต่ออวิ๋นหลิง ทั้งยังฟังอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้หงุดหงิดสักนิด

“ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะเป็นที่จับตามองเพียงนี้”

ในพิธีแต่งงานของรุ่ยอ๋อง เมื่อมีคนพูดว่าเขาแต่งภรรยาเข้าจวนสองคนภายในวันเดียว ก็เริ่มมีคนพูดถึงตำแหน่งพระชายารองของเซียวปี้เฉิง ที่บัดนี้ยังคงเว้นว่าง

อวิ๋นหลิงได้ยินเวลาสาวๆพูดถึงเซียวปี้เฉิง ล้วนเป็นน้ำเสียงชื่นชมและอยากได้มาครอบครอง นางมองบุรุษข้างกายปราดหนึ่งแล้วต้องยอมรับว่าเขามีคุณสมบัติเช่นนี้จริงๆ

เซียวปี้เฉิงเริ่มเครียดขึ้นมา พูดเสียงเบาด้วยความรวดเร็วว่า “ข้าไม่เอาพระชายารองหรอก”

อวิ๋นหลิงมองเขาด้วยความแปลกใจ หลายเดือนก่อนเขายังพูดเต็มปากเต็มคำว่าบุรุษแต่งเมียหลายคนเป็นเรื่องปกติ

นางเตรียมจะพูด แต่กลับได้ยินเสียงอึกทึกดังมาแต่ไกล เป็นเสียงสตรีวัยกลางคนกำลังพูดด้วยความตกใจกลัว

“จั้นเอ๋อร์ จั้นเอ๋อร์เป็นอะไรลูก อย่าทำให้แม่ตกใจสิ”

“แย่แล้ว แย่แล้ว รัฐทายาทเจิ้นกั๋วกงเป็นลม รีบไปเชิญท่านหมอมา”

พวกเขาสองคนมองผ่านแขกเหรื่อไปตามต้นเสียง จึงพอจะเห็นว่าข้ารับใช้กำลังประคองหรงจั้นที่หมดสติบนพื้น เขาหลับตาแล้วขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเผยความเจ็บปวดออกมา

ใบหน้าเซียวปี้เฉิงเคร่งขรึมเล็กน้อย “ไม่ดีแล้ว โรคหัวใจเขากำเริบ”

หากเขาเป็นอะไรในพิธีสมรสเช่นนี้ จะกระทบกระเทือนต่อบรรยากาศภายในงานยิ่ง

อวิ๋นหลิงรับรู้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ รีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้ากลุ่มคน

“ข้าเอง”

ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงอยากเอายาป้อนให้บุตรชายกิน แต่ก็ไม่สำเร็จ นางกำลังอนาทรร้อนใจจนขวัญกระเจิงก็ได้ยินเสียงนิ่งๆของสตรีดังมาจากด้านหลัง

ไม่รอให้นางตอบสนองทัน อวิ๋นหลิงก็ยื่นมือไปกดจุดบนหน้าอกจั้นหรงหลายจุดแล้ว วันนี้นางไม่ได้นำเข็มเงินมาด้วย แต่ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงพกยามาด้วย เช่นนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงเห็นอวิ๋นหลิงเอาผ้าคลุมหน้าไว้ จึงรู้ว่านางเป็นใครทันที แล้วถึงกับผงะไปเลย

“เขารู้สึกตัวแล้ว รีบป้อนยาให้เขากินเร็ว”

ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงได้สติ เห็นหรงจั้นเริ่มรู้สึกตัวก็รีบเอายาให้บุตรชายกินด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ

หรงจั้นเริ่มคลายคิ้วที่ย่นเข้าหากันแล้ว ใบหน้าซีดเซียวเริ่มมีสีเลือดบางแล้ว อ้าปากกล่าวเสียงเบาว่า “ขอบคุณพระชายาจิ้งอ๋องที่ช่วยข้าน้อยถึงสองครั้ง ข้าน้อยรู้สึกขอบคุณยิ่ง”

เมื่อได้ยินบุตรชายพูดเช่นนี้ ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงก็ทำหน้าสงสัย “จั้นเอ๋อร์ เจ้าบอกว่าสองครั้งหรือ?”

