เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1035

ภายใต้การปลอบใจของอวิ๋นหลิงกับเซียวปี้เฉิง อารมณ์ของผู้เฒ่าจวงก็ค่อยๆสงบลง

ใกล้เที่ยงแล้ว เขาให้ห้องครัวจัดเตรียมอาหารและเหล้าชั้นดีรับแขก ตนเองกลับไปที่โถงบรรพบุรุษ เอาหนังสือลำดับวงศ์ตระกูลที่บันทึกต้นกำเนิดและชื่อของบรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนออกมา

รอจนกระทั่งถึงช่วงค่ำ เขาจะเดินทางไปยังจวนเสนาบดีเฟิงพร้อมกับสองสามีภรรยารัชทายาท เพื่อจบเรื่องราวยี่สิบกว่าปีก่อน

แต่หลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จไม่นาน ชายหนุ่มรูปร่างกำยำ ใบหน้าและศีรษะกลมมน เหมือนบ่าวรับใช้ก็พุ่งเข้ามาในจวนจวงด้วยท่าทีร้อนอกร้อนใจ

“แย่แล้วแย่แล้ว ท่านผู้เฒ่า แม่ทัพกับรองเสนาบดีเฟิงทะเลาะกัน รุนแรงมากด้วย ถึงขั้นจะตัดขาดความสัมพันธ์ ท่านรีบไปดูเถอะ......”

คำพูดร้อนรนของหนุ่มน้อยตะโกนได้เพียงครึ่งเดียว พอมองเห็นเซียวปี้เฉิงที่นั่งอยู่หน้าโถง ก็อ้าปากตาค้างทันที ประโยคที่ยังพูดไม่หมดติดค้างอยู่ที่ลำคอ

“จิ้ง องค์จิ้งอ๋อง......เอ่อไม่ใช่ องค์รัชทายาท แค่กๆ......ทำไมท่านจึงมาอยู่ที่นี่”

เซียวปี้เฉิงเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะจำอีกฝ่ายได้ เอ่ยอย่างประหลาดใจว่า “เจ้าคือ......สือโถ่วหรือ เมื่อครู่เจ้าว่าอะไร ตระกูลเฟิงเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว”

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่า”สือโถ่ว” เซียวปี้เฉิงกับเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไรกัน

หลายปีที่อยู่เมืองสุย สือโถ่วก็เหมือนกับลู่ฉี เป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาที่รู้ใจของเขา

หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา จำเป็นต้องกลับมารักษาตัวที่เมืองหลวง จึงพาลู่ฉีที่ซื่อบื้อมาด้วย และได้ทิ้งสือโถ่วที่ฉลาดกว่าไว้ให้เฟิงหยางใช้งาน ตอนนี้สือโถ่วได้กลายเป็นผู้ติดตามคนสนิทของเฟิงหยางไปแล้ว

อวิ๋นหลิงหันไปมองชายหนุ่มคนนั้น “แม่ทัพเฟิงหยางกลับมาแล้วหรือ”

แค่แวบแรกที่เห็นสือโถ่วก็รู้แล้วว่าผู้หญิงที่งดงามคนนี้คือพระชายารัชทายาท เขาเคยเห็นอีกฝ่ายในงานเลี้ยงแต่งงาน

คิดไม่ถึงว่าสองสามีภรรยาจะอยู่ที่จวนของผู้เฒ่าจวง เขาเหมือนกับกลืนแมลงวันเข้าไปติดอยู่ที่ลำคอ พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

ผู้เฒ่าจวงขมวดคิ้วเร่งเร้าเขา “หยางเอ๋อร์กับรองเสนาบดีเฟิงทะเลาะกันอย่างนั้นหรือ”

“เอ่อ......”

สือโถ่วมองไปยังเซียวปี้เฉิง แล้วก็มองอวิ๋นหลิง หน้าผากมีเหงื่อเม็ดเล็กๆผุดออกมา ไม่รู้ว่าควรจะเปลี่ยนคำพูดอย่างไรดี

เซียวปี้เฉิงขมวดคิ้วพลางพูดว่า “สือโถ่ว ทำไมจู่ๆเจ้าจึงกลายเป็นคนอ้ำอึ้งไปเสียแล้ว มีเรื่องอะไรยากจะเอ่ยปาก ถ้าเจ้าไม่พูด พวกเราจะไปดูด้วยตัวเอง”

สือโถ่วรีบโบกมือ “แค่กๆๆ ข้าพูดข้าพูด แต่ว่าองค์รัชทายาททรงอย่ากริ้วอย่างเด็ดขาด ล้วนเป็นการคาดเดาอย่างเหลวไหลของคนอื่น และไม่มีเจตนาจะล่วงเกินพระชายารัชทายาท”

อวิ๋นหลิงเลิกคิ้วขึ้นมา คนของตระกูลเฟิงทะเลาะกัน เกี่ยวข้องอะไรกับนาง

เดิมก็มีความสัมพันธ์เป็นนายบ่าวกัน สือโถ่วเชื่อว่าเซียวปี้เฉิงไม่ใช่คนที่เชื่อข่าวลือง่ายๆ จึงได้เล่าสถานการณ์ของจวนเฟิงให้ฟังอย่างตรงไปตรงมา

“เรื่องมันเป็นอย่างนี้ องค์รัชทายาทน่าจะรู้ ใต้เท้าเสนาบดีซ้ายอยากจะจับคู่ท่านแม่ทัพกับคุณหนูของตระกูลถัง แต่จู่ๆเมื่อวานคุณหนูของตระกูลถังคนนั้นก็มาเยี่ยมที่จวน และไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน สีหน้าของพวกใต้เท้าเสนาบดีซ้ายต่างก็ดูไม่ดีเลยสักนิด”

