เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1070

แต่ทางด้านรุ่ยอ๋อง หลังจากฟื้นขึ้นเมื่อวานนี้ เขาก็ขอบคุณเว่ยยิง และกลับจวนอ๋อง

เมื่อหรงฉานถามว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนเสื้อผ้า รุ่ยอ๋องก็ค่อนข้างตกประหม่า เพราะได้รับการช่วยเหลือจากหญิงแปลกหน้าหลังจากตกลงไปในน้ำ

หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่น โชคดีที่ผู้คนในแคว้นต้าโจวเปิดกว้างและไม่เข้มงวดมากนัก แต่เขาก็ยังกังวลเล็กน้อยว่าหรงฉานจะรู้สึกไม่สบายใจ

แต่รุ่ยอ๋องไม่เคยโกหกเก่งเลย และก็เป็นคนตรงไปตรงมา จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้หรงฉานฟัง

หรงฉานรู้สึกกังวลทันที “เช่นนั้นเนี่ยนเอ๋อร์ไม่เป็นไรใช่หรือไม่ แล้วท่านล่ะ รู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างหรือเปล่า”

“หมอจวนบอกว่าสุขภาพท่านไม่ดี ทนความเหนื่อยล้าและความหนาวไม่ได้ ในช่วงปีใหม่เสียนอ๋องได้ตกลงไปในทะเลสาบ เท้าก้าวเข้าประตูผีไปแล้วก่อนจะฟื้นคืนชีวิต ตอนนี้น้ำในทะเลสาบไม่ค่อยอบอุ่นนัก ท่านเดินฝ่าลมฝนกลับมาจนผมเผ้าเปียกปอนไปหมดได้อย่างไร!”

หรงฉานยังคงพูดไม่หยุด รีบสั่งให้ห้องครัวต้มน้ำขิงร้อนๆ แล้วสั่งให้พ่อบ้านเรียกหมอจวนมาตรวจชีพจร

รุ่ยอ๋องเห็นว่านางไม่ได้ถามถึงแม่นางผู้นั้น ก็รู้สึกโล่งใจ แล้วก็ผ่อนคลายลง

เขายิ้มแล้วจับมือหรงฉานไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ข้ากับเนี่ยนเอ๋อร์ไม่เป็นไร ได้กินยาแก้ลมหนาวที่อวิ๋นหลิงจัดหาให้ตอยอยู่ในวังแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นได้ เจ้าไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ยามปกติก็เลี้ยงลูกลำบากอยู่แล้ว”

“จะดูแลสุขภาพแบบขอไปทีไม่ได้ ควรตรวจเพิ่มอีกนิดเพื่อความสบายใจ”

รุ่ยอ๋องได้ยินแล้วก็ไม่กล้าขัด เขาให้ความร่วมมือไปอาบน้ำร้อนอีกครั้งและดื่มน้ำขิงชามใหญ่สองชาม

หรงฉานเช็ดผมของเขาให้แห้งแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “แม่นางคนไหนที่ช่วยชีวิตท่านไว้”

“แค่ก เป็น เป็น...เป็นลูกสาวของแม่ทัพเว่ยจงเจี้ยง”

รุ่ยอ๋องหนังศีรษะมึนชาโดยสัญชาตญาณ เขาเกือบจะคิดว่าหรงฉานไม่ได้สนใจไปแล้วจริงๆ

หรงฉานเอียงหัวแล้วพูดว่า “แม่นางผู้นั้นชื่อเว่ยยิงหรือเปล่า”

“…อืม”

เมื่อเห็นว่ารุ่ยอ๋องขานตอบอย่างคลุมเครือ นางก็อดถามไม่ได้ว่า “ท่านอ้ำๆ อึ้งๆ ทำไม นางช่วยชีวิตท่านไว้ ยังไม่ให้ห้องคลังรีบเตรียมของขวัญดีๆ ไปส่งให้ตระกูลเว่ยเล่า”

“เจ้าพูดถูก ข้าลืมไปเลย”

หรงฉานพูดอย่างขบขัน “ท่านดูร้อนตัวและวิตกกังวล คงไม่คิดว่าข้าจะดีใจกระมัง”

ความลำบากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของรุ่ยอ๋อง ทันใดนั้นเขาก็พูดตะกุกตะกัก “เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ข้าย่อมกังวลว่าเจ้าจะตำหนิข้าที่ทำให้ชื่อเสียงของแม่นางผู้นั้นเสียหาย”

หรงฉานหยักโค้งมุมปากแล้วพูดอย่างอดทนว่า “ช่วงนี้แม่นางผู้นั้นกำลังโด่งดังอยู่ในเมืองหลวงพอสมควร ข้าก็ได้ยินเรื่องราวของนางมาบ้าง นางเป็นสตรีที่ให้ความสำคัญกับความรัก ความยุติธรรม กล้าหาญ และรอบรู้ ข้าเชื่อว่านางจะไม่ใช้โอกาสนี้เข้าหาเหมือนผู้หญิงบางคน”

“แต่ช่วงนี้แม่นางเว่ยกำลังจะไปดูตัว ควรหลีกเลี่ยงความสงสัยไว้ดีกว่า แค่ให้พ่อบ้านไปส่งของขวัญขอบคุณพรุ่งนี้ก็พอ ท่านจะได้ไม่ต้องไปเอง”

รุ่ยอ๋องพยักหน้า รู้อยู่แก่ใจดีว่าเรื่องการช่วยเหลือที่ตกลงไปในน้ำควรทำเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นนี้จะดีกับทั้งสองฝ่าย

