“ทูลฝ่าบาท พ่ะย่ะค่ะ”
หัวใจของเฟิงหยางบิดเป็นเกลียวขึ้นมาเล็กน้อย เกรงว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะจับคู่อย่างไม่เหมาะสม กำลังครุ่นคิดว่าถ้าหากเป็นเช่นนั้นจะปฏิเสธอย่างนุ่มนวลอย่างไร
จักรพรรดิจาวเหรินลูบหนวดเครา ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งขึ้นมา “อืม......”
รุ่ยอ๋องทำงานอยู่ในกรมขุนนาง ไม่มีอะไรดีไปกว่าการมีน้องชายที่เป็นลูกเขยของเจ้ากรมขุนนางแล้ว แต่หลังจากที่ตระกูลยินสิ้นอำนาจ กรมขุนนางก็แทบจะไร้ซึ่งคนที่มีความสามารถ......ตัวเลือกของคนที่จะมารับตำแหน่งอาลักษณ์กรมขุนนางคนต่อไปยังไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ใด
ตระกูลหรงเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย ถ้าหากเฟิงหยางแต่งงานกับลูกสาวตระกูลหรง ก็สามารถเอื้อประโยชน์ต่อกันได้
ไม่เพียงแต่สามารถทำให้ตำแหน่งของเฟิงหยางสูงขึ้นมาได้บ้าง พลังของตระกูลหรงก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ รุ่ยอ๋องที่เป็นลูกเขยของตระกูลหรงก็จะได้รับผลดีไปด้วย
จำได้ว่าเจิ้นกั๋วกงมีน้องชายคนหนึ่ง น้องชายของเจิ้นกั๋วกงก็มีลูกสาว อยู่ในวัยที่เหมาะแก่การแต่งงาน เดิมทีมีสัญญาแต่งงานกับตระกูลถัง แต่ถูกยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว
ชื่อว่าหรง.....หรงอะไรนะ เหมือนจะเป็นลูกศิษย์ของสำนักศึกษาชิงอี้
เสี้ยววินาทีนั้น จักรพรรดิจาวเหรินเหมือนจะสัมผัสกับความทรงจำที่น่ากลัวอะไรบางอย่าง รีบปัดความคิดนี้ทิ้งไปทันที
ตระกูลหรงเลี้ยงลูกสาวอย่างเอาใจ สายตาสูงส่ง อาจจะไม่ชอบชาติกำเนิดและหน้าตาของเฟิงหยางก็เป็นได้
คนหัวแข็งอย่างเจิ้นกั๋วกง ยังสามารถละเลยความคิดเห็นของฮ่องเต้อย่างเขาได้ เก็บหรงฉานไว้ที่บ้านตั้งนานสองนาน ไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด เขาไม่อยากจะมีปัญหากับอีกฝ่าย
ช่างเถอะช่างเถอะ เปลี่ยนตัวเลือกดีกว่า
สรุปแล้ว จักรพรรดิจาวเหรินไม่ยอมรับว่า เขาไม่กล้าจับคู่โดยไม่เหมาะสมให้กับลูกศิษย์ของสองสามีภรรยาคู่นั้น
เขาขมวดคิ้วคิดแผนการอยู่นาน แต่คิดอยู่ครู่ใหญ่ก็ยังคิดไม่ออก ตอนนี้บรรดาตระกูลผู้ดีในเมืองหลวง ยังมีลูกสาวบ้านไหนที่สามารถเป็นตัวเลือกให้เฟิงหยางได้ ขณะเดียวกันยังสามารถช่วยเหลือรุ่ยอ๋องได้ด้วย ชั่วขณะนั้นจึงได้แต่ถอนหายใจรัวๆ
หัวใจของเฟิงหยางก็วุ่นวายตามจังหวะเสียงถอนหายใจของเขา
ดีที่ท้ายที่สุดแล้วจักรพรรดิจาวเหรินก็พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า “ช่างเถอะ เจ้าเพิ่งกลับเมืองหลวงได้ไม่นาน ยังรู้จักคุณหนูตระกูลต่างๆไม่มากพอ การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ต้องคิดให้รอบคอบ ครึ่งปีนี้เจ้าก็พักผ่อนอยู่ในเมืองหลวงให้ดีเถอะ ถ้ามีแม่นางที่เพียบพร้อมทั้งคุณธรรมและหน้าตา ข้าค่อยประทานงานแต่งงานให้เจ้า”
เฟิงหยางไม่รู้ว่าจักรพรรดิจาวเหรินมีแผนการอะไรอยู่ในใจ รู้สึกแค่ว่าเขาใส่ใจต่อตนเองมากเกินไป แอบเดาว่าอาจเป็นเพราะเขาเป็นคนของตระกูลเฟิง
ความจริงแล้ว เขาไม่อยากจะได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิเลย แต่ภายนอกก็ยังคงต้องแสดงออกอย่างนอบน้อมและซาบซึ้งใจ
“กระหม่อมขอบพระทัยฝ่าบาทที่เมตตา แต่ต้องโทษกระหม่อมที่มีใบหน้าไม่น่าชื่นชม จึงทำให้ทรงลำบากใจเช่นนี้”
จักรพรรดิจาวเหรินเอ่ยอย่างไม่เห็นด้วย “นี่ ผู้ชายอกสามศอกมีจิตใจอันเด็ดเดี่ยวแน่วแน่นั่นคือความสามารถ ไม่ใช่พวกผู้ชายรูปงามแต่ไร้ซึ่งมาดของชายชาตรีอาศัยรูปโฉมหากิน เจ้าพูดเช่นนี้ข้าไม่ชอบฟังเอาเสียเลย”
