เสนาบดีซ้ายเฟิงสีหน้าลำบากใจ เขารีบเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วกระซิบถามว่า “พระชายา ท่านทั้งสองไม่ถือสาจริงๆ หรือ”
“ถ้าเจ้าไม่คืนของให้แม่ทัพเฟิงหยางสิข้าถึงจะถือสา! พวกเราสองคนไม่ได้ด่างพร้อยอะไร เจ้าไม่ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โต ทำให้ระหว่างพวกเราเหมือนมีอะไรในกอไผ่ จนทำให้ข้านึกสงสัยว่าพวกเจ้าซ่อนเจตนาร้ายไว้หรือไม่”
อวิ๋นหลิงชำเลืองมองพวกเขาขึ้นลงหลายครั้ง แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา “ท่านเสนาบดีซ้าย ท่านจงใจใช้เรื่องนี้ทำลายชื่อเสียงของข้าใช่หรือไม่ ยุแยงให้ข้ากับรัชทายาทผิดใจกัน เพื่อล้างแค้นให้กับพี่น้องที่ก่อกบฏโทษร้ายแรงจนเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควรสินะ?”
พี่น้องที่ถูกเรียกว่าเสียชีวิตไปก่อนเวลาอันควรย่อมหมายถึงพวกเฟิงจิ่นเฉิง
เสนาบดีซ้ายเฟิงได้ยินเช่นนี้ เหงื่อเย็นก็ผุดพรายออกมาบนหน้าผาก เขาไม่กล้าจะโยนความผิดให้คนอื่น
“พระชายา ที่ท่านพูดนั้นไม่เกี่ยวข้องกันเลย! โอ้...ช่างเถอะๆ ข้าจะคืนของนี้ให้หยางเอ๋อร์ เช่นนี้ได้หรือไม่”
พูดจบ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยรองเท้า เขากวักมือเรียกพ่อบ้านด้วยสีหน้าไม่พอใจ แล้วกระซิบสองสามคำ
พ่อบ้านพยักหน้าติดๆ กัน ปาดเหงื่อเย็น แล้ววิ่งเยาะๆ ไปหยิบของในเรือนที่อยู่ข้างกัน
นางเสี่ยวหยางมองสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ท่ามกลางฝูงชน นัยน์ตาที่หลุบลงฉายแววไม่พอใจ เอาแต่ถูผ้าเช็ดหน้าในมือด้วยความร้อนใจและโมโห
ไม่ง่ายเลยกว่าจะวางกับดักมาถึงจุดนี้ ตอนนี้ใกล้จะสำเร็จแล้ว แต่บัดนี้กำลังจะแพ้ไม่เป็นท่าเพราะคำพูดไม่กี่คำของรัชทายาทกับพระชายา จะมีใครเต็มใจยอมรับเรื่องนี้ได้หรือ
อย่างไรเสียนางยังเด็กข่มกลั้นอารมณ์ไม่ได้ นางจึงพูดทันที “พระชายาโปรดระงับโทสะ พวกเราล้วนรู้ว่าทั้งท่านและคุณชายใหญ่เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ก็ห้ามคนอื่นคิดส่งเดชไม่ได้”
“แม้แต่ทหารในค่ายทหารหลายคนยังคิดว่ากริชเล่มนั้นเป็นของขวัญจากนางในดวงใจของคุณชายใหญ่ บัดนี้คุณชายใหญ่ ถึงกับยอมตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก เพื่อจะเอากริชกลับคืน หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป มันจะไม่ทำให้คนอื่นคิดไปต่างๆ นานาหรอกหรือ”
“ท่านเสนาบดีซ้ายจึงต้องปฏิบัติเช่นนี้กับคุณชายใหญ่เพื่อปกป้องชื่อเสียงของท่านไว้ ท่านเข้าใจตาเฒ่าอย่างเขาผิดไปจริงๆ”
คำพูดนี้ฟังดูเหมือนเป็นคำแก้ต่างให้เสนาบดีซ้ายเฟิง ด้วยการเน้นย้ำว่าเฟิงหยางยอมตัดความสัมพันธ์เพื่อจะเอากริชกลับคืน
เซียวปี้เฉิงที่โมโหอยู่เป็นทุนเดิม ก็ชิงพูดก่อนด้วยความโกรธอย่างเย็นชา “นางหยาง เจ้าพูดเช่นนี้หมายจะกวนน้ำให้ขุ่นหรืออย่างไร!”
