มองจากที่ไกล ดวงตาประสานกัน
ความรู้สึกที่ถูกคนจับตามองท่ามกลางผู้คนเช่นนี้ ทำให้อวิ๋นหลิงเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้นมาในใจ
นางไม่ได้รู้สึกว่าเฟิงหยางถูกความงามที่โดดเด่นของตัวเองดึงดูดสายตา ก่อนจะค่อยๆเบือนสายตาออกไป สายตาของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้นางรู้สึกถึงการล่วงเกินเลยสักนิด เหมือนถูกเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนานจ้องมองมากกว่า
แม้ว่าอวิ๋นหลิงจะพบเฟิงหยางเป็นครั้งแรก แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเก่าตั้งแต่แวบแรกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กระทั่งเสียงของเซียวปี้เฉิงค่อยๆดังขึ้นที่ข้างใบหู “เขาหล่อมากหรือ”
“ก็หล่อดี”
อวิ๋นหลิงดึงสติกลับมาก่อนพยักหน้า จากนั้นก็ต่อบทสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ จู่ๆก็รู้สึกว่าสายตาของคนข้างๆเริ่มไม่พอในขึ้นมาแล้ว
เซียวปี้เฉิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแปลกๆว่า “เห็นทีแม่สาวน้อยจะพูดถูก พวกเจ้าที่อยู่ในยุคหลังชอบรูปลักษณ์ของชาวต่างชาติจริงๆด้วย”
“ความงามนั้นไม่แบ่งสีผิวและเผ่าพันธุ์ ท่านต้องเรียนรู้ที่จะค้นพบจุดเด่นของคนอื่น เขากับอ้ายเต๋อหัวล้วนเป็นชายหนุ่มรูปงามเหมือนกัน”
อวิ๋นหลิงคิดว่าเขามีความเห็นในการมองความงามแตกต่างกัน จึงได้ตอบกลับไปเช่นนั้น
เพราะว่า คนสมัยโบราณกับคนในยุคปัจจุบันมีการมองความงามแตกต่างกัน เมื่อเอ่ยถึงชาวตะวันตกล้วนเปรียบเหมือนผีร้าย รูปลักษณ์เหมือนลิงกัง
แม้แต่นักกวีหลี่ไป๋ยังเคยบรรยายถึงรูปลักษณ์ของชาวหูในบทกลอน ยังวิจารณ์ว่า “ถ้าหากไม่เห็นรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดกับตาตัวเอง จะรู้ถึงความมหัศจรรย์แห่งการสรรค์สร้างได้อย่างไร”
คงจะหมายถึง ถ้าไม่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ข้าก็คงไม่สามารถเข้าใจถึงความน่าอัศจรรย์ของผู้สร้าง
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาคิดว่าชาวตะวันตกนั้นอัปลักษณ์จากใจจริง
“ชายหนุ่มที่มีหน้าตาเหมือนกับเฟิงหยาง ในยุคสมัยของพวกเราได้รับความนิยมจากสาวๆไม่น้อย แม้ว่าเขาจะมีผิวคล้ำเหมือนท่านทั้งยังมีแผลเป็นบนใบหน้า คนอื่นก็แค่รู้สึกว่านี่เป็นความบุคลิกภาพและมีเสน่ห์......เฮ้อ พออยู่ในยุคนี้ก็ถูกพูดว่าเป็นคนอัปลักษณ์ ช่างทำลายกันตามอำเภอใจจริงๆ”
เซียวปี้เฉิงไม่พูดจา เขาเหลือบไปมองเฟิงหยางแวบหนึ่ง โน้มตัวไปรินเหล้าด้วยความเงียบขรึม จงใจใช้แขนเสื้อปิดกั้นสายตาของอีกฝ่ายอย่างไม่ให้รู้ตัว
หากพูดด้วยใจยุติธรรม เมื่อก่อนตอนที่เขาอยู่ชายแดนก็เข้ากับเฟิงหยางได้ไม่เลวเลย แต่เหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ความเป็นเพื่อนระหว่างผู้ชายถูกสั่นคลอนเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าเขาใจแคบขี้หึง แต่ผ่านมานานมากแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอวิ๋นหลิงจ้องมองผู้ชายคนหนึ่งอย่างไม่ละสายตาเช่นนี้
แต่ก่อน ตอนที่อยู่ต่อหน้าหรงจั้นและกงจื่อโยวที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาถึงเพียงนั้น อวิ๋นหลิงก็ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน
เซียวปี้เฉิงนึกขึ้นได้ว่า เมื่อก่อนอวิ๋นหลิงเคยบอกว่าชอบผู้ชายที่มีกล้ามหน้าท้อง
กวาดตามองรูปร่างสูงใหญ่กำยำของเฟิงหยาง เขาก็เผลอลูบไปที่หน้าท้องของตนเอง จากนั้นก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
โชคดีโชคดี แม้เขาจะไม่ได้ออกรบแล้ว แต่ก็ฝึกทวนและศิลปะการต่อสู้ไม่ขาด สิ่งที่อวิ๋นหลิงชอบก็ยังคงอยู่
ถ้าหากมีพุงแห่งความสุขอย่างกงจื่อโยวละก็ ตำแหน่งของเขาในครอบครัวนี้คงจะหมิ่นเหม่มาก
เห็นทีต้องเพิ่มการฝึกฝนให้มากขึ้น ไม่สามารถปล่อยให้อวิ๋นหลิงมองต้นหญ้าข้างนอกจนรู้สึกสับสน
อวิ๋นหลิงไม่รู้ว่าเซียวปี้เฉิงกำลังครุ่นคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องมากมายอยู่ข้างๆ สังเกตเนี่ยนเอ๋อร์ที่กำลังคำนับเหล่าผู้อาวุโสอย่างเงียบๆ
ร่างเล็กผอมของนางมีความเกร็งอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าในสถานการณ์เช่นนี้นางมีความตื่นเต้นมาก
แม้จะเป็นเช่นนี้ ท่าทางในการคำนับก็ยังคงเอาจริงเอาจัง เวลาเดินเหินปิ่นระย้าบนศีรษะก็ไม่ได้สั่นไหวไปมา
ตอนที่เดินมาถึงหน้าอวิ๋นหลิง เนี่ยนเอ๋อร์เอ่ยด้วยเสียงสดใสว่า “เนี่ยนเอ๋อร์คำนับท่านน้าสามและท่านน้าสะใภ้สาม ขอให้ดวงดาวคุ้มครอง โชคลาภวาสนาดั่งมหาสมุทร”
อายุแค่นี้แต่มีมารยาทมาก ตอนที่คำนับผู้อาวุโสทุกคน ยังเอ่ยคำอวยพรที่แตกต่างกันอีกด้วย
อวิ๋นหลิงยิ้มบางๆ เอ่ยเสียงอบอุ่นว่า “เนี่ยนเอ๋อร์น่ารักจริงๆ เจ้าเพิ่งมาเมืองหลวงครั้งแรกคงไม่เคยชิมของว่างที่นี่แน่ น้าได้ทำเค้กให้เจ้ากับมือ ประเดี๋ยวลองชิมดูว่าชอบหรือไม่”
พูดจบ ก็ส่งสัญญาณให้ตงชิงเอาของขวัญที่เตรียมเอาไว้ขึ้นมา



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......