เฟิงอู๋จีเม้มริมฝีปาก สำหรับเรื่องนี้เขาก็ยากจะแสดงความคิดเห็น
เมื่อก่อนในตระกูลของพวกเขา ผู้อาวุโสแต่ละครอบครัวต่างก็ไม่ยินดีจะให้ลูกหลานคลุกคลีกับเฟิงหยางสักเท่าไหร่ สำหรับนางจวงยิ่งเป็นคำสั่งห้ามอย่างเด็ดขาด กระทั่งทำเอาคนที่ได้ยินต่างก็หน้าเปลี่ยนสี หากใครกล้าพูดถึงแม่ลูกคู่นี้ แล้วถูกเสนาบดีซ้ายเฟิงจับได้จะถูกกักบริเวณอยู่ในหอบรรพบุรุษเป็นเวลาสิบวัน
“เสนาบดีซ้ายเฟิงยังไม่ตายใจจริงๆ ก่อนหน้านี้คิดวางแผนใช้ประโยชน์จากเจ้าไม่สำเร็จ ตอนนี้ก็จ้องลูกพี่ลูกน้องของเจ้าแล้ว”
เฟิงอู๋จีได้แต่ยิ้มอายๆ “ไม่เสียแรงที่เป็นพระชายารัชทายาท เพียงครู่เดียวก็สามารถเดาความคิดของท่านปู่ได้”
อวิ๋นหลิงแบะปาก ถ้าพูดอย่างจริงจัง การแต่งงานครั้งนี้เลือกคู่ได้ไม่เลวเลยทีเดียว
จุดที่ทำให้เฟิงหยางกระดากอายก็คงเป็นใบหน้าของเขา รวมไปถึงชาติกำเนิดที่น่าสงสัยและซับซ้อน
ถ้าไม่ใช่เพราะสองข้อนี้ อาศัยแค่ผลงานที่แท้จริงของเขาในตอนนี้ รวมไปถึงชื่อเสียงอันโด่งดังของตระกูลมารดา หากอยู่ในเมืองหลวง ต้องเป็นลูกเขยที่บรรดาฮูหยินแห่งตระกูลผู้สูงศักดิ์ต่างก็อยากจะแย่งตัวแน่ๆ
แต่ว่า แม่นางถังคนนั้นไม่ใช่ลูกสาวของครอบครัวลูกชายคนโตแห่งตระกูลถัง และไม่ใช่ลูกสาวคนโตด้วย เมื่อเทียบกันแล้วชาติกำเนิดของทั้งสองคนก็เหมาะสมกันดี
อวิ๋นหลิงดื่มชาคำหนึ่ง เหลือบตาขึ้นมาพลางถามว่า “ท่านปู่ของเจ้าทำไมจึงสนใจลูกสาวของตระกูลถัง”
เดิมทีอำนาจของทั้งหกกรม กรมอาญาและกรมกลาโหมล้วนเป็นฝ่ายเดียวกับรัชทายาท กรมพิธีการและกรมขุนนางยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเสนาบดีขวาหลี่ ส่วนเสนาบดีซ้ายเฟิงก็สะสมอำนาจในกรมคลังและกรมโยธาไว้ไม่น้อย
ตระกูลจางแห่งกรมพิธีการถูกกวาดล้างหลังจากที่เซียวปี้เฉิงเข้ามาเป็นเจ้าของตำหนักบูรพา ตอนนี้ตระกูลยินและตระกูลลู่ต่างก็ล้มลงแล้ว ขุนนางใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งต่างก็จงรักภักดีต่อราชวงศ์
แต่ว่า สองปีมานี้แคว้นต้าโจวหยุดรบกับทูเจวีย อำนาจของกรมกลาโหมก็ค่อยๆอ่อนแอลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
ส่วนทางราชสำนักมีการก่อสร้างชลประทานขนานใหญ่ ตระกูลถังแห่งกรมโยธาได้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ กลายเป็นตระกูลที่มีอำนาจแข็งแกร่งที่สุดในหกกรมภายในเวลาอันสั้น
