เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1000

โอ๊ย แม้กระทั่งแม่นางหลีก็ยังมีจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าเสด็จพ่อ

แต่เมื่อคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เซียวปี้เฉิงก็เริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย

“พูดไปแล้ว ถ้าเสด็จพ่อรู้ว่าเจ้าจงใจแกล้งเขา มันจะจบแบบเลวร้ายหรือไม่”

“ข้าจะยืนยันคำเดียวว่าไม่รู้เรื่องที่แม่นางหลีอยู่ที่นั่นเลยก็พอ” อวิ๋นหลิงยิ้มอย่างไร้หัวจิตหัวใจ “อีกอย่าง คนที่จุดจบไม่ดีคือเขา ไม่ใช่ข้า”

เซียวปี้เฉิงจุดเทียนให้กับจักรพรรดิจาวเหรินอย่างเงียบๆ ในใจ จากนั้นก็อดพูดไม่ได้ว่า “เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่า...เสด็จพ่อดูเหมือนจะมีเยื่อใยที่ตัดหลี่กุ้ยเฟยไม่ขาดอยู่บ้าง”

เขาเพิ่งเล่าถึงการอนุมานในใจเมื่อครู่ให้อวิ๋นหลิงฟังไป

“ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาหาเรื่องใส่ตัวไปยั่วยุหลี่กุ้ยเฟยนั้น ข้าก็สังเกตมานานแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะมีเยื่อใยตัดไม่ขาดหรือนิสัยที่ไม่ดี...ก็พูดยากเพราะอาจเป็นทั้งสองอย่างก็ได้”

อันที่จริงอวิ๋นหลิงมีแนวโน้มจะพูดว่าจักรพรรดิจาวเหรินไม่ได้รักหลี่กุ้ยเฟยอย่างแท้จริง แต่เป็นเพราะมีรากฐานทางอารมณ์ที่แน่นอน

อาจเป็นครอบครัว อาจเป็นความรัก ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ทนมาหลายปีถึงเพียงนี้

ถึงอย่างไรเมื่อผู้ชายเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่หัวใจและดวงตาเต็มไปด้วยตัวเขานั้น ไม่มากก็น้อยจะใจอ่อนและหวั่นไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลี่กุ้ยเฟยที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาในตอนนั้นด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น นางเคยเห็นหลี่กุ้ยเฟยอารมณ์ฉุนเฉียวใส่จักรพรรดิจาวเหรินมาก่อน ตอนที่เขาอารมณ์ดี ก็จะเป็นฝ่ายเริ่มหยอกล้อหลี่กุ้ยเฟย เต็มใจจะทำให้นางสนุกสนานไม่มากก็น้อย

หากถูกบังคับให้เล่นละครอย่างจนใจ เขาก็จะไม่ทำเช่นนี้ หากทำแบบขอไปทีก็คงจะสายเกินไป

เพียงแต่ความรู้สึกนี้ถูกปกปิดไว้ด้วยความรู้สึกละอายใจ ความวิตกกังวล และความไม่พอใจวันแล้ววันเล่า บางทีแม้แต่จักรพรรดิจาวเหรินเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น ซ้ำยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับหลี่กุ้ยเฟยจริงๆ

เซียวปี้เฉิงฟังแล้วสีหน้าค่อนข้างซับซ้อน “เสด็จพ่อนี่จริงๆ เลย...ไข่เหล็กบอกว่าเขาเป็นคนขี้เหงา ก็ไม่น่าแปลกใจเลย”

ไม่ใช่แค่ขี้เหงา นี่คือช่วงเวลาที่สนมในวังหลังล้วนต้องวิ่งหนีกันทุกคน

โชคดีที่พระเจ้าหลวงไม่ได้ทำอะไรสุดโต่งเกินไป อนุญาตให้สนมในวังหลังไปโรงเรียนอนุบาลได้ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงสามโมงเย็นทุกห้าวันต่อสัปดาห์ พอพลบค่ำก็ค่อยกลับวัง

ไม่เช่นนั้น เสด็จพ่อคงจะอยู่ในสภาพอนาถจนกลางคืนไม่สามารถหาใครมานอนด้วยได้

……

สองวันต่อมา หิมะหยุดตก ท้องฟ้าแจ่มใส

ช่วงสิ้นสุดปีใหม่ จักรพรรดิจาวเหรินก็แต่งกายเคร่งขรึม เตรียมจะออกจากวังโดยไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อไปเยี่ยมชมเป็นการส่วนตัว

เขาเหลือเวลาอีกไม่มาก ต้องเชิญหลี่กุ้ยเฟยกลับวังภายในสามวัน ไม่เช่นนั้นพระเจ้าหลวงจะกดดันจนเขาทนไม่ไหว

เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เขายังทำตามคำแนะนำของอวิ๋นหลิง ฝ่าลมหนาวไปยังเนินเขาด้านหลังอุทยานหลวงเพื่อเก็บดอกชาภูเขาหนึ่งช่อ

