เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1017

มองจากที่ไกล ดวงตาประสานกัน

ความรู้สึกที่ถูกคนจับตามองท่ามกลางผู้คนเช่นนี้ ทำให้อวิ๋นหลิงเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้นมาในใจ

นางไม่ได้รู้สึกว่าเฟิงหยางถูกความงามที่โดดเด่นของตัวเองดึงดูดสายตา ก่อนจะค่อยๆเบือนสายตาออกไป สายตาของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้นางรู้สึกถึงการล่วงเกินเลยสักนิด เหมือนถูกเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนานจ้องมองมากกว่า

แม้ว่าอวิ๋นหลิงจะพบเฟิงหยางเป็นครั้งแรก แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเก่าตั้งแต่แวบแรกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

กระทั่งเสียงของเซียวปี้เฉิงค่อยๆดังขึ้นที่ข้างใบหู “เขาหล่อมากหรือ”

“ก็หล่อดี”

อวิ๋นหลิงดึงสติกลับมาก่อนพยักหน้า จากนั้นก็ต่อบทสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ จู่ๆก็รู้สึกว่าสายตาของคนข้างๆเริ่มไม่พอในขึ้นมาแล้ว

เซียวปี้เฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกๆว่า “เห็นทีแม่สาวน้อยจะพูดถูก พวกเจ้าที่อยู่ในยุคหลังชอบรูปลักษณ์ของชาวต่างชาติจริงๆด้วย”

“ความงามนั้นไม่แบ่งสีผิวและเผ่าพันธุ์ ท่านต้องเรียนรู้ที่จะค้นพบจุดเด่นของคนอื่น เขากับอ้ายเต๋อหัวล้วนเป็นชายหนุ่มรูปงามเหมือนกัน”

อวิ๋นหลิงคิดว่าเขามีความเห็นในการมองความงามแตกต่างกัน จึงได้ตอบกลับไปเช่นนั้น

เพราะว่า คนสมัยโบราณกับคนในยุคปัจจุบันมีการมองความงามแตกต่างกัน เมื่อเอ่ยถึงชาวตะวันตกล้วนเปรียบเหมือนผีร้าย รูปลักษณ์เหมือนลิงกัง

แม้แต่นักกวีหลี่ไป๋ยังเคยบรรยายถึงรูปลักษณ์ของชาวหูในบทกลอน ยังวิจารณ์ว่า “ถ้าหากไม่เห็นรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดกับตาตัวเอง จะรู้ถึงความมหัศจรรย์แห่งการสรรค์สร้างได้อย่างไร”

คงจะหมายถึง ถ้าไม่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ข้าก็คงไม่สามารถเข้าใจถึงความน่าอัศจรรย์ของผู้สร้าง

เห็นได้ชัดว่า พวกเขาคิดว่าชาวตะวันตกนั้นอัปลักษณ์จากใจจริง

“ชายหนุ่มที่มีหน้าตาเหมือนกับเฟิงหยาง ในยุคสมัยของพวกเราได้รับความนิยมจากสาวๆไม่น้อย แม้ว่าเขาจะมีผิวคล้ำเหมือนท่านทั้งยังมีแผลเป็นบนใบหน้า คนอื่นก็แค่รู้สึกว่านี่เป็นความบุคลิกภาพและมีเสน่ห์......เฮ้อ พออยู่ในยุคนี้ก็ถูกพูดว่าเป็นคนอัปลักษณ์ ช่างทำลายกันตามอำเภอใจจริงๆ”

เซียวปี้เฉิงไม่พูดจา เขาเหลือบไปมองเฟิงหยางแวบหนึ่ง โน้มตัวไปรินเหล้าด้วยความเงียบขรึม จงใจใช้แขนเสื้อปิดกั้นสายตาของอีกฝ่ายอย่างไม่ให้รู้ตัว

หากพูดด้วยใจยุติธรรม เมื่อก่อนตอนที่เขาอยู่ชายแดนก็เข้ากับเฟิงหยางได้ไม่เลวเลย แต่เหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ความเป็นเพื่อนระหว่างผู้ชายถูกสั่นคลอนเล็กน้อย

ไม่ใช่ว่าเขาใจแคบขี้หึง แต่ผ่านมานานมากแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอวิ๋นหลิงจ้องมองผู้ชายคนหนึ่งอย่างไม่ละสายตาเช่นนี้

แต่ก่อน ตอนที่อยู่ต่อหน้าหรงจั้นและกงจื่อโยวที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาถึงเพียงนั้น อวิ๋นหลิงก็ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

เซียวปี้เฉิงนึกขึ้นได้ว่า เมื่อก่อนอวิ๋นหลิงเคยบอกว่าชอบผู้ชายที่มีกล้ามหน้าท้อง

กวาดตามองรูปร่างสูงใหญ่กำยำของเฟิงหยาง เขาก็เผลอลูบไปที่หน้าท้องของตนเอง จากนั้นก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย

โชคดีโชคดี แม้เขาจะไม่ได้ออกรบแล้ว แต่ก็ฝึกทวนและศิลปะการต่อสู้ไม่ขาด สิ่งที่อวิ๋นหลิงชอบก็ยังคงอยู่

ถ้าหากมีพุงแห่งความสุขอย่างกงจื่อโยวละก็ ตำแหน่งของเขาในครอบครัวนี้คงจะหมิ่นเหม่มาก