หลังจากที่ทั้งสองเริ่มพูดคุย คิ้วของรุ่ยอ๋องก็ผ่อนคลายลง

“เจ้าไม่สนใจก็ดี ข้ามักจะได้ยินคนพูดกันว่าผู้หญิงในช่วงสองปีก่อนและหลังจากที่ตั้งครรภ์มีลูกจะเป็นคนที่อ่อนไหวและรอบคอบมากที่สุด ก็เกรงว่าเจ้าจะคิดมากไป”

หรงฉานจ้องมองเขาอย่างอ่อนโยน “เกรงว่าข้าจะคิดมากไป ท่านยังเอาเรื่องนี้มาบอกข้าโดยเฉพาะอีกหรือ ก็ไม่รู้ว่าท่านกลัวว่าข้าจะกลัดกลุ้มมากไปจริงๆ หรือเปล่า”

ถ้อยคำนี้ย่อมจงใจทำให้เขารำคาญ นางได้เห็นรุ่ยอ๋องเปลี่ยนแปลงไปทีละอย่างๆ ในช่วงสองปีนี้

หลังจากรับนางกลับจวนรุ่ยอ๋อง เขาก็ดูแลนางเป็นอย่างดีและให้ความสำคัญกับนางเป็นอันดับแรกในทุกเรื่อง

รุ่ยอ๋องกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “อวิ๋นหลิงกล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดระหว่างสามีภรรยาคือการซื่อสัตย์ต่อกัน ดังนั้นข้าคิดว่าถ้าไม่พูดละก็ เกิดวันหนึ่งเจ้าบังเอิญรู้เรื่องนี้ ก็อาจจะคิดมาก มิสู้ข้าบอกเจ้าเองจะดีกว่า”

หรงฉานเม้มริมฝีปาก เห็นชัดว่าอารมณ์ดีเหลือแสน แล้วแตะบนหน้าผากเขาเบาๆ ทีหนึ่ง

“ดูท่าจะเรียนรู้ก้าวหน้าไปไม่น้อยจริงๆ”

รุ่ยอ๋องเอามือปิดหน้าผากแล้วฉีกยิ้มให้นางอย่างโง่เขลา

สิ่งสำคัญที่สุดคือเฟิงหยางชมชอบแม่นางผู้นี้ เขาก็ย่อมไม่คัดค้านแต่อย่างใด

ด้วยความตื่นเต้น เฟิงหยางมาถึงจวนเว่ยตอนใกล้เที่ยง

เขาเห็นกล่องสองสามใบวางอยู่ในลานบ้าน เด็กรับใช้สองสามคนกำลังเก็บรวบรวมกล่องของขวัญเหล่านั้นตามคำสั่งของพ่อบ้าน

ขณะที่คนเฝ้าประตูที่นำทางเดินพาเข้าไปในจวน เฟิงหยางก็เห็นคู่สามีภรรยาตระกูลเว่ยที่ดูเหนื่อยล้าและอารมณ์ไม่สู้ดีนัก

เมื่อเห็นผู้มาเยี่ยม ฮูหยินเว่ยก็ทำตัวกระฉับกระเฉงต้อนรับแขก แล้วพูดกลั้วหัวเราะว่า “อุ๊ย! ลมอะไรหอบท่านผู้เฒ่าและท่านแม่ทัพพิทักษ์ภาคใต้มาถึงที่นี่”

ท่านพ่อเว่ยก็เข้ามาทักทาย แย้มยิ้มด้วยความเคารพและถามพวกเขาว่ามีธุระอันใดถึงมาที่นี่

เฟิงหยางเหลือบมองทานตาของเขา เดินขึ้นหน้าไปประสานมือคารวะ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ท่านอาเว่ย ท่านน้าเว่ย วันนี้ที่ข้ามาถึงที่นี่ ก็เพื่อสู่ขออายิงโดยเฉพาะ”

“เจ้าพูดอะไร!”

รอยยิ้มของฮูหยินเว่ยหยุดค้าง ตกใจจนทำถ้วยชาในมือหล่น

ท่านพ่อเว่ยถามด้วยความไม่เชื่อ “ท่านแม่ทัพพูดว่าอะไรนะ ท่านมาสู่ขออายิงจริงๆ หรือ”

เฟิงหยางไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้ เขาพยักหน้าแล้วพูดทวนซ้ำ “ถูกต้อง ข้าต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอายิงมาห้าปีแล้ว ชมชอบนางอย่างลึกซึ้งมาตั้งนานแล้ว ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดช่วยให้สมหวัง ชาตินี้ข้าจะไม่ทำให้อายิงเสียใจแน่นอน!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฮูหยินเว่ยอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา แล้วก็ตบต้นขาด้วยความโมโห “ท่านแม่ทัพ...ทำไมท่านไม่มาสู่ขอให้เร็วกว่านี้สักสองวันเล่า!”

เมื่อเห็นว่าคู่สามีภรรยาผู้เฒ่าทั้งสองไม่ดีใจอย่างที่คาดไว้ เฟิงหยางก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

“ท่านหมายความว่าอะไร”

ท่านพ่อเว่ยคล้ายมีอะไรจะพูด ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “...ท่านมาช้าไปหนึ่งก้าว ฝ่าบาทได้ตัดสินใจให้อายิงเป็นชายารองของท่านรุ่ยอ๋องไปแล้ว”

ได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงหยางก็แข็งค้างทันที ราวกับถูกสายฟ้าฟาดกลางวันแสกๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