คำพูดของเซียวปี้เฉิงดังกึกก้องจนหัวใจของทุกคนในบริเวณนั้นสั่นสะท้าน
เมื่อเผชิญกับการสายตาที่เย็นชาและคมปลาบของเขา โม่อี้ซือกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว พูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “เป็น...เป็นรองเท้าที่ข้าเย็บให้เนี่ยนเอ๋อร์ไม่ผิดแน่ บางทีอาจใช้วัสดุที่ผิดไป แต่จะสงสัยว่าข้าทำร้ายเนี่ยนเอ๋อร์เพราะเรื่องนี้ได้อย่างไร”
นางทนสายตากดดันของเซียวปี้เฉิงไม่ไหว อดหันไปมององค์หญิงอี๋อันพร้อมกับน้ำตาคลอเบ้าไม่ได้
“ท่านแม่ ข้าอยู่ข้างกายท่านและเนี่ยนเอ๋อร์มาหลายปีแล้ว เคยมีความคิดชั่วร้ายกับนางตั้งแต่เมื่อไหร่ ท่านคงจะไม่สงสัยในตัวข้าเพราะเหตุนี้ใช่หรือไม่”
องค์หญิงอี๋อันไม่ตอบในทันที ดวงตาฉายแววลังเลและซับซ้อน
โม่อี้ซือดูแลเนี่ยนเอ๋อร์มาตั้งแต่เล็กๆ ก็จริง แม้แต่คนอื่นๆ ในจวนอ๋องไหวเซียงก็แอบเยาะเย้ยนางว่าเป็นสาวใช้ส่วนตัวที่มีเพียงตำแหน่งคุณหนูลอยๆ เท่านั้น
เนี่ยนเอ๋อร์กลับมาที่เมืองหลวงได้เกือบเดือนแล้ว นางก็ใส่ใจอีกฝ่ายอย่างพิถีพิถันเหมือนเมื่อก่อน ยามปกติไม่เพียงดูแลเรื่องอาหารการกินและเสื้อผ้า แต่ยังอดหลับอดนอนปักผ้าเช็ดหน้าและทำรองเท้าให้เนี่ยนเอ๋อร์ จนตัวนางเหนื่อยล้มป่วยไป
ด้วยเหตุนี้ เนี่ยนเอ๋อร์จึงเชื่อใจโม่อี้ซือเป็นอย่างมากและเชื่อฟังทุกอย่างที่นางพูด
หากเป็นเมื่อก่อน องค์หญิงอี๋อันคงจะเชื่อใจโม่อี้ซือโดยไม่ลังเล แต่การที่อีกฝ่ายเชื่อฟังมากเกินไปอย่างในทุกวันนี้ ทำให้นางเริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
นับตั้งแต่ย้ายเข้ามาในวังหลวง โม่อี้ซือก็ค่อยๆ ขี้เกียจและไม่ทำงานบ้านเอง
นางคุ้นเคยกับสมัยที่มีบ่าวรับใช้รายล้อม แม้ว่ารองเท้าของนางจะสกปรกก็จะให้นางกำนัลก้มลงไปเช็ด มือที่หยาบกร้านแต่ก่อนก็บำรุงรักษาให้ละเอียดอ่อนขาวผ่อง
องค์หญิงอี๋อันรู้ว่าโม่อี้ซือเปลี่ยนไปแล้ว
ตอนที่อีกฝ่ายใช้คำพูดไม่ดีกับนางเพื่อดึงดันจะแต่งงานกับยินถังให้ได้นั้น ก็พอรู้ว่าเด็กที่เอาใจใส่และพึ่งพาแต่นางคนนั้นได้จากไปตลอดกาลแล้ว
นางเป็นคนขี้ขลาด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านางเป็นคนโง่
หลังจากใช้ชีวิตที่ยากลำบากในจวนอ๋องไหวเซียงมาหลายปี นางได้เห็นความอบอุ่น ความเย็นชา และความแปรปรวนของหัวใจผู้คนในโลกใบนี้ จะไม่รู้ถึงความประจบประแจงทั้งหลายของโม่อี้ซือที่ล้วนมีไว้เพื่อจะรั้งอยู่ในวังหลวงต่อไปได้อย่างไร
เมื่อเห็นว่าองค์หญิงอี๋อันไม่ได้พูด โม่อี้ซือก็รู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนในใจ รู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
นางร่ำไห้ด้วยสายตาจริงใจ “ท่านแม่ โปรดให้ความยุติธรรมกับซือซือด้วย!”
องค์หญิงอี๋อันเม้มริมฝีปาก มองไปด้านข้างแล้วพูดว่า “ปี้เฉิง เจ้าพบเบาะแสอื่นๆ อีกหรือไม่”
นางไม่อยากจะเชื่อว่าโม่อี้ซือจะทำให้ผิดหวังขนาดนี้ แต่นางก็นึกถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้
เมื่อเนี่ยนเอ๋อร์มาเล่นกับโม่อี้ซือเมื่อเช้านี้ นางขอตัวเพราะป่วย แต่กลับพูดว่า ‘หายากที่ฝนข้างนอกจะหยุดตกแล้ว ไม่รู้ว่าดอกไม้ในสวนหลวงจะบานสะพรั่งดีหรือไม่’
ด้วยเหตุนี้ เนี่ยนเอ๋อร์ที่กลัวความหนาวมาโดยตลอดจึงคิดจะออกไปข้างนอก
นางต้องการเก็บดอกไม้กลับมาให้โม่อี้ซือ
เมื่อเห็นว่าองค์หญิงอี๋อันไม่ได้เชื่อใจนาง เซียวปี้เฉิงก็รู้สึกโล่งใจ
จากนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงเข้ม “เสด็จพี่ ข้าได้ตรวจสอบเรื่องราวจนกระจ่างมาก่อนแล้ว ท่านอย่าไปฟังคำไร้สาระของนาง!”
“วันนี้เนี่ยนเอ๋อร์ออกไป มีนางกำนัลทั้งหมดสามคนอยู่ข้างกายนาง ก็คือเมี่ยวชุน เมี่ยวเซี่ยและเมี่ยวชิว ข้าสอบปากคำทั้งสามคนแล้ว เนี่ยนเอ๋อร์เก็บดอกไม้กำลังจะกลับไปตำหนักโยวซิน เป็นเมี่ยวชิวที่เสนอให้อยู่อาบแดดกลางแจ้งสักพักก่อนให้อาหารปลา”
“เมี่ยวชุนบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดขององค์รักษ์ที่สนิทกับนาง เนื่องจากต้องดูแลเนี่ยนเอ๋อร์ในตำหนักโยวซิน ทั้งสองจึงไม่ได้พนกันมานานกว่าสิบวันแล้ว เป็นเมี่ยวชิวที่เสนอจะช่วยปกปิดให้ และปล่อยให้นางไปพบคนรัก”
“ส่วนเมี่ยวเซี่ย นางกำนัลคนนี้มีอาการปวดท้องและรุนแรงมากเหมือนมีร่องรอยถูกวางยานั้นเป็นเรื่องจริง วันนี้ข้าส่งคนไปตรวจอาหารของนางแล้ว นางร่วมโต๊ะกินข้าวกับคนอื่นมาตลอด ในครัวไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นกินเค้กข้าวขาวชิ้นหนึ่งก่อนออกไปข้างนอก และเมี่ยวชิวก็เป็นคนมอบเค้กชิ้นนั้นให้นางโดยอ้างว่ากินไม่หมดเสียดาย”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......