ร่างเดิมคิดว่ารุ่ยอ๋องเป็นไม่ที่ลอยกลางน้ำ พยายามแหวกว่ายไปเพื่อคว้ามันไว้สุดชีวิต
ไหนเลยจะคิดว่าด้านหลังมีคนพายเรือเล็กอยู่ ขอเพียงหันหน้าไปมองก็สามารถหลุดพ้นจากทะเลลึกแล้ว
แสดงตะวันยามพลบค่ำฉายก้อนเมฆให้สีแดง ตอนที่เซียวปี้เฉิงกลับมาก็เห็นอวิ๋นหลิงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เช็ดต่างหูอย่างละเอียด
เขาก้าวไปนั่งด้านข้าง จากนั้นก็รินน้ำชาอุ่น มองต่างหูพร้อมกับพูดด้วยความสงสัย “ต่างหูมาจากไหน ไม่ใช่แบบที่เจ้าชอบนี่”
ต่างหูกระต่ายเล็กและน่ารัก แต่เด็กไปหน่อย เหมาะให้สาวที่ยังไม่ออกเรือนสวมใส่
หญิงสาวในงานเลี้ยงชมบุปผาย่อมอายุน้อยเป็นส่วนใหญ่ รางวัลใหญ่ย่อมเตรียมไว้สำหรับพวกดรุณีวัยแรกแย้มชื่นชอบ
อวิ๋นหลิงเก็บต่างหูไว้ในกล่อง “อันนี้เป็นของที่เฟิงหยางมอบให้ฉู่อวิ๋นหลิง สตรีผู้นี้น่าสงสาร นางคิดว่าผู้ที่ออกโรงปกป้องนางคือรุ่ยอ๋อง ดังนั้นจึงชอบรุ่ยอ๋องแบบโง่ๆมาหลายปี”
เซียวปี้เฉิงชะงักงัน จากนั้นถึงรู้ต้นสายปลายเหตุจากปากนาง
หัวใจของเขารู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย หากไม่มีเรื่องนี้ฉู่อวิ๋นหลิงจะรักเฟิงหยางไหม?
หากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างในวันนี้คงไม่เหมือนกันสิท่า?
ทว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีผู้ใดบอกกล่าวได้?
โชคชะตาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ กระทั่งนักทำนายอย่างเฟิ่งเหมียนยังมีปมที่ตัวเขาเองยังคลายไม่ออกเลย
เซียวปี้เฉิงเงียบไปสักพัก พูดไปตามความจริง “เรื่องบนโลกใบนี้ อย่างเช่นเว่ยยิงกับเสิ่นทัว ฉู่อวิ๋นหลิงกับเฟิงหยางถือว่ามีบุญแต่ไม่มีวาสนา มีวาสนาแต่ไร้บุพเพสันนิวาส”
“น่าเสียดายมาก แต่ถ้าพูดตรง ๆ ข้ารู้สึกโชคดีที่พวกเขาพลาดอีกฝ่ายไป หาไม่แล้วข้าก็จะไม่ได้เจอเจ้า หลิงเอ๋อร์”
เซียวปี้เฉิงครุ่นคิด ถ้าเกิดเฟิงหยางกับฉู่อวิ๋นหลิงไม่มีการเข้าใจผิดกัน
พวกเขาอาจจะเป็นคนเข้าใจซึ่งกันและกัน จากนั้นก็มีใจต่อกัน และกลายเป็นที่พึ่งของอีกฝ่ายภายใต้สายตาเหยียดหยามของผู้อื่น อยู่ร่วมกันจนแก่เฒ่า
ทว่าหลังคิดตรึกตรองแล้ว หากอวิ๋นหลิงไม่ปรากฏกาย พวกเขายังคงเป็นคนข้างกายพวกเขา อาจไม่ได้มีชีวิตดีอย่างที่คาดการณ์ไว้
อวิ๋นหลิงพยักหน้าเบา ๆ “ไม่ว่าอย่างไรก็ควรหวงแหนสิ่งที่มีในปัจจุบัน”
ต่างหูกระต่ายถูกเช็ดให้สะอาดแล้ว เรืองแสงอ่อน ๆ นางเตรียมกล่องไม้สะอาดมาหนึ่งอัน จากนั้นก็ล็อคเก็บไว้ด้านล่างสุด
ทั้งชีวิตฉู่อวิ๋นหลิงก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าตัวเองพลาดสิ่งใดไปบ้าง
ยังดีที่ยังมีอีกคนคอยช่วยจัดเก็บสิ่งที่นางสูญเสียไป
นับจากนี้ทุกความทรงจำจะถูกจัดเก็บเป็นอย่างดี
......
เวลาใกล้จะล่วงเลยมาถึงเดือนสามของฤดูใบใม้ผลิแล้ว
อากาศเริ่มอุ่น สิ่งมีชีวิตเขียว ๆ เริ่มทลายอุปสรรค ผุดออกจากกองหิมะ เริ่มเห็นต้นกล้าแล้ว
ช่วงนี้อวิ๋นหลิงสนใจเรื่องประวัติของกริช
เมื่อเหลืออีกสี่วันก็จะถึงวันตีพิมพ์ฉบับใหม่ เสนาบดีซ้ายเฟิงก็ไปสำนักพิมพ์มีเงินเอาแต่ใจไปประกาศชาติกำเนิดของเฟิงหยาง
คาดว่าไม่นานทั่วทั้งเมืองหลวงคงจะได้รู้ความจริง
อวิ๋นหลิงเสียดายที่โลกใบนี้ไม่มีอินเทอร์เน็ต หาไม่แล้วเรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวการค้นหาในโลกโลเชียลอันดับหนึ่งเป็นแน่
เซียวปี้เฉิงพูดอย่างมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่น”ช่วงนี้เสนาบดีซ้ายเฟิงต้องปวดหัวแน่ เมื่อวานข้าไปเจอเขาระหว่างทาง ผมเขาขาวหมดแล้ว หลังจากเอาข้อความพิสูจน์ความจริงไปโรงพิมพ์แล้ว เขาก็พารองเสนาบดีเฟิงไปไหว้ฮูหยินจวง แล้วยังต้องหาเวลาว่างไปอธิบายถึงสาเหตุการยกเลิกงานหมั้น”
ตาเฒ่าผู้นี้ทำตัวเองแท้ ๆ เท่ากับยกก้อนหินทุบเท้าตัวเอง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......