เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1034

หมิงซินคือชื่อก่อนแต่งงานของท่านแม่เฟิงหยางหรือนางจวง

ตอนนั้นการกำเนิดของเฟิงหยางทำให้ราชสำนักสั่นสะเทือน เพื่อเป็นการโยนความผิดเอาตัวรอด ตระกูลเฟิงผลักภาระทุกอย่างให้กับตระกูลจวงโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ทำให้ตระกูลจวงต้องเผชิญกับความกดดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

คนมากมายคาดเดาด้วยเจตนาไม่ดีว่านางจวงแอบคบชู้กับชาวทูเจวีย กระทั่งสงสัยว่าตระกูลจวงสมคบคิดกับศัตรูเพื่อขายชาติ

ชั่วขณะนั้น ลูกสาวตระกูลจวงถูกวิพากษ์วิจารณ์ ราวกับเป็นหนูสกปรกที่ใครๆก็เกลียดชัง

แต่ไม่ว่าภายนอกจะมีข้อสงสัยหรือวิจารณ์กันอย่างไร ผู้เฒ่าจวงก็ยังคงเชื่อมั่นในตัวลูกสาวว่าไม่เคยทำเรื่องใดๆที่ผิดต่อตระกูลสามีอย่างแน่นอน

เพื่อปกป้องชื่อเสียงและเกียรติของนางจวง เขาเคยคุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดิจาวเหรินเป็นเวลานานมาก เคยโต้แย้งด้วยเหตุผลในศาลต้าหลี่ เกือบจะสูญเสียตำแหน่งขุนนางไปก็หลายครั้ง

คนมากมายขอร้องให้ราชบัณฑิตใหญ่จวงเห็นแก่ตระกูลจวง ในเมื่อพระเจ้าหลวงเห็นแก่ความดีความชอบของเขา ต้องเมตตาอย่างแน่นอน

ไม่สู้ก้มหน้ายอมรับผิด ถือเสียว่าจวงหมิงซินกระทำผิด ลบชื่อนางออกจากหนังสือลำดับวงศ์ตระกูล ไม่ให้จัดงานศพเพื่อแสดงถึงการลงโทษ และให้เรื่องสงบลง

แต่ผู้เฒ่าจวงจะยอมได้อย่างไร

ลูกสาวคนโตของเขาเดิมก็ถูกใส่ร้าย ทำไมหลังจากตายไปแล้วยังต้องมารับโทษฐานที่ไม่บริสุทธิ์และไม่กตัญญูอย่างไม่ยุติธรรมอีก

เขาไม่ได้ทำตาม ดึงดันจะแตกหักกับตระกูลเฟิง ที่สุดก็พยายามจนได้มาซึ่งบทสรุปของดคีที่ไม่สามารถสรุปได้ให้กับนางจวง ถือว่ารักษา”ความ”บริสุทธิ์”ของนางเอาไว้ได้อย่าง

แต่บทสรุปที่ไม่มีข้อสรุป กลับไม่สามารถปิดกั้นลมปากของผู้คนได้

แม้คนรอบข้างจะไม่เอ่ยถึง ลูกสาวตระกูลจวงก็ถูกแอบคาดเดาและวิจารณ์ลับหลังต่างๆนานาอยู่หลายปี

ตอนนี้ ในที่สุดผู้เฒ่าจวงก็รอจนได้รับรู้ความจริงที่ชัดเจน คนแก่อายุเจ็ดสิบกว่านั่งอยู่บนเก้าอี้ ร้องไห้ออกมาราวกับเด็ก

“พระชายารัชทายาท ลูกข้าบริสุทธิ์ ลูกช้าเป็นคนบริสุทธิ์”

“องค์รัชทายาท ท่านได้ยินหรือไม่ หวู๋ซินไต้ซือบอกเอง ลูกข้าบริสุทธิ์ นางไม่ได้คบชู้กับชาวทูเจวีย หยางเอ๋อร์ก็ไม่ใช่ลูกของคนเลวทรามต่ำช้า”

ผู้เฒ่าจวงร้องได้อย่างเจ็บปวดใจ จับมือของเซียวปี้เฉิงเอาไว้แน่น เดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะ สะอื้นและพึมพำไม่หยุด

“หมิงซินไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด นางแต่งงานเข้าตระกูลเฟิงเดือนที่สองก็ถูกตรวจพบว่าตั้งครรภ์แล้ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมานางก็อยู่ภายใต้การดูแลของบ่าวรับใช้เพื่อบำรุงครรภ์ทุกวัน แม้แต่ประตูจวนก็ไม่ได้ก้าวออกมาแม้แต่ก้าวเดียว กระทั่งหยางเอ๋อร์คลอด......ทั้งๆที่มีความจริงวางอยู่ตรงหน้า ทำไมตระกูลเฟิงจึงได้สงสัยในตัวนางอย่างโหดเหี้ยม......ทำไมจึงทำเช่นนั้น”

