พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 105

ราชสำนักต้าโจวยากจนนัก ถึงขนาดมอบรางวัลให้อวิ๋นหลิง ก็ให้ได้เพียงแค่เนื้อหมูตากแห้งประเภทนี้เท่านั้น

หลายวันก่อนงานสมรสของรุ่ยอ๋องเชิญแขกมากมาย บวกกับฝ่ายหญิงคือธิดาของท่านเจิ้นกั๋วกง จักรพรรดิจาวเหรินก็ทรงใช้เงินทองเพื่อการนี้ไม่น้อยแล้ว

เป็นลูกย่อมจะรู้ใจพ่อ เซียวปี้เฉิงมั่นใจว่าจักรพรรดิจาวเหรินคงไม่สามารถ หรือพูดให้ถูกก็คือทรงเสียดายที่ต้องจ่ายเงินก้อนโตอีก

เวินหวยหยูไม่เหมือนกับหรงฉาน หญิงสองคนนี้ยังไงก็ห้ามปล่อยปละละเลย การให้เกียรติจะต้องทำเต็มที่ พิธีพร้อมพรั่งใหญ่โตเพื่อให้คนนอกได้เห็น

แต่ความต่างอยู่ตรงที่ สิ่งที่จักรพรรดิจาวเหรินทรงทุ่มให้แก่หรงฉานนั้น สามารถเอาคืนได้เป็นสิบเท่าจากจวนเจิ้นกั๋วกง และไม่เพียงแค่ทรัพย์สินเงินทองอย่างฉาบฉวยเท่านั้น

ไม่เหมือนกับเวินหวยหยู ตระกูลเวินเหลือนางเพียงคนเดียว แม้ว่าตงหยางอ๋องจะทิ้งมรดกให้นางอยู่ไม่น้อย แต่จักรพรรดิจาวเหรินคงไม่อาจทำการฮุบทรัพย์สินของหญิงสาวที่กำพร้าเช่นนี้ได้

ฉะนั้นเงินที่ไปอยู่กับเวินหวยหยู พูดให้น่าเกลียดก็เหมือนอ้อยเข้าปากช้าง ที่ไม่มีวันคายออกมาอีก

ไม่ผิดจากที่คิด เซียวปี้เฉิงเห็นพระพักตร์จักรพรรดิจาวเหรินทรงกระตุกเล็กน้อยอย่างไม่อาจควบคุม ซ้ำยังรับสั่งไม่ออกอีก

จึงรู้สึกค่อยเบาใจลง และทูลอย่างจริงใจว่า “เสด็จพ่อ เงินเล็กน้อยก็มีความหมาย ทุกวันนี้จวนจิ้งอ๋องจะกินจะใช้ล้วนต้องอาศัยอวิ๋นหลิง แค่นี้ลูกก็ละอายมากแล้ว ไหนเลยจะกล้ามีอนุอีก!”

แม้ว่าแท้จริงแล้วจวนจิ้งอ๋องก็ไม่ได้ย่ำแย่ซักเท่าไหร่ แต่เซียวปี้เฉิงก็พยายามพูดให้ตัวเองเหมือนชายไม่เอาไหนที่เกาะเมียกินให้จงได้

“จะให้ลูกเอาเงินของอวิ๋นหลิงไปแต่งชายารองก็คงไม่ถูก แต่ถ้าจะให้ลูกแต่งงานจริง ๆ ก็ย่อมได้ ถ้าเงินก้อนนี้เสด็จพ่อทรงออกให้”

“อีกอย่างอวิ๋นหลิงมีบุญคุณต่อราชสำนักเรา ก่อนหน้านี้ลูกแต่งกับนางก็จัดงานเรียบง่าย ถ้าจะให้แต่งกับเวินหวยหยูอย่างเอิกเกริก ก็ควรจะชดเชยให้อวิ๋นหลิงด้วย ถึงจะเรียกว่าสมน้ำสมเนื้อ”

คำพูดนี้เท่ากับเล่นงานจุดอ่อนของจักรพรรดิจาวเหรินชัด ๆ ปกติท้องพระคลังมีค่าใช้จ่ายประจำปีที่แน่นอนอยู่ ส่วนใหญ่ไปกับงานเลี้ยงใหญ่น้อยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงรวมถึงพิธีเซ่นไหว้สำคัญต่าง ๆ

พักก่อนงานสมรสของรุ่ยอ๋อง ค่าใช้จ่ายก็เบิกเกินมาส่วนหนึ่งแล้ว งวดนี้จึงไม่อาจเจียดเงินให้เซียวปี้เฉิงแต่งชายารองได้อีก อย่าว่าแต่ชดเชยให้อวิ๋นหลิงเลย

จักรพรรดิจาวเหรินทรงอัดอั้นตันพระทัยยิ่งนัก แม้จะรู้ว่านี่เป็นข้ออ้างปฏิเสธของเซียวปี้เฉิง แต่ปุบปับก็ทรงไม่อาจทำอะไรเขาได้

ได้แต่ทรงถลึงตาและรับสั่งอย่างกริ้ว “แต่ละปีเจ้าก็ได้เงินปีไปไม่น้อย แล้วทำไมยังยากจนอีก เอาเงินไปทำอะไรที่ไหนหมด? ไม่มีเก็บไว้บ้างหรือไง?”

เซียวปี้เฉิงทูลตอบอย่างซื่อ ๆ ว่า “เงินส่วนที่เหลือ ลูกนำไปปลอบขวัญทหารพิการบาดเจ็บที่มาจากสนามรบ รวมถึงครอบครัวทหารที่พลีชีพด้วย”

ได้ยินดังนี้ จักรพรรดิจาวเหรินก็ทรงนิ่งเงียบไปนาน

ทรงถอนพระทัยยาว สีพระพักตร์เหนื่อยล้า พลางโบกพระหัตถ์ให้เซียวปี้เฉิงถอยออกไป

“เอาเถอะ ๆ เรื่องนี้ไว้วันหลังค่อยว่าใหม่”

เซียวปี้เฉิงแอบถอนใจเบา ๆ แต่ความหนักใจหาได้ผ่อนคลายไม่ ด้วยรู้ว่าจักรพรรดิจาวเหรินแค่พักเรื่องเวินหวยหยูไว้ชั่วคราวเท่านั้น ยังไม่ได้เลิกล้มความคิดนี้จริง ๆ

ตราบใดที่พระองค์ยังไม่ทรงเปลี่ยนความคิด ช้าเร็วก็ต้องบังคับให้เขาแต่งกับเวินหวยหยูอีก เพียงแต่รอถึงปีหน้าหรือปีถัดไปก็เท่านั้น เพราะยังไงฝ่ายหญิงก็อายุยังน้อยอยู่ รออีกปีสองปีก็ไม่เห็นเป็นไร

เซียวปี้เฉิงพกพาความในใจกลับไปยังจวนจิ้งอ๋อง ก็เป็นเวลาจันทร์อยู่เหนือหัวแล้ว

ในห้องที่เงียบสงบ อวิ๋นหลิงเก็บอาหารไว้ให้เขาเกือบครึ่งโต๊ะ พอเย็นแล้วก็อุ่นอีกหลายครั้งค่อยยกมาใหม่ จนป่านนี้ยังมีความอุ่นเหลืออยู่บ้าง

ทันทีที่ได้กลิ่นอาหาร เซียวปี้เฉิงค่อยรับรู้ถึงความหิวบ้างหลังจากไม่มีอาหารลงท้องมาทั้งวัน นั่งที่โต๊ะแล้วจึงกินอย่างตะกรุมตะกราม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