เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1029

เสนาบดีซ้ายเฟิงพยายามผ่อนคลายความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงหยางกับพ่อของเขา แต่เฟิงหยางกลับไม่รับน้ำใจ

“ท่านปู่ล้อเล่นแล้ว ถ้าหากเขารักท่านแม่ของข้าจริง แล้วจะทำเช่นนั้นทำไม นี่เป็นเรื่องที่ขัดแย้งในตัวเอง แม้จะเป็นเหมือนดั่งที่ท่านพูด เขาถูกบีบจนต้องทำเช่นนั้น แต่ก็คงไม่ถึงกับมีคนขวางเขาไม่ให้ไปเคารพศพท่านแม่กระมัง”

“อย่างน้อยในความทรงจำของข้า ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลเช็งเม้งสารทจีนหรือว่าวันเกิดท่านแม่ของข้า เขาก็ไม่เคยไปดูเองกับตาสักครั้ง ท่านจะให้ข้าเชื่อคำพูดนี้ได้อย่างไร”

สำหรับคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อคนนี้ เฟิงหยางไม่มีความรู้สึกใดๆ ไม่รู้สึกรักและไม่เกลียดชัง

สำหรับเขา ไม่มีใครแปลกหน้าไปกว่ารองเสนาบดีเฟิงแล้ว เมื่อครู่เขาสงสัยว่าป้ายหลุมศพของแม่ผู้ให้กำเนิดไม่ได้ถูกดูแลอย่างดี ไม่ได้ค้างคาใจในเรื่องเก่าเมื่อยี่สิบก่อน ก็แค่ไม่เชื่อใจในตระกูลเท่านั้น

ริมฝีปากของเสนาบดีซ้ายเฟิงขยับเล็กน้อย เหมือนยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง กลับถูกเฟิงอยางยกมือขึ้นเป็นสัญญาณห้ามเอาไว้ “ท่านปู่ คำพูดที่ไร้ความหมายเหล่านี้ข้าไม่ชอบฟัง และไม่อยากจะฟังอีก ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ท่านยุ่งมาทั้งวัน รีบพักผ่อนเถอะ หลานก็ไม่รบกวนท่านแล้ว”

พูดจบ เขาก็คำนับอย่างนอบน้อมและถอยออกไป

มองดูแผ่นหลังของเฟิงหยางที่เดินจากไป ใบหน้าแก่ชราของเสนาบดีซ้ายเฟิงเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม ยืนถอนหายใจอยู่กับที่ติดต่อกันหลายครั้ง

ถ้ารู้ว่าจะมีวันนี้ ตอนนั้นเขาน่าจะเร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกตั้งแต่เนิ่นๆ

ตอนที่รองเสนาบดีเฟิงเพิ่งกลับมาเมืองหลวง เฟิงหยางอายุสิบขวบ ถ้าหากสามารถใส่ใจดูแลเขาให้มากหน่อย ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็คงไม่ถึงกับแข็งกระด้างเช่นนี้

เพียงแต่ตอนนั้นทุกคนต่างก็รู้สึกว่าสถานะของเฟิงหยางไม่ชัดเจน อาศัยแค่ชาติกำเนิดที่คลุมเครือไม่ชัดเจนและรูปร่างหน้าตา สามารถมีชีวิตอย่างสงบเรียบง่ายก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

ใครจะไปคิดว่า หลายปีผ่านไปคนทั้งตระกูลเฟิงจำเป็นจะต้องพึ่งพาเขาในสักวัน

ตอนนี้เฟิงหยางอายุยี่สิบสามปีแล้ว ไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาอีกต่อไป มีบางเรื่อง......ที่สุดก็สายเกินไปแล้ว

……

หลังจากที่เฟิงหยางออกไปจากโถงด้านหลัง ก็เดินไปยังเรือนของตนเองที่จากไปหลายปี

แสงจันทร์เย็นยะเยือกส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง เขาเอามีดสั้นที่ประดับด้วยอัญมณีสีแดงออกมา เช็ดถูไปมา ความคิดล่องลอยไปในค่ำคืนอันเงียบสงบนี้

ตั้งแต่เขาจำความได้ ก็รู้ว่าตัวเองเป็นเด็กที่ไม่มีพ่อแม่

ท่านแม่ตายตั้งแต่เขาอายุยังเล็ก ท่านพ่อถูกเนรเทศไปที่เจียงหนาน ตระกูลเฟิงมีแต่ความระแวงต่อเขา ทุกคนที่พบเห็นต่างก็หลบหลีกราวกับเขาเป็นผี

แต่ครอบครัวของท่านตากลับห่วงใยและรักใคร่เขามาก แต่ที่สุดก็เป็นลูกหลานของตระกูลเฟิง ไม่สามารถอาศัยอยู่ในตระกูลจวงได้

ดังนั้นในสิบปีที่ผ่านมา เขาเติบโตขึ้นมาอย่างทุลักทุเลตัวคนเดียว จากเด็กไร้เดียงสากลายเป็นผู้ใหญ่ ค่อยๆรู้ว่าทำไมตัวเองจึงถูกคนอื่นรังเกียจ

ตอนที่ยังเด็กไม่รู้ความ เขาเคยโทษท่านพ่อ และเคยโทษท่านแม่ ทำไมจึงให้กำเนิดตนเอง

เขาก็รู้สึกสับสนกับสถานะของตนเองเช่นกัน กระทั่งสงสัยว่าตนเองไม่ใช่ลูกของพ่อแม่ และไม่ใช่ชาวฮั่นอย่างแท้จริง ไม่ยอมรับตัวเองด้วยความเศร้าหมองอยู่ระยะหนึ่ง

แต่ท่านตากล่าวกับเขาด้วยสายตาแน่วแน่ว่า “ไม่ หยางเอ๋อร์ ไม่ว่าเจ้าจะมีหน้าตาอย่างไร เจ้าก็เป็นชาวฮั่น เป็นเลือดเนื้อที่แม่เจ้าตั้งครรภ์สิบเดือนและให้กำเนิดมา ตระกูลเฟิงสงสัยในจุดนี้ตลอดมา แต่นี่ก็เป็นความจริงที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้”

“แม่ของเจ้าตั้งแต่เกิดจนแต่งงาน ชาตินี้ไม่เคยออกไปจากเมืองหลวงเลยแม้แต่ก้าวเดียว เขาตั้งครรภ์และให้กำเนิดเจ้าอย่างไร คนข้างกายต่างก็รู้ดี”

“ทำไมตระกูลเฟิงจึงได้ดื้อดึงจะขุดร่างของแม่เจ้าขึ้นมา ทำการหยดเลือดนับญาติครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นเป็นเพราะว่าในใจพวกเขารู้ดี แม่เจ้าไม่มีทางเป็นชู้กับชาวทูเจวียอย่างแน่นอน”

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