เขาน้ำตาไหลพรากพลางบอกเล่า ราวกับเด็กคนหนึ่งที่ร้องไห้และฟ้องร้องด้วยความน้อยใจ แฝงไปด้วยความเจ็บปวดและเคียดแค้นที่บรรยายไม่หมด

เซียวปี้เฉิงนั่งฟังอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่านางจวนนั้นบริสุทธิ์

ตามสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าจวงได้เล่ามา หลังจากที่นางจวงแต่งงานกับรองเสนาบดีเฟิงแล้วก็ตั้งครรภ์ทันที อีกฝ่ายไม่มีโอกาสที่จะคบชู้กับชาวทูเจวียได้เลย

“ล้วนโทษข้าที่ตอนนั้นไม่ควรเห็นด้วยกับการแต่งงาน มิเช่นนั้นนางก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพที่น่าเศร้านางสงสารเช่นนี้ องค์รัชทายาท......ข้ารู้สึกแค้นในใจ ข้าน้อยใจจริงๆ......”

พูดถึงตรงนี้ เขามองไปทางอวิ๋นหลิงและเซียวปี้เฉิงด้วยสายตาวิงวอน ว่าแล้วก็จะคุกเข่าลง

“องค์รัชทายาท พระชายารัชทายาท รบกวนท่านทั้งสองช่วยข้าให้ถึงที่สุดด้วยเถอะ ตามข้าไปที่บ้านตระกูลเฟิงเพื่อเผชิญหน้า ข้าจะซาบซึ้งใจอย่างหาที่สุดมิได้”

เซียวปี้เฉิงรีบประคองเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “ท่านผู้เฒ่า อย่าคำนับเด็ดขาด เฟิงหยางกับข้าเดิมก็เป็นเพื่อนกัน เรื่องสำคัญเช่นนี้พวกข้าย่อมไม่มีทางนิ่งดูดายแน่”

อวิ๋นหลิงปลอบใจเขาอย่างเป็นห่วงว่า “เดิมทีพวกเราจะไปหาเฟิงหยาง สองสามวันนี้เขาไปกราบไว้มารดาที่เขาหานซาน พ่อบ้านจวนเฟิงบอกว่าจะกลับเมืองหลวงในช่วงค่ำ ท่านผู้เฒ่าอย่าใจร้อน ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งจึงจะหนุนหลังพวกเขาได้”

มองดูสองสามีภรรยาที่อยู่ทั้งซ้ายและขวา ผู้เฒ่าจวงรู้สึกทั้งซาบซึ้งใจและโล่งใจ ในดวงตาอดไม่ได้ที่จะมีน้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง

“พระชายารัชทายาท ข้าต้องขอบคุณท่านที่ไม่ได้ปฏิบัติต่อหยางเอ๋อร์เหมือนกับคนพวกนั้น กระทั่งขอคำชี้แนะในเรื่องชาติกำเนิดของเขากับหวู๋ซินไต้ซือเป็นพิเศษ......ตอนที่เขาอยู่ในจวนแล้วถูกรังแก เป็นท่านที่ออกหน้าชี้ตัวคนทำผิด และวันนี้ยังช่วยหยางเอ๋อร์ถามหาความจริงที่บริสุทธิ์ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของหยางเอ๋อร์ และเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลจวงของพวกเรา”

มองดูชายชราที่สายตาเต็มไปด้วยความใจดีมีเมตตา อวิ๋นหลิงยิ้มบางๆ หวนนึกถึงเรื่องเก่าๆ นางเอ่ยเสียงอ่อนโยนแทนเจ้าของร่างเดิม “ท่านผู้เฒ่า ท่านพูดจาหนักเกินไปแล้ว ข้าไม่ใช่ผู้มีพระคุณของเขา ข้าเป็นแค่เพื่อนของเขา”

“ท่านซาบซึ้งใจที่ข้าไม่ใช้สายตาประหลาดมองเขา แล้วทำไมข้าจะไม่ซาบซึ้งใจที่ตอนนั้นเขาไม่ได้รังเกียจใบหน้าเดิมของข้าเล่า”

ในขณะที่นางหวนนึกถึงความทรงจำทั้งหมด เฟิงหยางเคยให้กำลังใจและปลอบใจฉู่อวิ๋นหลิงหลายครั้ง แม้ว่าเขาที่อายุยังน้อยจะพูดจาที่มีเหตุผลจนซึมซับเข้าไปในส่วนลึกของจิตใจไม่ได้ แต่เขากลับใช้การกระทำยืนยันว่าตัวเองชอบสาวน้อยคนนี้มากจริงๆ

ถ้าหากฉู่อวิ๋นหลิงยังไม่ลืมเพื่อนเล่นในสมัยเด็กคนนี้ บางทีโลกของนางก็คงไม่มืดมนขนาดนั้น

ไม่ว่าอย่างไร ความรู้สึกเสียใจที่อยู่ตรงหน้านี้ อวิ๋นหลิงยินดีมากที่จะชดเชยให้พวกเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