องค์หญิงอี๋อันมองเห็นนาง ก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างเป็นห่วงว่า “ซือซือ ดึกมากแล้วทำไมยังไม่พักผ่อน เสียงในลานบ้านดังจนเจ้านอนไม่หลับใช่หรือไม่”
โม่อี้ซือได้สติกลับมาทันที รีบปิดบังความอิจฉาที่อยู่ในสายตา ยิ้มอย่างอ่อนโยนเชื่อฟัง
“เนี่ยนเอ๋อร์กลับมาแล้ว ข้าที่เป็นพี่ย่อมดีใจจนนอนไม่หลับ ขอบคุณสวรรค์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนางที่เซียวโจว มิเช่นนั้นท่านแม่ต้องทุกข์ทรมานใจมากแน่ๆ”
องค์หญิงอี๋อันได้ยินเช่นนั้น ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ใช่แล้ว......สวรรค์คุ้มครอง พวกเราสามแม่ลูกล้วนหลุดพ้นจากหลุมเพลิงนั่นมาได้แล้ว วันหน้าต้องดียิ่งขึ้นไป”
ชีวิตในเมืองหลวงของแคว้นต้าโจวกับจวนอ๋องไหวเซียงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อยู่ในเมืองหลวงมาครึ่งค่อนปีแล้ว นางรับรู้ได้ถึงความสบายใจผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สภาพจิตใจและรูปลักษณ์แตกต่างไปจากเมื่อก่อน ดวงตาที่เดิมทีมีแววขี้ขลาดเหนื่อยล้า ตอนนี้เต็มไปด้วยความหวัง
โม่อี้ซือดึงมือของนางเอาไว้ เอ่ยอย่างจริงใจว่า “ท่านแม่ก็อย่าเป็นห่วงไปเลยว่าเนี่ยนเอ๋อร์เพิ่งมาถึงครั้งแรกจะรู้สึกกลัว จากนี้ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนนาง ไม่ให้นางถูกคนอื่นรังแกได้ง่ายๆอย่างเด็ดขาด”
องค์หญิงอี๋อันตบที่หลังมือของนางเบาๆ เอ่ยอย่างดีใจว่า “เนี่ยนเอ๋อร์มีพี่สาวอย่างเจ้า ข้าก็รู้สึกวางใจแล้ว ช่วงนี้ต้องลำบากเจ้าแล้ว”
หลายวันมานี้ทุกการกระทำของโม่อี้ซือนางมองเห็นทั้งหมดแล้ว เรื่องการจัดแจงตกแต่งที่อยู่ของเนี่ยนเอ๋อร์ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจเป็นพิเศษ
คืนนี้แม้ว่านางจะไม่ได้ร่วมงานเลี้ยงเพราะกระดากอายในสถานะของตัวเอง แต่กลับลงมือเข้าครัวในตำหนักโยวซินทำของว่างและอาหารมื้อดึก เตรียมเอาไว้ให้เนี่ยนเอ๋อร์โดยเฉพาะ
“ท่านแม่พูดอะไรกัน การดูแลเนี่ยนเอ๋อร์เดิมทีก็ควรเป็นเรื่องของคนที่เป็นพี่สาวอย่างข้า หรือท่านจะลืมไปแล้ว ตอนที่อยู่ในจวนอ๋องไหวเซียง ข้าเป็นคนดูแลเนี่ยนเอ๋อร์มาจนโต”
โม่อี้ซือส่งสัญญาณอย่างไม่ให้ผิดสังเกต สีหน้าราวกับทอดถอนใจกับเรื่องที่ผ่านมา จู่ๆก็เปลี่ยนเป็นความโศกเศร้าและหดหู่ขึ้นมา
“เพียงแต่เสียดายที่ข้าทำผิด จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะยินดีให้ข้าอยู่ที่วังหลวงต่อหรือไม่ มิเช่นนั้นละก็ ข้าก็ไม่อยากจะไปจากท่านและเนี่ยนเอ๋อร์จริงๆ......ถ้าหากสามารถเป็นเพื่อนเรียนของเนี่ยนเอ๋อร์ได้ ข้าก็พอใจแล้ว”
องค์หญิงอี๋อันได้ยินเช่นนี้ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวอยู่บ้าง
ก่อนหน้านี้ตอนที่นางอยู่ในจวนอ๋องไหวเซียง แม้จะตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกก็ยังต้องเหน็ดเหนื่อยกับงานของเรือนด้านหลัง ทั้งยังควบคุมเหล่าสาวใช้แม่บ้านที่ปรับตัวไปตามสถานการณ์ไม่ได้
บ่าวรับใช้เหล่านั้นไม่ใส่ใจในการดูแลเนี่ยนเอ๋อร์ ต้องขอบคุณโม่อี้ซือที่เพิ่งจะมีอายุเก้าขวบ ที่ช่วยนางดูแลเนี่ยนเอ๋อร์ที่เพิ่งกำเนิดมา ได้รับความทุกข์และลำบากไม่น้อย
ช่วยดูแลเป็นเวลาถึงหกปี ช่วยนางแบ่งเบาความกังวลไปได้ไม่น้อย
ที่จริงองค์หญิงอี๋อันก็เข้าใจความนัยของสิ่งที่โม่อี้ซือต้องการจะสื่อ รู้ว่านางกำลังแอบส่งสัญญาณและเร่งเร้าเรื่องอะไร
เข้าสู่ต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว ถ้าหากจักรพรรดิจาวเหรินยังไม่เห็นด้วยที่จะให้นางอยู่ในวังหลวงต่อไป เช่นนั้นนางก็ต้องรีบออกไปจากวังโดยเร็วที่สุด
