เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1060

ด้านนอกหน้าต่างยังคงมีฝนตกปรอย ๆ หิมะบาง ๆ ลอยกลางสายฝน

ภายในตำหนักอบอุ่น ยังมีกลิ่นปิ้งย่างลอยกลางอากาศด้วย

อวิ๋นหลิงนั่งพิงเก้าอี้โยกอย่างขี้เกียจ ด้านขวามีมีถังทองแดง ด้านในมีถ่านเผา ด้านบนมีไม้เสียบเนื้อแกะที่เริ่มมีน้ำมันซึมออกมา

ฮั่วถวนตั้งใจควบคุมระดับไฟไม่ให้เนื้อแกะไหม้ เมื่อทั้งสองด้านเริ่มเป็นสีเหลืองและมีกลิ่นหอมไหม้ ๆ นิดหน่อย เขาก็รีบโรยพริกกับผงเทียนขาว

ท่าทางคล่องแคล่วยิ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เพิ่งฝึกทำครั้งแรก

เมื่อมารดาร้องว่าหิวแล้วอย่างไร้แรง ฮั่วถวนก็จะรีบวางเนื้อย่างที่จานซ้ายมือของอวิ๋นหลิง ทั้งยังยื่นเข้าปากนางอย่างใส่ใจหนึ่งไม้

“หม่ามี๊ กินเนื้อ”

“เป็นเด็กดีมาก”

อวิ๋นหลิงจับแก้มฮั่วถวน เพลิดเพลินกับสิ่งที่บุตรชายทำให้

ฮั่วถวนจ้องมองนาง ท่าทางกำลังรอคำชม “หม่ามี๊ ถวนถวนย่างได้อร่อยไหม?”

“เค็มไปนิดหนึ่ง ใส่เกลือน้อยหน่อย เพิ่มพริกอีกเล็กน้อย แบบนี้ก็สมบูรณ์แบบแล้ว” อวิ๋นหลิงตั้งใจให้คะแนน ก่อนจะชมว่า “ย่างต่ออีกสองสามครั้ง โตมาก็เปิดร้านได้แล้ว”

ฮั่วถวนดีใจยิ่ง รีบยกเท้าสั้น ๆ ที่เหมือนรูปแครอทแล้ววิ่งไปย่างเนื้อต่อ

เวลานี้ด้านซ้ายมืออวิ๋นหลิงก็มีแก้วสวย ๆ เพิ่มขึ้นหนึ่งอัน

“หม่ามี๊ ดื่มน้ำก็หายเค็มแล้ว”

เสวี่ยถวนถือเครื่องดื่มเย็น ๆ ไว้ในสองมือ ด้านในมีน้ำแข็งและน้ำเชื่อมที่เขาเตรียมไว้ และยังมีผลไม้สีแดงหลายเม็ด

อวิ๋นหลิงรับมาดื่มจนหมด แล้วพูดแบบยังไม่พอ “รสชาติไม่เลว เด็กดี เอามาอีกแก้ว”

เสวี่ยถวนได้ยินก็รับแก้วกลับมา ก่อนจะเริ่มเตรียมเครื่องดื่มอีกครั้ง

เซียวปี้เฉิงกลับมาถึงตำหนักบูรพาก็เห็นพวกลูกชายปรนนิบัติมารดาที่ขยับตัวไม่ได้บนเก้าอี้

ก่อนหน้านี้จักรพรรดิจาวเหรินมาเห็นภาพนี้ในตำหนักบูรพา กล่าวว่าอวิ๋นหลิงไม่ควรใช้งานหลานชายของเขาที่เป็นถึงพระราชนัดดาของเขา

ทว่าอวิ๋นหลิงกลับพูดด้วยความจริงจังว่า “อะไรไม่ใช่เรียกใช้ เรียกว่าฝึกทักษะการเอาชีวิตรอด ชีวิตนี้พวกเขาไม่ทำอาหารได้ แต่จะต้องฝึกทำเผื่อใจในยามฉุกเฉิน หาไม่แล้วอาจต้องอดตายได้?”

จักรพรรดิจาวเหรินเถียงนางไม่ไหว ความคิดด้านการเลี้ยงลูกของเขากับอวิ๋นหลิงไม่ค่อยตรงกัน

อย่างเช่นอวิ๋นหลิงมักจะให้เด็กทั้งสองคนกวาดบ้านถูบ้านเป็นประจำ และไม่อนุญาตแม่นมกับนางกำนัลช่วยเก็บของเล่นด้วย

ถ้าเด็ก ๆ ทำได้ดี จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญกษาปณ์ทองแดง จากนั้นก็นำเหรียญกษาปณ์ทองแดงเหล่านี้แลกเป็นของเล่นใหม่หรือขนมได้

จักรพรรดิจาวเหรินไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้เถียงอวิ๋นหลิงมากนัก เพราะไม่ใช่ลูกชายเขา จุ้นจ้านมากไม่ได้

เพียงแต่เวลาเขาทนมองไม่ได้ เขาจะแอบมอบเหรียญกษาปณ์ทองแดงหรือขนมให้แก่เด็ก ๆ

ต่อมาอวิ๋นหลิงพบว่าจำนวนเหรียญกษาปณ์ไม่ตรง หลังจากสอบถามก็รู้ว่าเป็นอั่งเปาจากจักรพรรดิจาวเหริน จึงตำหนิเขาไปหลายประโยค นับแต่นั้นมาก็เปลี่ยนจากเหรียญเป็นกระดาษดอกไม้แดง