เมื่อมองดอกชาภูเขาสีแดงกุหลาบที่ย้อมไปด้วยน้ำค้างแข็งและหิมะในมือ จักรพรรดิจาวเหรินก็นั่งเหม่อลอยอยู่ในรถม้าอย่างเงียบๆ ในใจรู้สึกค่อนข้างอึดอัด

ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าหลังจากทะเลาะกับหลี่กุ้ยเฟยครั้งก่อน นางก็ถอนดอกซ่อนกลิ่นที่ปลูกให้เขามาหลายปีในตำหนักเว่ยยางออกไปในชั่วข้ามคืน

ไม่รู้ว่าเหตุใดดูเหมือนเวลาจะย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว

ความจริงตอนที่หลี่กุ้ยเฟยยังไม่ได้เข้าวัง เขาคิดว่าแม่นางผู้นี้มีนิสัยแปลกๆ ที่น่าสนใจ ต่างไปจากเสี่ยวเฟิงโดยสิ้นเชิง

แม้ว่านางจะหาเรื่องใส่ตัวชอบรังแกเสี่ยวเฟิงอยู่เสมอ แต่ด้วยรูปโฉมที่ดูอ้อนแอ้นเอาแต่ใจของนาง ทำให้ผู้คนไม่รู้สึกรังเกียจ แต่กลับพบว่าตลกดี

ลูกสาวตระกูลหลี่ชอบความโดดเด่น หลี่กุ้ยเฟยก็เช่นกัน ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม

เมื่อถึงตอนที่เขาแสดงส่วนสำคัญ ก็ค่อยให้แม่นางหลีปรากฏตัว เช่นนี้ละครฉากเด็ดก็จะน่าตื่นเต้น...

ขณะที่ไปถึงร้านของหวาน แม่นางหลีไม่ได้อยู่ที่นั่น มีเพียงหลี่กุ้ยเฟยที่อยู่ดูการตกแต่งร้านตามลำพัง

“เด็กสาวอย่างเจ้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร”

หลี่กุ้ยเฟยเห็นนางก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย

อวิ๋นหลิงหยิบกระดาษสองสามแผ่นออกจากอกเสื้อแล้วโบกมือพูดยิ้มๆ “ข้าได้ยินว่าท่านกับแม่นางหลีจะเปิดร้านของหวานด้วยกัน บังเอิญมีสูตรของหวานแปลกใหม่อยู่สองสามอย่าง ก็เลยอยากส่งมาให้พวกท่านดู ไม่ทราบว่านางอยู่ที่ไหน”

ก่อนจะมา นางได้ถามข่าวคราวกับเยียนอ๋อง อีกฝ่ายบอกว่าช่วงนี้แม่นางหลียุ่งอยู่กับการทำงานที่บ้านพัก

หลี่กุ้ยเฟยไม่ปฏิเสธความหวังดีของนาง พยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอบใจเจ้ามาก หว่านเจิงกำลังคุยงานกับหัวหน้าคนงานที่บ้านพักทางใต้ เรื่องทำของหวานนางเก่งที่สุดอยู่แล้ว เจ้าไปหานางได้โดยตรงเลย”

นางไม่เข้าใจงานฝีมือในการทำของหวานอันยอดเยี่ยม ถึงจะเอาสูตรให้นางดูก็ไม่รู้เรื่อง

อวิ๋นหลิงฟังแล้วก็พยักหน้า “เช่นนั้นดีเลย เสด็จแม่หลี่ ท่านทำงานของท่านต่อไปเถิด

นางออกจากร้านก็กลับไปหาจักรพรรดิจาวเหริน ทำไม้ทำมือให้เขาไปหาหลี่กุ้ยเฟยได้

โอกาสสำคัญเช่นนี้ นางและเซียวปี้เฉิงย่อมไม่เหมาะจะแสดงตัวแบบหุนหันพลันแล่น เพื่อจะได้ไม่ทำลายบรรยากาศ ให้จักรพรรดิจาวเหรินไปเกลี้ยกล่อมหลี่กุ้ยเฟยก่อนจะดีกว่า

จักรพรรดิจาวเหรินสูดหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้งเพื่อทำสมาธิ เขาถือช่อดอกชาภูเขาเดินไปยังร้านของหวานด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

อวิ๋นหลิงเดินตามหลังเขาอยู่ห่างๆ ก่อนหันกลับไปสะกิดเอวเซียวปี้เฉิงทันที “เร็วเข้า! รีบไปบอกแม่นางหลีที่บ้านพักทางใต้ว่าข้ามีธุระจะคุยด้วย รอนางอยู่ตรงหน้าร้านของหวาน!”

บ้านพักทางใต้อยู่ห่างจากที่นี่เพียงสามร้อยเมตร เมื่อแม่นางหลีมาถึง ก็จะเป็นละครฉากเด็ดที่น่าตื่นเต้นอย่างที่สุดแน่นอน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