เฟิงหยางรีบก้มหน้ายอมรับผิด รู้สึกกลัดกลุ้มในใจอยู่บ้าง ฝ่าบาททรง”จิตใจกว้างขวาง”ตั้งแต่เมื่อไหร่
ต้องรู้ว่าเขาเป็นคนใส่ใจในเกียรติของตัวเองมาก แม้แต่รูปลักษณ์ภายนอกของเหล่าขุนนางก็ให้ความสำคัญมาก มิเช่นนั้นก็คงไม่ฟื้นฟูกฎที่ว่า”ห้ามมิให้ผู้มีแผลเป็นที่ใบหน้าเข้าร่วมการสอบขุนนาง” ยังแอบสบถว่าเสนาบดีขวาหลี่หัวล้านหน้าตาขี้เหร่อีกด้วย
ตอนนี้ เผชิญหน้ากับเขาที่มีหน้าตาราวกับชาวตะวันตก คิดไม่ถึงว่าจะไม่ใส่ใจแล้ว
เฟิงหยางย่อมไม่มีทางรู้ เพราะจักรพรรดิจาวเหรินถูกบีบให้ยอมรับลูกเขยอย่างเว่ยฉือเลี่ย แม้แต่หน้าตาของคนทูเจวียก็มองอย่างใจกว้างขึ้นมาก
ในมุมมองของเขา เฟิงหยางกับเว่ยฉือเลี่ยมีหน้าตาคล้ายคลึงกัน เขารู้สึกรังเกียจอยู่ในใจ แต่สู้ความชื่นชอบขององค์หญิงหกไม่ได้ จะแต่งงานกับอีกฝ่ายให้ได้
ถ้าหากรังเกียจว่าเฟิงหยางขี้เหร่ เช่นนั้นก็เท่ากับรังเกียจลูกเขยอย่างเว่ยฉือเลี่ยว่าขี้เหร่เช่นกัน สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่ดูไม่ดี
“อืม.....แต่เจ้าเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบปีบริบูรณ์แล้ว เรือนด้านหลังไร้ผู้หญิง ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ ไม่สู้เอาอย่างนี้ ข้าจะตกรางวัลเป็นนางรำให้เจ้าสองสามคน จะได้ช่วยให้เจ้ามีคนช่วยอุ่นเตียงยามค่ำคืนได้”
ท้องฟ้ามีดวงดาวระยิบระยับ จันทร์ครึ่งดวงซ่อนอยู่ใต้เงาเมฆที่เลือนราง แสงจันทร์สดใส
รถไม้วิ่งไปถึงกลางสวนหลวง เฟิงหยางเลิกผ้าม่านขึ้น มองไปทางตำหนักบูรพาที่อยู่ไกลออกไป มุมปากโค้งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
……
หลังจากสิ้นสุดงานเลี้ยง วังหลวงก็เข้าสู่ความเงียบสงบ ตำหนักโยวซินกลับยังมีจุดไฟสว่างและยุ่งกันอยู่
องค์หญิงอี๋อันพาเนี่ยนเอ๋อร์กลับไปที่ตำหนัก หลังจากนั้นของขวัญแรกพบที่พวกเยี่ยนอ๋องเตรียมเอาไว้ก็ถูกนางกำนัลส่งมาให้อย่างรวดเร็ว
กรมวังรู้วันที่เนี่ยนเอ๋อร์จะกลับเมืองหลวง ได้ทำการจัดเตรียมทำความสะอาดห้องที่เหมาะสมกับสาวน้อยเจ็ดแปดขวบได้อยู่อาศัยล่วงหน้าเป็นเวลาหนึ่งเดือน
องค์หญิงอี๋อันรู้นิสัยและความชอบของเนี่ยนเอ๋อร์ดี ของตกแต่งห้องทุกชิ้นทั้งภายในและภายนอกนางล้วนเลือกเองกับมือ
เวลานี้ นางกำนัลสิบกว่าคนเข้าๆออกๆในตำหนัก ขนย้ายกล่องใบใหญ่ไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า
แค่ของเล่น เครื่องหอม และเสื้อผ้าที่เยี่ยนอ๋องมอบให้ รวมกันแล้วก็มีประมาณสิบกล่องใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของที่จักรพรรดิจาวเหรินประทานให้ รวมไปถึงสิ่งของที่พวกอวิ๋นหลิงเตรียมเอาไว้
ภายในตำหนักโยวซินมีสิ่งของวางอยู่เต็มไปหมด นอกจากเส้นทางเล็กๆที่เอาไว้ให้คนเดิน ก็แทบจะไม่มีพื้นที่ให้วางเท้าได้เลย
แมวลายสองสามตัวถูกเลี้ยงจนอ้วนกลม กำลังกระโดดไปทั่วบนกล่องไม้ ยื่นกรงเล็บออกไปเขี่ยอย่างอยากรู้อยากเห็น
โม่อี้ซือยืนอยู่ข้างเสาใต้ชายคาตำหนัก มองดูภาพที่เกิดขึ้น ผ้าเช็ดหน้าแทบจะถูกบิดจนขาดแล้ว ตนเองกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
ตอนที่นางเพิ่งมาถึงเมืองหลวงก็ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ แต่เมื่อเทียบกับตอนนี้ นางเพิ่งจะรู้ว่าอะไรคือเมื่อเทียบกันแล้วยังห่างไกลกันมาก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...