หรงจั้นหายใจหอบถี่ ดูเหมือนอาการจะดีขึ้นไม่น้อย กดเสียงพูดว่า “ท่านแม่ อาการข้ากำเริบตอนระหว่างเดินทางตามท้องถนน แล้วข้าไม่ได้พกยาไปด้วย แต่โชคดีที่พระยายายื่นมือเข้าช่วย หาไม่แล้วคงมีเคราะห์มากกว่าโชคแน่”

ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงทำหน้าตกตะลึง ไม่ได้สงสัยในความสามารถด้านการแพทย์ของอวิ๋นหลิงอีกต่อไป รีบกล่าวคำขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจ

อวิ๋นหลิงพยักหน้า พูดด้วยความห่วงใย “ฮูหยินไม่ต้องเกรงใจ ให้คนพารัฐทายาทหรงไปพักผ่อนก่อนเถอะ เขาเป็นโรคแบบนี้ไม่ควรอยู่ในสถานที่เสียงดัง”

ฮูหยินเจิ้นกั๋วกงพยักหน้า รีบให้คนรอบข้างแยกย้ายไป จากนั้นก็สั่งให้ข้ารับใช้ประคองหรงจั้นขึ้น นางมองอวิ๋นหลิงด้วยสีหน้าอ้อนวอน “ไม่ทราบว่าขอคุยกับพระชายาจิ้งอ๋องเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่?”

อวิ๋นหลิงมองไปยังเซียวปี้เฉิงแล้วเห็นเขาพยักหน้าให้ นางจึงตอบว่า “ฮูหยินเชิญ”

เหตุการณ์ที่ทำใจหายใจคว่ำผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นอวิ๋นหลิงก็ออกจากงาน แววตาผู้คนอัดแน่นไปด้วยความตกตะลึง

รัฐทายาทหรงไม่ได้ป่วยเป็นโรคหัวใจแค่วันสองวัน แขกที่อยู่ในเหตุการณ์รู้ดี เวลาอาการกำเริบขึ้นมาจะหมดสติไปหลายชั่วยามเลย

ทว่าเมื่อครู่ตอนที่หรงจั้นหมดสติแล้วอวิ๋นหลิงเข้าไปช่วย ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจหรงจั้นก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว

เหนือสิ่งอื่นใดคืออวิ๋นหลิงเข้าช่วยเหลือด้วยมือเปล่า ไม่มีเข็มเงินกับยาเลย

หรือพระชายาจิ้งอ๋องจะเป็นหมอเทวดาจริง?

ไม่รู้ว่าเจ้าของเสียงกระซิบเป็นผู้ใด “พระชายาจิ้งไม่ธรรมดาจริงๆนะ ข้าได้ยินว่านางรักษาอาการสติเลอะเลือนของพระเจ้าหลวงได้แล้วด้วย”

คนจำนวนไม่น้อยมองไปยังดวงตาที่หายดีของเซียวปี้เฉิง จากนั้นก็ไม่ค่อยสงสัยในทักษะการแพทย์ของอวิ๋นหลิงแล้ว

อวิ๋นหลิงกับฮูหยินเจิ้นกั๋วกงไปยังศาลาริมแม่น้ำ ถึงแม้เซียวปี้เฉิงไม่ได้ไปด้วย แต่ก็มองพวกนางตลอดเวลา

เมื่อเขาเห็นหรงจั้นอยู่ในกรอบ ไม่ได้ทำอะไรเกินเลย เขาถึงรู้สึกวางใจ

เพียงแต่เมื่ออวิ๋นหลิงไม่อยู่แล้วก็จะมีคนมาชวนคุยจำนวนมาก ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเป็นดรุณีน้อยมากหน้าหลายตา

เซียวปี้เฉิงรับมือไม่ไหว ได้แต่อ้างว่าขอตัวเข้าสุขาก่อน จากนั้นก็ไปเดินเล่นในสวนดอกไม้ของจวนรุ่ยอ๋อง และเมื่อคำนวนเวลาดูแล้วว่ารุ่ยอ๋องน่าจะออกมาในงานแล้วจึงเตรียมตัวไป

ระหว่างที่เดินผ่านระเบียงทางเดินอันยาวเหยียด เขาก็ได้ยินสตรีร้องเสียงหลง

“ระวังเจ้าค่ะคุณหนู”

เซียวปี้เฉิงเงยหน้ามองก็เห็นดรุณีน้อยในชุดสีม่วงกำลังปืนต้นไม้อยู่

มือข้างหนึ่งอของนางจับต้นไม้ ส่วนอีกข้างก็กำนกน้อยไว้ ดูท่าแล้วตอนนี้ใกล้จะตกลงมาแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