หลังสิ้นสุดงานเลี้ยงแต่งงานของตระกูลเฟิง ตอนที่พวกอวิ๋นหลิงเดินทางกลับตำหนักบูรพา ก็ดึกมากแล้ว
สระน้ำอุ่นที่อยู่หลังตำหนักบรรทมได้เตรียมน้ำร้อนไว้ตั้งนานแล้ว นางแช่อยู่ในสระน้ำอบอุ่น ความคิดกลับยังคงหยุดอยู่ที่จวนเฟิง
“คืนนี้ท่านกับเฟิงหยางนั่งร่วมโต๊ะกัน ได้ข่าวคราวอะไรบ้างหรือไม่"
นางหมายถึงอดีตที่เกี่ยวกับเฟิงหยางและเจ้าของร่างเดิม
เซียวปี้เฉิงช่วยนางสระผม ส่ายหน้าพลางพูดว่า “ข้าเกรงว่าจะพูดผิดจนทำให้จับได้ ทำให้เขารู้สึกว่าเจ้าในตอนนี้น่าแปลกมาก ก็เลยไม่ได้เอ่ยถึงเลยแม้แต่คำเดียว”
ที่จริงเขาเองก็อยากรู้มากว่าระหว่างทั้งสองคนมีที่มาที่ไปอย่างไร แต่เกี่ยวพันไปถึงเรื่องราวเจ้าของร่างเดิมของอวิ๋นหลิง เขาจึงค่อนข้างระมัดระวังและรอบคอบ
อวิ๋นหลิงได้ยินเช่นนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวออกมา
เซียวปี้เฉิงเห็นนางราวกับมีเรื่องในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้าอยากจะรู้มากหรือ”
“อืม......ข้าสามารถรับรู้ได้ถึงความหวังดีและความซาบซึ้งใจอย่างมากที่เขามีต่อข้า กระทั่งความสนิทสนม” อวิ๋นหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยอย่างลังเลว่า “เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่า ความหวังดีและความซาบซึ้งใจนี้ มีมากน้อยแค่ไหนที่เป็นเพราะข้า หรือมีมากน้อยแค่ไหนที่เป็นเพราะฉู่อวิ๋นหลิงคนเดิม”
“ถ้าหากความรู้สึกเหล่านี้ที่เฟิงหยางแสดงต่อข้า ล้วนมีพื้นฐานมาจากฉู่อวิ๋นหลิงคนเดิม แต่ข้ากลับไม่รู้เลยว่าระหว่างพวกเขาสองคนมีเรื่องราวอะไรกันแน่ นี่ทำให้ข้ารู้สึกกระดากใจมาก......ไม่รู้ว่าท่านจะเข้าใจความหมายของข้าหรือไม่”
ความรู้สึกประหลาดเช่นนี้ ภายใต้เหตุการณ์ที่จับพลัดจับผลู นางได้รับและสืบทอดความรักจากครอบครัวและมิตรภาพที่ไม่ใช่ของนาง
ไม่ถึงกับรู้สึกผิดในใจ เพราะอวิ๋นหลิงไม่เคยคิดว่านาง”ยึดครอง”หรือ”แทนที่” เจ้าของร่างเดิม เพราะนางไม่ใช่ปีศาจที่มีเจตนาร้ายจะเข้ายึดครองร่างกายของคนอื่น
จากจุดเริ่มต้นที่ทะลุมิติมา นางก็มีสถานะเป็นอวิ๋นหลิงและมีชีวิตอยู่ต่อเรื่อยมา สำหรับรัฐทายาทผู้เฒ่าและคนหน้าซื่อใจคดอย่างฉู่อวิ๋นหานก็ไม่ถึงขั้นเกลียดชัง สำหรับนางเฉินที่เป็นแม่และท่านปู่เหวินกั๋วกงก็บอกไม่ได้ว่าสนิทชิดเชื้อกัน
เหล่านี้ล้วนเป็นความจริง เพราะนางอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางเลือก รับช่วงต่อความรู้สึกและสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของคนอื่น
แต่ที่อวิ๋นหลิงปกป้องนางเฉิน เพราะนางเฉินดีกับนาง ช่วยจัดการกับฉู่อวิ๋นหาน และก็เป็นเพราะอีกฝ่ายมีเจตนาที่ไม่ดีต่อนาง
เรื่องที่ทำลงไปเหล่านั้น ไม่เคยทำเพื่อแก้แค้นแทนฉู่อวิ๋นหลิงคนเก่า ยิ่งไม่ได้ใช้ร่างกายของนางเพื่อเป็นการชดเชย
อวิ๋นหลิงแยกตัวเองกับเจ้าของร่างเดิมได้อย่างชัดเจนตลอดมา ความสัมพันธ์ของนางกับเจ้าของร่างเดิมนั้นง่ายดายมาก หญิงสาวโชคร้ายคนหนึ่งจากโลกนี้ไปด้วยความเสียใจมากมาย ส่วนอีกคนก็มีโชคชะตาที่บังเอิญได้รับชีวิตใหม่ในร่างกายของนาง
แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ระหว่างที่อวิ๋นหลิงคลุกคลีกับนางเฉิน และพวกตงชิง พวกนางได้ข้ามขั้นการทำความรู้จัก ไปอยู่ในขั้นที่สนิทสนมกันในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อก่อน อย่างน้อยนางก็ยังสามารถอาศัยความทรงจำในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พื้นฐานของสองฝ่าย นำมาใช้ในการตัดสินใจที่กำหนดท่าทีและวิธีการอยู่ร่วมกับอีกฝ่าย
