เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1001

จักรพรรดิจาวเหรินทำตามคำแนะนำของอวิ๋นหลิง หยุดหน้าร้านของหวานใหม่

ที่นี่ต่างจากร้านค้าทั่วไป เพราะเป็นเรือนใหญ่โดด ๆ ลานกว้าง ตกแต่งด้วยต้นไม้ ก้อนศิลาอย่างประณีต โอ่อ่า ไม่ว่าจะด้านซ้าย ด้านซ้ายหรือด้านหลังล้วนมีเรือนสองหลังเรียงราย

เขามองเพียงปราดเดียวก็เห็นหลี่กุ้ยเฟยกำลังสั่งคนงานติดป้ายแขวนอันใหม่เอี่ยม

นางไม่ได้สวมอาภรณ์หรูของนางสนม แต่เป็นกระโปรงสีแดงฉาน สง่างาม แล้วรวบผมง่าย ๆ ใช้ปิ่นปักผมไม้ที่แสนจะธรรมดา

นางอยู่กลางหิมะ แลดูเหมือนบุปผางาม

ทันใดนั้นจักรพรรดิจาวเหรินถึงกับมองอย่างเคลิบเคลิ้ม ราวกับย้อนเวลากลับไปตอนหนุ่ม

เดิมทีหลี่กุ้ยเฟยยังอารมณ์ดี แต่เมื่อหางตาเหลือบเห็นจักรพรรดิจาวเหรินยืนอยู่ตรงนี้

ใบหน้านางพลันบึ้งตึง พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ฝ่าบาทมาทำไม? ถ้ามาตามหม่อมฉันกลับ งั้นฝ่าบาทก็กลับไปเถิด อย่าเสียเวลากันและกันเลย”

บุรุษผู้นี้รู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่ที่นี่ หรือมีคนคาบข่าวไปบอก?

จักรพรรดิจาวเหรินตื่นตระหนก รีบดึงสติกลับมา นึกถึงเป้าหมายการมาเยือนก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไป “เสาอี๋ ข้ามีเรื่องคุยกับเจ้า”

“ระหว่างเราไม่มีอะไรต้องคุยแล้ว”

“เสาอี๋ เมื่อก่อนข้าไม่ดีเอง ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธ วันนี้เจ้าให้เวลาข้าหนึ่งถ้วยน้ำชาก็พอ ได้ไหม?”

จักรพรรดิจาวเหรินอ้อนวอน กดเสียงต่ำเอ่ยต่อว่า “เจ้าเองก็ไม่อยากทะเลาะกับข้าที่นี่กระมัง ประชาชนเห็นแล้วขายหน้าจะตาย แล้วส่งผลต่อการค้าในวันหน้าจะทำเช่นไร เจ้าว่าจริงไหม?”

หลี่กุ้ยเฟยได้ยินประโยคแรกยังพอรับกับท่าทีของเขาได้ แต่ประโยคหลังเจือความกรรโชกร่วมด้วย เพลิงโทสะจึงปะทุขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้

ทว่านางยังคงอดกลั้น พูดหน้าบูดเบี้ยว “งั้นก็ให้เวลาหนึ่งถ้วยน้ำชา มากกว่านั้นไม่ได้”

สิ้นเสียงหลี่กุ้ยเฟยเม้มปาก เดินไปยังภูเขาจำลองด้านหลัง เดินทิ้งห่างจักรพรรดิจาวเหรินอยู่ด้านหลัง

นางไม่กลัวขายหน้าเพราะทะเลาะกันหรอก อย่าว่าแต่ต่อหน้าคนงานพวกนี้เลย หากนางโมโหขึ้นมา แม้จะอยู่ในโรงน้ำชาหรือกลางตลาดสด นางก็จะระบายไม่เหลือ

ทว่าบัดนี้มีสถานะใหม่นอกวัง ไม่อยากให้คนอื่นรู้ความสัมพันธ์ของนางกับบุรุษผู้นี้

“มีอะไรก็รีบพูดมา”

จักรพรรดิจาวเหริน “...”