เมื่อก่อนเสนาบดีซ้ายเฟิงก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลถังอยู่แล้ว ในเวลาเช่นนี้ก็เลือกที่จะไม่หลีกเลี่ยงความสงสัย ยากที่จะทำให้อวิ๋นหลิงไม่รู้สึกว่าเขาได้ดีแล้วลืมตัว เริ่มฝันถึงการได้เป็นตระกูลขุนนางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแคว้นต้าโจวขึ้นมาอีกแล้ว
“ตอนนี้ทั้งหกกรมในราชสำนักถูกกวาดล้างไปครึ่งหนึ่งแล้ว เขาจะดองญาติกับตระกูลถังในตอนนี้ ไม่เกรงว่าจะถูกเสด็จพ่อระแวงว่ารวบรวมพรรคพวกเพื่อผลประโยชน์หรือ”
เฟิงอู๋จีได้ยินถึงตรงนี้ หัวใจก็บิดเป็นเกลียวขึ้นมา
เขารู้ว่าจักรพรรดิองค์ปัจจุบันลำเอียงไปทางตระกูลเฟิงเพราะรุ่ยอ๋อง ย่อมไม่คัดค้านที่สองตระกูลจะดองญาติกัน
ดังนั้นคำพูดเมื่อครู่ของพระชายารัชทายาทก็เป็นความคิดของตัวนางเอง เพียงแต่เขาเป็นลูกหลานตระกูลเฟิง เห็นแก่หน้าเขาจึงได้พูดอ้อมค้อมเช่นนั้น
ไม่รอให้เฟิงอู๋จีตอบ ครั้งนี้หลี่เมิ่งชูกลับมีใจอยากปกป้องสามี ชิงตอบก่อนว่า “เรียนพระชายารัชทายาท ที่จริงเป็นเพราะช่วงนี้ท่านปู่ของข้ากำลังจับคู่แต่งงานให้กับพี่น้องผู้ชายในตระกูล และถูกใจลูกสาวของครอบครัวลูกคนรองของตระกูลถังพอดี เสนาบดีซ้ายเฟิงไม่รู้ว่าไปรู้ข่าวมาจากไหน จึงอยากจะแย่งชิงกับท่านปู่ขึ้นมา”
พูดถึงตรงนี้ มุมปากของอวิ๋นหลิงก็กระตุกอยู่หลายครั้ง
นางยังคิดว่าเสนาบดีซ้ายเฟิงเป็นคนแก่ที่จิตใจยังคงฮึกเหิม มีจุดมุ่งหมายที่ยาวไกลเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นการเอาชนะคะคานกับเสนาบดีขวาหลี่
เฟิงอู๋จีก็รู้สึกละอายแทนท่านปู่ของตนเอง เอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำว่า “ที่จริงตระกูลถังพอใจในตัวพี่ชายในตระกูลของเมิ่งชูมากกว่า เพียงแต่ติดที่ความสัมพันธ์แต่เก่าก่อนและเป็นการไว้หน้า จึงยังลังเลตัดสินใจไม่ได้”
ที่เขาพูดถือว่าอ่อนโยนแล้ว เพื่อแย่งหลานสะใภ้คนนี้ เสนาบดีซ้ายเฟิงทุ่มสุดตัว ใช้ทั้งความสัมพันธ์และอ้างถึงศีลธรรมมาบังคับแม้อีกฝ่ายจะไม่เต็มใจ
……
วันนั้นอาลักษณ์ถังถูกเชิญไปเป็นแขกที่บ้านตระกูลเฟิง เฟิงอู๋จีเดินผ่านโถงใหญ่ ได้ยินเสนาบดีซ้ายเฟิงตะคอกด้วยเสียงโมโหมาแต่ไกล
“ตาเฒ่าถัง เจ้าก็รู้ว่าข้ากับเจ้าหัวล้านหลี่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาตลอด ถ้าหากเจ้าจะดองญาติกับเขา เช่นนั้นหลังจากนี้ก็ไม่มีเพื่อนอย่างข้างแล้ว”
อาลักษณ์ถังสีหน้ากลัดกลุ้มขมขื่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งลำบากใจว่า “พี่ชาย ไม่ใช่ข้าไม่อยากจะดองญาติกับตระกูลเฟิง เพียงแต่หลานสาวข้ากับคุณชายตระกูลหลี่ต่างก็มีใจให้กัน......”