ใบหน้าของนางเสี่ยวหยางซีดเผือด ใจเต้นระเร็ว ไอสังหารของคนผู้นี้ไม่ใช่สิ่งที่ฮูหยินเรือนหลังอย่างนางจะรับได้ นางจึงคุกเข่าลงทันที
“รัชทายาททรงพระปรีชา ที่ข้าพูดไปเมื่อครู่นั้นไม่มีเจตนาแต่อย่างใด”
อวิ๋นหลิงดึงแขนเสื้อของเซียวปี้เฉิง แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าทหารในค่ายทหารบอกว่ากริชนั้นเป็นของขวัญจากนางในดวงใจของแม่ทัพเฟิงหยาง”
นางถามอย่างกะทันหัน แม้แต่รองเสนาบดีเฟิงก็อดมองนางเสี่ยวหยางด้วยสีหน้าบึ้งตึงไม่ได้
นางเสี่ยวหยางชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรีบพูดอย่างสุขุม “ทูลพระชายา นี่ล้วนเป็นคำพูดของคุณหนูตระกูลถังผู้นั้น”
“จริงหรือ”
ทันใดนั้นอวิ๋นหลิงก็หัวเราะ มองนางด้วยสายตาที่นึกสนุกเล็กน้อย
“ตามที่เจ้าพูด ทหารในค่ายนี้เดาได้ว่ากริชนั้นเป็นของขวัญจากนางในดวงใจของท่านแม่ทัพ แต่กลับไม่รู้ว่าคนที่ให้ของขวัญนั้นคือข้า ส่วนคุณหนูตระกูลถังก็ไม่เคยพบหน้าท่านแม่ทัพเฟิงหยางด้วยซ้ำ แล้วนางจะรู้ว่ามีกริชเล่มนี้อยู่ได้อย่างไร”
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ในลานบ้านก็เงียบกริบ
จู่ๆ นางเสี่ยวหยางก็ไม่กล้าสู้หน้ามองอวิ๋นหลิงตรงๆ
“ควรรู้ไว้ว่าแม่ทัพเฟิงหยางเพิ่งกลับมาได้แค่สามวันเท่านั้น คุณหนูตระกูลถังก็เพิ่งมาเยี่ยมเมื่อวานนี้เอง แล้วจะมีใครเอาข่าวนี้ไปบอกนางเร็วถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”
อวิ๋นหลิงแทบจะพูดว่ามีคนกำลังบงการอะไรบางอย่างอย่างลับๆ เสนาบดีซ้ายเฟิงในลานบ้านได้ยินเข้าก็ขมวดคิ้วมุ่น
เขาถูกคุณหนูตระกูลถังข่มขู่ก่อนหน้านี้ยังโกรธอยู่ไม่น้อย แต่ตอนนี้เขาสงบลงพลางขบคิดว่าเรื่องนี้มีลับลมคมในอยู่จริงๆ
เมื่อได้สติกลับมา ก็พบว่าคนตระกูลเฟิงที่อยู่รอบข้างกำลังมองนางด้วยสายตาแปลกๆ เสนาบดีซ้ายเฟิงคล้ายมีอะไรจะพูดแต่ก็ยับยั้งไว้
“หม่อมฉันทำผิดไปแล้ว ไม่ควรคาดเดาเรื่องนี้ส่งเดช พระชายาโปรดลงโทษข้าด้วย!”
นางคุกเข่าโขกศีรษะคำนับลงกับพื้นไปทางอวิ๋นหลิง จากนั้นก้มหน้างุดโดยไม่พูดอะไร
อวิ๋นหลิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ แล้วพูดลอยๆ ว่า “ฮูหยินใหญ่ลุกขึ้นเถอะ ข้าจะไม่กล่าวหาใครโดยไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเป็นอันขาด แต่หากข้าสืบได้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ข้าจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด”
นางเสี่ยวหยางกล่าวขอบคุณก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น
เซียวปี้เฉิงและอวิ๋นหลิงรู้ใจกันดี ก้นบึ้งดวงตาฉายแววเข้าใจกระจ่างชัด เขาหมุนตัวแล้วยื่นป้ายแขวนเอวให้กับสือโถ่ว
“สือโถ่ว เจ้าไปแจ้งความแทนข้าที่ศาลต้าหลี่เดี๋ยวนี้เลย จับคุณหนูตระกูลถังในข้อหาแพร่ข่าวลือ เรื่องนี้จะต้องถูกสอบสวนจนกระจ่างถึงที่สุด”
ให้ตายเถอะ อย่าคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงง่ายๆ!
เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์รุนแรงจนถึงขั้นต้องแจ้งทางการ ในที่สุดนางเสี่ยวหยางก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้รัชทายาทโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเข้าแล้ว
แต่ความโกรธของเขาไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เฟิงหยาง แต่ไปตกอยู่ที่ทุกคนที่พูดเช่นนี้...
นางเสี่ยวหยางรู้สึกไม่สบายใจ ก้มหน้าเพราะรู้สึกละอายใจ พยายามประคองสีหน้าสงบไว้อย่างดีที่สุด
นางลอบส่งจดหมายซ่อนชื่อไปยังสายลับภายนอกจวน ขอเพียงทำลายผู้แจ้งเบาะแสจนไม่เหลือร่องรอย ก็จะสืบมาไม่ถึงตัวนาง
บรรยากาศในลานบ้านเริ่มชะงักงันไปครู่หนึ่ง ส่วนพ่อบ้านที่ได้รับคำสั่งให้ไปเอากริชก็เดินกลับมาในที่สุด

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...