โอ๊ย แม้กระทั่งแม่นางหลีก็ยังมีจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าเสด็จพ่อ
แต่เมื่อคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เซียวปี้เฉิงก็เริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย
“พูดไปแล้ว ถ้าเสด็จพ่อรู้ว่าเจ้าจงใจแกล้งเขา มันจะจบแบบเลวร้ายหรือไม่”
“ข้าจะยืนยันคำเดียวว่าไม่รู้เรื่องที่แม่นางหลีอยู่ที่นั่นเลยก็พอ” อวิ๋นหลิงยิ้มอย่างไร้หัวจิตหัวใจ “อีกอย่าง คนที่จุดจบไม่ดีคือเขา ไม่ใช่ข้า”
เซียวปี้เฉิงจุดเทียนให้กับจักรพรรดิจาวเหรินอย่างเงียบๆ ในใจ จากนั้นก็อดพูดไม่ได้ว่า “เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่า...เสด็จพ่อดูเหมือนจะมีเยื่อใยที่ตัดหลี่กุ้ยเฟยไม่ขาดอยู่บ้าง”
เขาเพิ่งเล่าถึงการอนุมานในใจเมื่อครู่ให้อวิ๋นหลิงฟังไป
“ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาหาเรื่องใส่ตัวไปยั่วยุหลี่กุ้ยเฟยนั้น ข้าก็สังเกตมานานแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะมีเยื่อใยตัดไม่ขาดหรือนิสัยที่ไม่ดี...ก็พูดยากเพราะอาจเป็นทั้งสองอย่างก็ได้”
อันที่จริงอวิ๋นหลิงมีแนวโน้มจะพูดว่าจักรพรรดิจาวเหรินไม่ได้รักหลี่กุ้ยเฟยอย่างแท้จริง แต่เป็นเพราะมีรากฐานทางอารมณ์ที่แน่นอน
อาจเป็นครอบครัว อาจเป็นความรัก ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ทนมาหลายปีถึงเพียงนี้
ถึงอย่างไรเมื่อผู้ชายเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่หัวใจและดวงตาเต็มไปด้วยตัวเขานั้น ไม่มากก็น้อยจะใจอ่อนและหวั่นไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลี่กุ้ยเฟยที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาในตอนนั้นด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น นางเคยเห็นหลี่กุ้ยเฟยอารมณ์ฉุนเฉียวใส่จักรพรรดิจาวเหรินมาก่อน ตอนที่เขาอารมณ์ดี ก็จะเป็นฝ่ายเริ่มหยอกล้อหลี่กุ้ยเฟย เต็มใจจะทำให้นางสนุกสนานไม่มากก็น้อย
หากถูกบังคับให้เล่นละครอย่างจนใจ เขาก็จะไม่ทำเช่นนี้ หากทำแบบขอไปทีก็คงจะสายเกินไป
เพียงแต่ความรู้สึกนี้ถูกปกปิดไว้ด้วยความรู้สึกละอายใจ ความวิตกกังวล และความไม่พอใจวันแล้ววันเล่า บางทีแม้แต่จักรพรรดิจาวเหรินเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น ซ้ำยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับหลี่กุ้ยเฟยจริงๆ
เซียวปี้เฉิงฟังแล้วสีหน้าค่อนข้างซับซ้อน “เสด็จพ่อนี่จริงๆ เลย...ไข่เหล็กบอกว่าเขาเป็นคนขี้เหงา ก็ไม่น่าแปลกใจเลย”
ไม่ใช่แค่ขี้เหงา นี่คือช่วงเวลาที่สนมในวังหลังล้วนต้องวิ่งหนีกันทุกคน
โชคดีที่พระเจ้าหลวงไม่ได้ทำอะไรสุดโต่งเกินไป อนุญาตให้สนมในวังหลังไปโรงเรียนอนุบาลได้ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสามโมงเย็นทุกห้าวันต่อสัปดาห์ พอพลบค่ำก็ค่อยกลับวัง
ไม่เช่นนั้น เสด็จพ่อคงจะอยู่ในสภาพอนาถจนกลางคืนไม่สามารถหาใครมานอนด้วยได้
……
สองวันต่อมา หิมะหยุดตก ท้องฟ้าแจ่มใส
ช่วงสิ้นสุดปีใหม่ จักรพรรดิจาวเหรินก็แต่งกายเคร่งขรึม เตรียมจะออกจากวังโดยไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อไปเยี่ยมชมเป็นการส่วนตัว
เขาเหลือเวลาอีกไม่มาก ต้องเชิญหลี่กุ้ยเฟยกลับวังภายในสามวัน ไม่เช่นนั้นพระเจ้าหลวงจะกดดันจนเขาทนไม่ไหว
เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เขายังทำตามคำแนะนำของอวิ๋นหลิง ฝ่าลมหนาวไปยังเนินเขาด้านหลังอุทยานหลวงเพื่อเก็บดอกชาภูเขาหนึ่งช่อ
เมื่อมองดอกชาภูเขาสีแดงกุหลาบที่ย้อมไปด้วยน้ำค้างแข็งและหิมะในมือ จักรพรรดิจาวเหรินก็นั่งเหม่อลอยอยู่ในรถม้าอย่างเงียบๆ ในใจรู้สึกค่อนข้างอึดอัด
ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าหลังจากทะเลาะกับหลี่กุ้ยเฟยครั้งก่อน นางก็ถอนดอกซ่อนกลิ่นที่ปลูกให้เขามาหลายปีในตำหนักเว่ยยางออกไปในชั่วข้ามคืน
ไม่รู้ว่าเหตุใดดูเหมือนเวลาจะย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว
ความจริงตอนที่หลี่กุ้ยเฟยยังไม่ได้เข้าวัง เขาคิดว่าแม่นางผู้นี้มีนิสัยแปลกๆ ที่น่าสนใจ ต่างไปจากเสี่ยวเฟิงโดยสิ้นเชิง
แม้ว่านางจะหาเรื่องใส่ตัวชอบรังแกเสี่ยวเฟิงอยู่เสมอ แต่ด้วยรูปโฉมที่ดูอ้อนแอ้นเอาแต่ใจของนาง ทำให้ผู้คนไม่รู้สึกรังเกียจ แต่กลับพบว่าตลกดี
ลูกสาวตระกูลหลี่ชอบความโดดเด่น หลี่กุ้ยเฟยก็เช่นกัน ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......