“ช่วงเที่ยงของวันนี้ ท่านแม่ทัพกลับมาจากการกราบไหว้มารดาที่ล่วงลับไปแล้วที่เขาหานซาน ก็พบว่ามีดสั้นที่ตนเองวางเอาไว้ในห้องได้หายไปแล้ว......มีดสั้นเล่มนั้นเป็นของล้ำค่าที่ท่านแม่ทัพรักมาก ดังนั้นจึงได้สั่งให้พวกข้าตรวจสอบว่าคนในจวนมีใครขโมยไปหรือไม่ สุดท้ายกลับรู้ว่า ที่แท้มีดสั้นถูกใต้เท้าเสนาบดีซ้ายเอาไปแล้ว”

“ท่านแม่ทัพของให้ใต้เท้าเสนาบดีซ้ายคืนของ แต่ไม่ว่าอย่างไรใต้เท้าเสนาบดีซ้ายก็ไม่ยอม ปฏิเสธและถามถึงเหตุผล ขณะที่พูดคุยกันก็ทะเลาะกันรุนแรงมากขึ้น ตอนนั้นข้าน้อยอยู่นอกกำแพงได้ยินคำพูดโต้เถียงกัน พวกเขาบอกว่า เอ่อ......”

นางเสี่ยวหยางยิ้มอย่างเบิกบาน ในดวงตามีแววชั่วร้ายที่ทำให้รู้สึกเย็นยะเยือก “ถ้าหากเขาพอจะรู้จักดูทิศทางลมซะบ้าง ตัดสัมพันธ์พ่อลูกกับนายท่านแต่โดยดี เช่นนั้นข้าจะปล่อยเขาไปสักครั้ง ถ้าหากเขาเลือกที่จะคืนดี เช่นนั้นพวกเราก็เอาเรื่องในจวนวันนี้เปิดเผยให้คนภายนอกรู้ ไม่ช้าข่าวต้องไปถึงตำหนักบูรพาแน่ เขาไม่สามารถได้รับผลที่ดีแน่”

“ยิ่งไปกว่านั้น......เสนาบดีซ้ายเฟิงอายุมากแล้ว เขาอยากจะปกป้องเฟิงหยางก็ทำได้อีกไม่กี่ปี ตำแหน่งขุนนางของนายท่านสูงกว่าคนอื่นๆในตระกูลเฟิง ภายหน้าต้องรับช่วงต่อตระกูลเฟิงทั้งหมด เกิดเรื่องในวันนี้ขึ้นมา ในใจเขาย่อมต้องมีปม ภายหน้าคงไม่มีทางมอบทุกอย่างให้เฟิงหยาง”

แม่นมได้ยินถึงตรงนี้ คิดอย่างไรก็รู้สึกว่านางเสี่ยวหยางไม่มีทางยืนอยู่ในตำแหน่งที่แพ้แล้ว ใบหน้าก็อดไม่ได้ที่จะเผยแววลิงโลดออกมา

นางบ่นพึมพำขึ้นมาว่า “เดิมทีพวกเราแค่เดาว่าคุณชายใหญ่มีใจให้กับพระชายารัชทายาท ปรากฏว่าเขามีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้ ถือว่าเป็นการยืนยันการคาดเดาของพวกเราว่าเป็นความจริง”

นางเสี่ยวหยางทำเสียงขึ้นจมูก “ใครบอกว่าไม่ใช่เล่า ยอมที่จะตัดสัมพันธ์เพื่อเอามีดสั้นคืน บอกว่าใจเขาไม่คิดอะไรข้าก็ไม่เชื่อ เอาเป็นว่า พวกเรารอดูเรื่องดีๆอยู่ข้างๆก็พอ”

แม่นมพยักหน้าด้วยความดีอกดีใจ สายตารอคอย

คนของตระกูลเฟิงทะเลาะกันเช่นนี้ ต้องเริ่มพูดจากเรื่องเมื่อสองวันก่อน

ในวันแรกที่เฟิงหยางไปเขาหานซาน นางเสี่ยวหยางได้แอบใช้เงินจ้างคน ให้พวกเขาไปตีสนิทกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเฟิงหยางในค่ายทหาร สืบข่าวคราวเกี่ยวกับมีดสั้นเล่มนั้นไปทั่วทุกที่

มีคนกลับมารายงานว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นต่างก็บอกว่าท่านแม่ทัพให้ความสำคัญกับมีดสั้นเล่มนั้นมาก รักษาเท่าชีวิตและไม่เคยห่างกายเลย

คนในค่ายทหารก็ไม่รู้ว่ามีดสั้นเล่มนั้นมาจากไหน เพียงแต่บางครั้งก็เดาอย่างขำๆ ว่าใช่คนในใจของท่านแม่ทัพมอบให้หรือไม่

เพราะมีดสั้นที่มีความคมและใช้ประโยชน์ได้มีมากกว่าตั้งเยอะแยะ แต่ท่านแม่ทัพไม่เคยเปลี่ยนอาวุธ อีกทั้งเมื่อดูจากภายนอกแล้ว ปกติแล้วมีเพียงผู้หญิงที่จะพกมีดสั้นที่มีรูปแบบประณีตหรูหราเช่นนี้

หลังจากสืบข่าวคราว นางเสี่ยวหยางก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น จากนั้นก็เขียนจดหมายฉบับหนึ่ง หาคนแอบไปส่งให้คุณหนูของตระกูลถังอย่างลับๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