ผู้อาวุโสทั้งสองฝ่ายต่างก็พอใจกับการแต่งงานนี้มาก เหลือแค่การตัดสินใจอย่างเป็นทางการเท่านั้น
“ปี้เฉิงมีประสงค์จะให้พี่ชายของเจ้าอยู่ที่เมืองเซียวโจวอย่างถาวร ตระกูลถังไม่น่าจะให้ลูกสาวแต่งงานไปอยู่ในสถานที่ห่างไกลเช่นนั้น”
ลูกสาวคนเล็กในตระกูลผู้ดีมักจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เซียวโจวอยู่ติดกับแคว้นถังใต้ ใครบ้างไม่รู้ว่าตอนนี้ที่นั่นวุ่นวายและอันตรายกว่าเมืองสุยมาก
ถ้าหากตระกูลถังให้ลูกสาวแต่งงานไปอยู่ที่นั่น ต้องถูกคนมากมายนินทาว่าขายลูกสาวเป็นแน่แท้
อวิ๋นหลิงพูดจบ เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จู่ๆก็ยิ้มออกมา “ข่าวนี้พวกเจ้าสองคนรู้กันเองก็พอ อย่าบอกเสนาบดีซ้ายเฟิง ให้เขาค่อยๆทรมานไปเถอะ”
นางสามารถยอมรับการดองญาติระหว่างตระกูลถังกับตระกูลหลี่ได้ แต่ไม่อยากเห็นตระกูลเฟิงและตระกูลถังรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แล้วกลายเป็นขั้วอำนาจใหม่ในราชสำนัก มิเช่นนั้นภายในอำนาจที่เสียสมดุล ไม่ช้าต้องเกิดเรื่องแน่ๆ
เสนาบดีซ้ายเฟิงเลอะเลือนต่อไปก็ดี เขาหาเรื่องไปเรื่อยๆเช่นนี้ ย่อมต้องทำให้คนของตระกูลถังตำหนิอยู่ในใจ
ทางที่ดีที่สุดคือพูดจนอาลักษณ์ถังไร้หนทาง ถูกบีบให้เลือกตระกูลเฟิง จากนั้นตำหนักบูรพาประกาศแต่งตั้งให้เฟิงหยางรักษาการณ์เมืองเซียวโจว ทำให้ครอบครัวลูกชายคนรองของตระกูลถังเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรง
ถึงตอนนั้นเรื่องการแต่งงานที่เสนาบดีซ้ายเฟิงไปรบเร้าเพื่อให้ได้มาถูกบังคับให้ยกเลิก อาลักษณ์ถังไม่อาจจัดการให้ฝ่ายใดพอใจได้ คงแปลกหากไม่กลุ้มจนเป็นลม
ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลลดระดับลง เป็นสิ่งที่อวิ๋นหลิงอยากจะเห็น
เฟิงอู๋จีมองรอยยิ้มบนใบหน้าของอวิ๋นหลิง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกขึ้นมา จากนั้นก็แอบอธิษฐานเผื่อท่านปู่ของตัวเองอยู่ในใจเงียบๆ
“เอาล่ะ ข้าก็ไม่เสียเวลาพวกเจ้าแล้ว กลับไปเตรียมเรื่องงานแต่งให้ดีเถอะ”
พูดจบ เฟิงอู๋จีกับหลี่เมิ่งชูต่างก็ลุกขึ้นคำนับถอยออกไป
เพียงชั่วพริบตา เวลาสิบกว่าวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเที่ยงของก่อนจะถึงงานแต่งของตระกูลเฟิงและตระกูลหลี่หนึ่งวัน ขบวนทหารของเฟิงหยางในที่สุดก็มาถึงเมืองหลวง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...