เห็นทีต้องเพิ่มการฝึกฝนให้มากขึ้น ไม่สามารถปล่อยให้อวิ๋นหลิงมองต้นหญ้าข้างนอกจนรู้สึกสับสน

อวิ๋นหลิงไม่รู้ว่าเซียวปี้เฉิงกำลังครุ่นคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องมากมายอยู่ข้างๆ สังเกตเนี่ยนเอ๋อร์ที่กำลังคำนับเหล่าผู้อาวุโสอย่างเงียบๆ

ร่างเล็กผอมของนางมีความเกร็งอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าในสถานการณ์เช่นนี้นางมีความตื่นเต้นมาก

แม้จะเป็นเช่นนี้ ท่าทางในการคำนับก็ยังคงเอาจริงเอาจัง เวลาเดินเหินปิ่นระย้าบนศีรษะก็ไม่ได้สั่นไหวไปมา

ตอนที่เดินมาถึงหน้าอวิ๋นหลิง เนี่ยนเอ๋อร์เอ่ยด้วยเสียงสดใสว่า “เนี่ยนเอ๋อร์คำนับท่านน้าสามและท่านน้าสะใภ้สาม ขอให้ดวงดาวคุ้มครอง โชคลาภวาสนาดั่งมหาสมุทร”

อายุแค่นี้แต่มีมารยาทมาก ตอนที่คำนับผู้อาวุโสทุกคน ยังเอ่ยคำอวยพรที่แตกต่างกันอีกด้วย

อวิ๋นหลิงยิ้มบางๆ เอ่ยเสียงอบอุ่นว่า “เนี่ยนเอ๋อร์น่ารักจริงๆ เจ้าเพิ่งมาเมืองหลวงครั้งแรกคงไม่เคยชิมของว่างที่นี่แน่ น้าได้ทำเค้กให้เจ้ากับมือ ประเดี๋ยวลองชิมดูว่าชอบหรือไม่”

พูดจบ ก็ส่งสัญญาณให้ตงชิงเอาของขวัญที่เตรียมเอาไว้ขึ้นมา

ตี้หวู่เหยาเผยรอยยิ้มออกมา อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบศีรษะของนางเบาๆ จากนั้นก็หยิบปิ่นขึ้นมาเสียบไว้ที่ข้างมวยผม

“ขอบคุณของขวัญพบหน้าของเนี่ยนเอ๋อร์ น้าชอบมาก”

“ไม่เป็นไร ท่านน้าสะใภ้สี่ปักปิ่นดอกไม้แล้วสวยมาก สวยเหมือนน้าสะใภ้สามเลย”

เด็กคนนี้ มีความฉลาดทางอารมณ์สูงมาก ปากก็หวานมากด้วย

ชั่วขณะนั้นผู้ใหญ่ทุกคนในงานเลี้ยงต่างก็หัวเราะขึ้นมา หรงฉานมองด้วยสายตาอิจฉา ทำไมเสี่ยวหนีชิวของนางไม่ใช่ลูกสาวนะ

เยี่ยนอ๋องยิ่งอดกลั้นความรู้สึกชื่นชอบในใจเอาไว้ไม่อยู่ และไม่สนว่านี่เป็นงานเลี้ยงในวัง อุ้มเนี่ยนเอ๋อร์ขึ้นมากอดเอาไว้อ้อมอกทันที

เนี่ยนเอ๋อร์อุทานอย่างตกใจเสียงหนึ่ง จับแขนเสื้อของเขาเอาไว้แน่น

“เนี่ยนเอ๋อร์ปากหวานจริงๆ เมื่อครู่น้าแค่โกหกเจ้า ที่จริงได้เตรียมของเล่นไว้ให้เจ้ามากมายเลย กล่องใหญ่เกินไปไม่มีที่วาง รอช่วงค่ำจะให้ขันทีเอาไปส่งให้ถึงมือเจ้าเลย”

“หลังจากนี้หากเจ้าชอบอะไร อยากได้อะไร ก็ให้บอกน้า จะซื้อให้เจ้าหมดเลย”

ได้ยินเช่นนั้น เนี่ยนเอ๋อร์ก็นิ่งอึ้งไป กลับส่ายหน้าด้วยใบหน้าแดงก่ำเบาๆ

“ทำไม เนี่ยนเอ๋อร์ไม่ชอบของเล่น แต่ชอบชุดกระโปรงสวยๆและปิ่นดอกไม้ใช่หรือไม่”

เนี่ยนเอ๋อร์ยังคงส่ายหน้า ผ่านไปครู่ใหญ่ ก่อนจะก้มหน้าพูดเสียงเบาว่า “ที่น้าสี่พูดเมื่อครู่เป็นเรื่องจริงหรือ เนี่ยนเอ๋อร์จะเอาอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ"

“แน่นอน ผู้ชายอกสามศอกพูดแล้วไม่คืนคำ”

ได้ยินเช่นนี้ สาวน้อยก็จ้องมองเยี่ยนอ๋องอย่างจริงจังครู่หนึ่ง หลังจากมั่นใจว่าเขาจริงจัง ดวงตาก็มีแววยินดีผุดขึ้นมา

“เนี่ยนเอ๋อร์ชอบของขวัญทุกชิ้นเลย แต่ชอบท่านน้าอุ้มข้ามากที่สุด นอกจากท่านแม่แล้ว น้อยมากที่จะมีคนอยากจะอุ้มเนี่ยนเอ๋อร์”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