เฟิงหยางเดาเจตนาการมาเยือนของนางเสี่ยวหยางไม่ถูก เก็บสายตาเอ่ยเสียงเรียบว่า “ฮูหยินใหญ่อย่าเข้าใจผิด เพียงแค่รู้สึกว่าให้ท่านทำงานของบ่าวรับใช้ดูจะไม่เหมาะสมเท่านั้นเอง”
หลังจากนั้น เขาก็เหลือบไปมองบริเวณลานบ้านด้วยสีหน้าราบเรียบ ประตูห้องเปิดกว้าง ยืนพูดคุยกับนางเสี่ยวหยางอยู่หน้าประตูเช่นนี้
หิมะถูกลมยามค่ำคืนพัดพาเข้ามาในห้อง หนาวจนทำให้นางเสี่ยวหยางอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้านขึ้นมา
“คุณชายใหญ่ ข้างนอกหนาวมาก ท่านเปิดประตูยืนรับลมยามค่ำคืนทำไม ระวังจะไม่สบาย รีบมากินบัวลอยต้มเหล้าหอมหมื่นลี้ที่ยังร้อนๆอยู่ดีกว่า”
นางตำหนิเฟิงหยางเสียงอ่อน ใต้แสงไฟรำไรทำให้ใบหน้าดูอ่อนโยนดุจสายน้ำ เห็นถึงร่องรอยของใบหน้าถูกตบแต่งมาอย่างเลือนราง
เฟิงหยางยิ้มให้กับนางเสี่ยวหยางก่อนจะพูดว่า “ฮูหยินใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าอยู่ที่ชายแดนตลอดปี ชินกับอากาศหนาวเช่นนี้แล้ว คืนนี้ในห้องก่อเตาถ่านอบอุ่นเช่นนี้ กลับทำให้รู้สึกไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่ เพิ่งอาบน้ำเสร็จยังรู้สึกร้อนอยู่ ยืนตากลมตรงนี้รู้สึกสบายหน่อย”
“แต่ฮูหยินใหญ่ไม่ได้หนังหนาหยาบกระด้างเหมือนผู้ชายอย่างข้าอย่างไรเสียก็ รีบกลับไปพักผ่อนเป็นเพื่อนท่านพ่อเถอะ อย่าหนาวจนไม่สบาย”
เขาปล่อยให้ลมเย็นพัดโชยเข้ามาอยู่เช่นนี้ ริมฝีปากของนางเสี่ยวหยางสั่นเล็กน้อย รู้สึกว่าใบหน้ารูปไข่ที่อ่อนนุ่มของตัวเองถูกพัดจนแข็งไปแล้ว
นางโมโหอยู่ในใจเงียบๆว่าเฟิงหยางฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจบรรยากาศ
แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็หาข้ออ้างที่จะอยู่ต่อไม่ได้ บวกกับลมพัดเย็นเกินไป และไม่มีจิตใจที่จะแสร้งทำเป็น”เขินอาย”อีกต่อไป รีบใช้เสื้อคลุมห่อตัว
“เช่นนั้นข้าก็ไม่รบกวนคุณชายใหญ่แล้ว ท่านรีบนอนเถอะ อย่าเอาแต่รับลมเย็นสบาย”
สีซอให้ควายฟังเปล่าๆ นางเสี่ยวหยางจากไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก สายตาจ้องมองไปทั่วเรือนด้านข้างอย่างไม่ค่อยสำรวม จู่ๆสายตาก็หยุดนิ่งจ้องเขม็ง สายตามองไปยังมีดสั้นที่ประดับอัญมณีสีแดงซึ่งว่างอยู่บนแท่นวางอาวุธหน้ากำแพง มีความประหลาดใจวาบผ่าน
เห็นนางที่จู่ๆก็ไม่เคลื่อนไหว เฟิงหยางถามอย่างใจเย็นว่า “ฮูหยินใหญ่”
นางเสี่ยวหยางได้สติกลับมา รีบยิ้มให้เขา “ไม่มีอะไร ถูกมีดสั้นที่กำแพงเล่มนั้นสะดุดตา ของสวยงามเช่นนี้ เห็นลวดลายสลักแล้วเหมือนจะเป็นของที่ได้รับพระราชทานมา คงจะเป็นรางวัลที่ฮ่องเต้มอบให้คุณชายใหญ่ ตอนที่เข้าวังเมื่อวานกระมัง”
“เป็นของที่เพื่อนเก่าให้ไว้นานแล้ว” เฟิงหยางส่ายหน้า ครั้งนี้ออกปากไล่แขกโดยไม่อ้อมค้อม “ฮูหยินใหญ่ ข้าอยากจะรีบพักผ่อนแล้ว เชิญท่านกลับเถอะ”
มีดสั้นนั้นเดิมทีไม่เคยห่างกาย แต่พรุ่งนี้เขาต้องไปกราบไหว้หลุมศพท่านแม่ ไม่เหมาะสมหากจะพกสิ่งของมีคมที่เคยเปื้อนเลือดแล้วไปด้วย ดังนั้นจึงได้วางเอาไว้บนแท่นวางอาวุธ
ครั้งนี้นางเสี่ยวหยางไม่ได้อืดอาดเสียเวลาอีก หลังจากพูดจาเป็นห่วงสองสามประโยคก็จากไปอย่างรู้กาลเทศะ
รอจนกระทั่งเงาร่างของนางหายไปแล้ว เฟิงหยางก็ยกบัวลอยต้มเหล้าหอมหมื่นลี้ขึ้นมาดูแวบหนึ่ง เททิ้งที่ใต้ต้นไม้ในลานบ้าน
……
อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากที่นางเสี่ยวหยางกลับไปที่เรือน ก็กลับไปยังเรือนด้านข้างทางตะวันตกอย่างเงียบเชียบ
ภายในห้อง ลูกชายอายุหนึ่งขวบกำลังหลับสนิท ยังมีแม่นมวัยกลางคนคนหนึ่งดูแลอยู่ข้างๆ
นางดูเหมือนจะเป็นที่โปรดปรานของรองเสนาบดีเฟิง แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งสองแยกห้องกันนอนตลอดมา มีเพียงเวลาที่อีกฝ่ายต้องการ จึงจะมาที่เรือนด้านข้างฝั่งตะวันตก
แม่นมเห็นนางแล้วก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “ฮูหยิน ทำไมท่านจึงมาเร็วเช่นนี้”
นางเสี่ยวหยางถอดเสื้อคลุมออก นั่งลงหน้ากระจกด้วยสีหน้าคาดไม่ถึง เอาผ้าเช็ดหน้าที่ชุบน้ำแล้วเช็ดแป้งบนใบหน้า “อย่าเอ่ยถึงเลย ส่งสายตาให้กับคนตาบอด ทำไปโดยไร้ประโยชน์”
นางกดเสียงลงต่ำ สบถด่าเฟิงหยางด้วยความโกรธที่เขาไร้ความสุนทรีย์ ตนเองเตรียมตัวอย่างดีมาครึ่งค่อนวัน แต่กลับต้องคว้าน้ำเหลว
แม่นมได้ยินเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “เขาไม่ติดเบ็ดแล้วจะทำอย่างไรดี”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......