ไยเขารู้สึกว่าหลี่กุ้ยเฟยเพิ่งออกจากวังครึ่งเดือน แต่นิสัยดันเหมือนอวิ๋นหลิงมากขึ้นเรื่อย ๆ ?

เขาเห็นสีหน้านางไม่สู้ดีนัก จึงรีบยื่นดอกซานฉาฮวาพร้อมกับเอ่ยว่า “เสาอี๋ เจ้าอย่าพึ่งโกรธนะ ข้าไม่ได้ตั้งใจยืดเวลาแล้วค่อยมาขอโทษเจ้า ช่วงก่อนงานราชการเยอะมากจริงๆ...เจ้าดูหนังสือพิมพ์ประจำ คงรู้เรื่องเมืองเซียวโจวกับตระกูลยินใช่ไหม ข้าไม่มีเวลาว่างจริงๆ...”

หลี่กุ้ยเฟยไม่เห็นเขาพูดเรื่องสำคัญ จึงรีบพูดแทรก “พระองค์เดินทางด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพียงเพราะต้องการเสียเวลาหม่อมฉันหนึ่งถ้วยน้ำชารึ?”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่ วันนี้ข้ามาขอโทษเจ้าแล้วพาเจ้ากลับวัง”

“ตอนนี้ข้าทำเจ้าโมโหจนเจ้าล้มป่วย ข้ารู้สึกผิดมาก ทุกครั้งที่ไปตำหนักเว่ยยางก็อยากคุยกับเจ้าดี ๆ แต่ข้าไม่กล้ายอมรับผิด ถึงเอาแต่ยั่วโมโหเจ้า...”

หลี่กุ้ยเฟยคิดว่ายั่วโมโหจักรพรรดิจาวเหรินแล้ว เขาจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะพานางกลับ แต่สิ่งที่เขาพูดกลับเหนือความคาดหมาย

นางสังเกตสีหน้าจักรพรรดิจาวเหรินโดยละเอียด เห็นว่าไม่ได้เสแสร้ง นางจึงมีสีหน้าที่ดีขึ้น แววตาค่อย ๆ เปลี่ยนมาซับซ้อน

จักรพรรดิจาวเหรินไม่ถือสาที่นางเอาแต่เงียบ พูดสารภาพผิดเสียงเบาต่อว่า “เสาอี๋ แค่ชั่วพริบตาก็หนึ่งปีกว่าแล้ว...เจ้าไม่มาหาข้าที่ห้องอักษรหนึ่งปีกว่าแล้ว”

“ช่วงนั้นข้าต้องตื่นกลางดึกตลอด ตอนนั้นไม่ควรพูดด้วยความโกรธ ไม่ควรพูดว่ายินดีโดนแทงดีกว่าให้เจ้ามาบัง ชีวิตนี้ข้าหาผู้หญิงคนที่สองที่ยอมสละชีพเพื่อข้าแล้ว เจ้าคือสิ่งที่ฟ้าประทานให้ข้า”

ด้านนอกลาน อวิ๋นหลิงกำลังเงี่ยหู แอบฟัง

จุดที่นางอยู่ไม่จำเป็นต้องใช้พลังจิตก็สามารถได้ยินถ้อยคำหวานแหววจักรพรรดิจาวเหริน จนนางเกือบขนลุกซู่

ถ้าจักรพรรดิจาวเหรินอยู่ในยุคสมัยใหม่คงได้รับรางวัลการแสดงยอดเยี่ยมแน่

ด้านข้างภูเขาจำลอง ขนตาหลี่กุ้ยเฟยสั่นระริกแบบควบคุมไม่ได้ เกิดความรู้สึกภายในใจ

คือรู้สึกทอดถอนใจ หากใช่ซาบซึ้งไม่

หากจักรพรรดิจาวเหรินพูดเช่นนี้เมื่อหนึ่งปีก่อน นางคงรู้สึกพอใจ แม้จะเหลือชีวิตเพียงวันเดียวก็ตาม

ทว่าอะไรที่ผ่านไปแล้วก็คือผ่านไปแล้ว นางกับเขากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