คำนึงถึงเนี่ยนเอ๋อร์ที่อยู่ในเมืองหลวง มีเพียงโม่อี้ซือคนเดียวที่เป็นคนคุ้นเคยสามารถเป็นเพื่อนได้ รวมถึงความรักที่มีให้มานานหลายปี องค์หญิงอี๋อันคิดเวียนวนอยู่ในใจ สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา
“ประเดี๋ยวข้าจะไปถามเสด็จพ่อที่ห้องตำรา บางทีวันนี้เขาอาจจะอารมณ์ดี และสงสารเนี่ยนเอ๋อร์ ยอมให้เจ้าอยู่ที่นี่ต่อ”
โม่อี้ซือรู้สึกซาบซึ้งใจมาก “ท่านแม่ เป็นลูกที่อกตัญญู ทำให้ท่านต้องลำบากใจแล้ว”
“ขอเพียงเจ้ารู้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองทำผิดอะไรไป แก้ไขให้ดีก็พอแล้ว นี่ต่างหากที่สำคัญที่สุด”
องค์หญิงอี๋อันพูดจบ ก็ส่งนางกำนัลไปดูลาดเลาที่ห้องตำรา รอให้เฟิงหยางจากไปแล้วให้มารายงานนางทันที
หลังจากที่จักรพรรดิจาวเหรินพูดคุยในห้องตำราเสร็จแล้ว ก็กลับไปยังพระที่นั่งบำรุงฤทัย
ยังไม่ทันได้พักผ่อน องค์หญิงอี๋อันก็มาขอเข้าเฝ้า
“ซูโยว ดึกขนาดนี้แล้วมาหาข้ามีเรื่องอันใด”
เขาคิดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเนี่ยนเอ๋อร์ แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาขอร้องเรื่องโม่อี้ซือ
จักรพรรดิจาวเหรินขมวดคิ้ว ใบหน้าบึ้งตึง
“ซูโยว ข้าคงต้องว่าเจ้าซะหน่อยแล้ว มีเนี่ยนเอ๋อร์อยู่ เจ้าเอาใจไปคิดเรื่องโม่อี้ซือทำไม”
นางยืนนิ่งอยู่ข้างหน้าต่าง หลุบตาลงมองเห็นแววตาไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
……
ตำหนักโยวซินวุ่นวายอยู่ครึ่งค่อนคืน และขณะเดียวกันที่ตำหนักบูรพา ก็เพิ่งจะสงบลงได้ไม่นาน
เซียวปี้เฉิงอาบน้ำเสร็จตั้งนานแล้ว รออวิ๋นหลิงที่กล่อมเซียงถวนนอนอยู่ที่เรือนด้านข้าง ตอนที่ใช้เสื้อคลุมห่อตัวกลับมา ก็พบว่าเขานอนตะแคงอยู่บนเตียง
มือข้างหนึ่งของชายหนุ่มค้ำศีรษะเอาไว้ เส้นผมดกดำสยายเต็มแผ่นหลัง เสื้อตัวในสีขาวคลายออกอย่างหมิ่นเหม่ เผยให้เห็นแผงหน้าอกสีน้ำผึ้ง
เห็นนางกลับมา เหมือนจะดึงเสื้อให้เปิดกว้างมากขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ กล้ามเนื้อที่แน่นตึงแข็งแกร่งน่าดึงดูดใจยิ่งนัก
อวิ๋นหลิงสังเกตเห็นการกระทำของเขา กวาดตามองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นว่าถ่านไปจะลุกโชนมากเกินไป เอ่ยอย่างสงสัยว่า “ท่านรู้สึกร้อนหรือ”
หางตาของเซียวปี้เฉิงกระตุก “......อืม ก็นิดหน่อย”
“นี่มันค่ำคืนในเดือนสองอากาศหนาวเย็นจะตายไป ท่านกลับรู้สึกร้อน คงไม่ใช่เพราะไม่สบายกระมัง”
อวิ๋นหลิงรีบเข้าไปจับที่หน้าผากของเขา อุณหภูมิปกติ เอ่ยพึมพำว่า “ดูแล้วก็ไม่เป็นอะไรนี่นา”
สายตาของเซียวปี้เฉิงมีแววไม่พอใจวาบผ่าน “......ข้าไม่เป็นไร ก็แค่ไม่สบายนิดหน่อย”
เห็นอวิ๋นหลิงสนใจผู้ชายคนอื่นขนาดนั้น ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ บวกกับกล้ามหน้าท้องที่แทบจะไม่มีแรงดึงดูดนางเลยสักนิด ก็ยิ่งรู้สึกรับไม่ได้
อวิ๋นหลิงแขวนเสื้อคลุมไว้เรียบร้อย จากนั้นก็ถอดเสื้อตัวนอกออก ปากก็บ่นพึมพำไม่หยุด “นั่นก็เป็นเพราะท่านชอบอากาศเย็น ฤดูหนาวเช่นนี้ใครใช้ให้ท่านเปิดหน้าท้อง ไม่รู้หรืออย่างไรว่าหลังจากกินเนื้อสัตว์แล้วเจอลมพัดจะทำให้ท้องเสียได้ง่าย”
“รีบปิดสะดือของท่านเดี๋ยวนี้เลยนะ อายุปูนนี้แล้วยังคิดว่าตัวเองเป็นเด็กหรืออย่างไร ท่านหาเรื่องไปเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปร่วมงานเลี้ยงแต่งงาน ถ้าต้องวิ่งเข้าห้องน้ำข้าจะดูว่าท่านจะทำอย่างไร”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...