จากนั้นจักรพรรดิจาวเหรินก็ยิ่งน้อยเนื้อต่ำใจ เขาสงสารหลานชาย แต่กลับโดนตำหนิ ไร้เหตุผลสิ้นดี

ทว่าเซียวปี้เฉิงกลับไม่คิดว่าวิธีการของอวิ๋นหลิงผิด

เพราะบุตรชายมีพรสวรรค์เหนือคน ทั้งยังมีน้าเขยที่เป็นเศรษฐีอย่างกงจื่อโยว กลัวจะถูกเลี้ยงดูด้วยเงินจนเสียคน

ตอนเขาออกไปว่าราชการก็เคยเห็นเด็กรุ่นเดียวกับลูกชาย พบว่าไมได้รู้ความเท่าพวกถวน ๆ

ดูสิ เข้าเพิ่งกลับมาถึงลูก ๆ ก็ส่งเนื้อแกะย่างกับน้ำดื่มเย็น ๆ มาให้แล้ว

“ท่านพ่อลำบากแล้ว ท่านพ่อกินเนื้อ”

“ท่านพ่อดื่มน้ำ”

เซียวปี้เฉิงเข้าไปกระซิบเบา ๆ “ฮูหยินถังเป็นแม่สื่อเรื่องนี้ นางรู้ว่าถังจูซิงมีปัญหานานแล้ว แต่ไม่รู้เรื่องหลิ่วจือซู่ แต่ช่วงหลังนางสังเกตพบสิ่งผิดปกติ จึงทำเช่นนี้ นางอยากให้หลิ่วจือซู่แต่งงาน ถังจูซิงจะได้กลับตัวกลับใจ”

“บังเอิญช่วงนี้ตระกูลเว่ยก็กำลังหาคู่ให้เว่ยยิง ฮูหยินถังจึงคว้าโอกาสนี้ ไม่รู้ว่านางโน้มน้าวใจพ่อแม่หลิ่วจือซู่ได้อย่างไร”

การแต่งงานทั้งสองตระกูลนี้ ถังจูซิงล้วนเข้าแทรกไม่ได้ เขาไม่รู้สถานการณ์ของตระกูลเว่ย ดังนั้นจึงมาขอความช่วยเหลือจากเซียวปี้เฉิง

อวิ๋นหลิงได้ยินพลันขมวดคิ้ว

นางเคารพการคบอย่างอิสระของถังจูซิงกับหลิ่วจือซู่ และเข้าใจที่ฮูหยินถังไม่อาจรับความจริงนี้ได้

ทว่าจะดึงผู้บริสุทธิ์อย่างเว่ยยิงมาเกี่ยวข้องไม่ได้

เซียวปี้เฉิงเห็นนางสีหน้าไม่ดี ปลอบใจว่า “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ข้ามีประมาณได้ เช้าวันนี้ข้าเตือนเสด็จพ่อแล้ว ให้เขารีบมอบรางวัลให้เว่ยยิง”

ช่วงนี้จักรพรรดิจาวเหรินมัวแต่ยุ่งเรื่องรุ่ยอ๋อง ไม่เอาเรื่องมอบรางวัลของเว่ยยิงมาใส่ใจ จึงยืดเยื้อมาถึงครึ่งเดือน

“ขอเพียงเสด็จปากอ้าปากชมเว่ยยิงไม่กี่ประโยค แค่อ้าปากชม แต่สำหรับเว่ยยิงแล้วเท่ากับช่วยนางหลุดพ้นจากปัญหาปัจจุบันได้ ถึงเวลานั้นเวลาคุยเรื่องแต่งงาน หลิ่วจือซู่ก็จะกลายเป็นผู้ไม่เหมาะสมทันที”

หลิ่วจือซู่กับเว่ยยิง คนหนึ่งเป็นลูกภรรยาเอก คนหนึ่งเป็นลูกอนุ แต่กับตระกูลสูงศักดิ์อื่น ๆ ก็จะถือว่าเท่าเทียมกัน

ทว่าบัดนี้หลิ่วจือซู่ยังไม่ได้สร้างผลงาน ถ้าเว่ยยิงมีคุณูปการด้านการรบ การแต่งงานนี้ก็จะไม่เหมาะสม พ่อแม่ตระกูลเว่ยก็สามารถใช้เป็นข้ออ้างปฏิเสธได้

ทั้งยังช่วยเว่ยยิงกู้ชื่อเสียงได้อีกด้วย อย่างน้อยก็จะไม่ถูกคนอื่นรบกวนเรื่องการแต่งงานอีก

อวิ๋นหลิงจึงโล่งอก ชมว่า “ครั้งนี้ท่านทำถูกแล้ว”

คาดว่าวิกฤตของเว่ยยิงสามารถสะสางได้ ทว่าหลิ่วจือซู่คงต้องเจอปัญหาไม่ขาดสายแน่

นางกำลังคิดตงชิงก็มารายงานว่า

“พระชายา จวนราชบัณฑิตส่งเทียบเชิญมา ท่านแม่ทัพเฟิงหยางเชิญท่านไปเป็นแขก บอกว่าอุบาสิกาฮู่ซีอยากพบพระองค์เพคะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