แต่เฟิงหยางนั้นไม่เหมือนกัน อวิ๋นหลิงไม่มีความทรงจำของเขาเลยแม้แต่น้อย การสูญเสียการควบคุมระยะห่างและการวางตัวเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
ในเวลาเช่นนี้ ยากมากที่เซียวปี้เฉิงจะไม่รู้สึกหึงหวง กลับชี้แนะนางอย่างอดทนจนน่าประหลาดใจ
“ที่จริงข้าคิดว่าเรื่องเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ”
อวิ๋นหลิงได้ยินเช่นนั้น ก็เอียงหน้ามองไปที่เขา “ไม่สำคัญ”
“ข้าเข้าใจได้ว่าทำไมเจ้าจึงรู้สึกกระดากใจ เพราะเขาใกล้ชิดกับเจ้ามากเกินไป แต่เจ้ากลับไม่อาจขัดความรู้สึกในใจ ใช้ท่าทีที่สนิทสนมในการปฏิบัติต่อเขา เป็นผลทำให้รู้สึกกังวลเมื่ออยู่ด้วยกัน แต่ว่า......ฉู่อวิ๋นหลิงกับเขาเป็นเพื่อนกันสมัยเด็ก ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเป็นเพื่อนระหว่างเจ้ากับเขา ไม่ใช่หรือ”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นคนที่ทำยาถอนพิษขึ้นมาก็คือเจ้า ส่งหน้าไม้ไปที่ชายแดนก็คือเจ้า ไม่ว่าเฟิงหยางจะรู้จักกับฉู่อวิ๋นหลิงหรือไม่ ก็ไม่กระทบความซาบซึ้งใจที่เขามีต่อเจ้า”
เซียวปี้เฉิงยิ้ม “ดังนั้นแท้ที่จริงแล้ว ข้าไม่ได้รู้สึกว่าพวกเจ้าเป็นคนแปลกหน้ากัน แต่เป็นเพื่อนที่ไม่เคยมีโอกาสพบหน้าและพูดคุยกัน”
เขาสระผมให้อวิ๋นหลิงจนสะอาด หยิบผ้าที่พับไว้อย่างเรียบร้อยข้างๆขึ้นมารอง ตบศีรษะของนางเบาๆอย่างรักใคร่
แม้แต่เซียวปี้เฉิงยังมองมาที่นาง
“......หา” ตงชิงถูกสองสามีภรรยามองจนรู้สึกมึนงง “เรื่องในอดีตอะไรกัน”
อวิ๋นหลิงทำจิตใจให้สงบ ยิ้มสดใสพลางพูดว่า “ก็เรื่องสมัยเด็กของข้ากับแม่ทัพเฟิงหยาง เวลาผ่านไปนานมากแล้วลืมไปเกือบหมดสิ้น เจ้ายังจำอะไรได้บ้างลองเล่ามาให้ข้าฟังหน่อย จะได้มีอะไรพูดเวลาคุยถึงเรื่องเก่าๆ”
ตงชิงกลับไม่ได้รู้สึกสงสัย “ตอนนั้นท่านอายุยังน้อย จำไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ”
ส่วนทำไมนางจึงยังจำเฟิงหยางได้ เป็นเพราะว่าตอนเด็กๆพระชายารัชทายาทกับเฟิงหยางไปเล่นด้วยกันแล้วถูกคนอื่นพบเข้า ทำให้นางถูกโบยด้วยไม้ไผ่ ดังนั้นจึงมีความทรงจำที่ลึกซึ้งมาก
……
ตอนที่ฉู่อวิ๋นหลิงอายุหกขวบ ตงชิงเพิ่งจะอายุห้าขวบ เพิ่งถูกเลือกให้ไปรับใช้อยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่แห่งจวนกั๋วกงได้ไม่นาน
นางเป็นบ่าวรับใช้ที่นางเฉินเลือกมาด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่ใช้คอยปรนนิบัติคุณหนูใหญ่ ยังต้องเป็นเพื่อนเรียนและเพื่อนเล่นด้วย เพราะใบหน้าของอีกฝ่ายมีปานแดงที่น่ากลัว จึงมักจะถูกคนอื่นๆทิ้งให้อยู่คนเดียว
นางเฉินเกรงว่าลูกสาวจะโดดเดี่ยว จึงได้เลือกเด็กที่มีอายุใกล้เคียงกัน นิสัยใจกล้า มีรูปร่างลักษณะที่ดีและซื่อสัตย์เป็นเพื่อนนาง
คุณหนูใหญ่อายุหกขวบยังไม่ประสีประสาเรื่องทางโลก แม้จะรับรู้ได้อย่างเลือนรางว่าทุกคนไม่ชอบตนเอง แต่ก็มีนิสัยร่าเริงใจกว้างเข้ากับคนได้ง่าย
อย่างน้อยตอนที่ตงชิงติดตามอยู่ข้างกายนาง ทุกครั้งที่มีของว่างหรือของเล่น คุณหนูใหญ่จะไม่ลืมแบ่งให้นางหนึ่งส่วน
ที่จริงตอนเด็กๆ ในใจนางก็รู้สึกกลัวใบหน้าของคุณหนูใหญ่มาก เพียงแต่รับรู้ว่าคุณหนูใหญ่เป็นคนดีมาก ความกลัวจึงน้อยลงไปเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องที่คุณหนูใหญ่รู้จักกับเฟิงหยาง เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของราชบัณฑิตใหญ่จวงครั้งหนึ่ง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...