แต่ทางด้านรุ่ยอ๋อง หลังจากฟื้นขึ้นเมื่อวานนี้ เขาก็ขอบคุณเว่ยยิง และกลับจวนอ๋อง
เมื่อหรงฉานถามว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนเสื้อผ้า รุ่ยอ๋องก็ค่อนข้างตกประหม่า เพราะได้รับการช่วยเหลือจากหญิงแปลกหน้าหลังจากตกลงไปในน้ำ
หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่น โชคดีที่ผู้คนในแคว้นต้าโจวเปิดกว้างและไม่เข้มงวดมากนัก แต่เขาก็ยังกังวลเล็กน้อยว่าหรงฉานจะรู้สึกไม่สบายใจ
แต่รุ่ยอ๋องไม่เคยโกหกเก่งเลย และก็เป็นคนตรงไปตรงมา จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้หรงฉานฟัง
หรงฉานรู้สึกกังวลทันที “เช่นนั้นเนี่ยนเอ๋อร์ไม่เป็นไรใช่หรือไม่ แล้วท่านล่ะ รู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างหรือเปล่า”
“หมอจวนบอกว่าสุขภาพท่านไม่ดี ทนความเหนื่อยล้าและความหนาวไม่ได้ ในช่วงปีใหม่เสียนอ๋องได้ตกลงไปในทะเลสาบ เท้าก้าวเข้าประตูผีไปแล้วก่อนจะฟื้นคืนชีวิต ตอนนี้น้ำในทะเลสาบไม่ค่อยอบอุ่นนัก ท่านเดินฝ่าลมฝนกลับมาจนผมเผ้าเปียกปอนไปหมดได้อย่างไร!”
หรงฉานยังคงพูดไม่หยุด รีบสั่งให้ห้องครัวต้มน้ำขิงร้อนๆ แล้วสั่งให้พ่อบ้านเรียกหมอจวนมาตรวจชีพจร
รุ่ยอ๋องเห็นว่านางไม่ได้ถามถึงแม่นางผู้นั้น ก็รู้สึกโล่งใจ แล้วก็ผ่อนคลายลง
เขายิ้มแล้วจับมือหรงฉานไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ข้ากับเนี่ยนเอ๋อร์ไม่เป็นไร ได้กินยาแก้ลมหนาวที่อวิ๋นหลิงจัดหาให้ตอยอยู่ในวังแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นได้ เจ้าไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ยามปกติก็เลี้ยงลูกลำบากอยู่แล้ว”
“จะดูแลสุขภาพแบบขอไปทีไม่ได้ ควรตรวจเพิ่มอีกนิดเพื่อความสบายใจ”
รุ่ยอ๋องได้ยินแล้วก็ไม่กล้าขัด เขาให้ความร่วมมือไปอาบน้ำร้อนอีกครั้งและดื่มน้ำขิงชามใหญ่สองชาม
หรงฉานเช็ดผมของเขาให้แห้งแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “แม่นางคนไหนที่ช่วยชีวิตท่านไว้”
“แค่ก เป็น เป็น...เป็นลูกสาวของแม่ทัพเว่ยจงเจี้ยง”
รุ่ยอ๋องหนังศีรษะมึนชาโดยสัญชาตญาณ เขาเกือบจะคิดว่าหรงฉานไม่ได้สนใจไปแล้วจริงๆ
หรงฉานเอียงหัวแล้วพูดว่า “แม่นางผู้นั้นชื่อเว่ยยิงหรือเปล่า”
“…อืม”
เมื่อเห็นว่ารุ่ยอ๋องขานตอบอย่างคลุมเครือ นางก็อดถามไม่ได้ว่า “ท่านอ้ำๆ อึ้งๆ ทำไม นางช่วยชีวิตท่านไว้ ยังไม่ให้ห้องคลังรีบเตรียมของขวัญดีๆ ไปส่งให้ตระกูลเว่ยเล่า”
“เจ้าพูดถูก ข้าลืมไปเลย”
หรงฉานพูดอย่างขบขัน “ท่านดูร้อนตัวและวิตกกังวล คงไม่คิดว่าข้าจะดีใจกระมัง”
ความลำบากใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของรุ่ยอ๋อง ทันใดนั้นเขาก็พูดตะกุกตะกัก “เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ข้าย่อมกังวลว่าเจ้าจะตำหนิข้าที่ทำให้ชื่อเสียงของแม่นางผู้นั้นเสียหาย”
หรงฉานหยักโค้งมุมปากแล้วพูดอย่างอดทนว่า “ช่วงนี้แม่นางผู้นั้นกำลังโด่งดังอยู่ในเมืองหลวงพอสมควร ข้าก็ได้ยินเรื่องราวของนางมาบ้าง นางเป็นสตรีที่ให้ความสำคัญกับความรัก ความยุติธรรม กล้าหาญ และรอบรู้ ข้าเชื่อว่านางจะไม่ใช้โอกาสนี้เข้าหาเหมือนผู้หญิงบางคน”
“แต่ช่วงนี้แม่นางเว่ยกำลังจะไปดูตัว ควรหลีกเลี่ยงความสงสัยไว้ดีกว่า แค่ให้พ่อบ้านไปส่งของขวัญขอบคุณพรุ่งนี้ก็พอ ท่านจะได้ไม่ต้องไปเอง”
รุ่ยอ๋องพยักหน้า รู้อยู่แก่ใจดีว่าเรื่องการช่วยเหลือที่ตกลงไปในน้ำควรทำเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่นนี้จะดีกับทั้งสองฝ่าย
หลังจากที่ทั้งสองเริ่มพูดคุย คิ้วของรุ่ยอ๋องก็ผ่อนคลายลง
“เจ้าไม่สนใจก็ดี ข้ามักจะได้ยินคนพูดกันว่าผู้หญิงในช่วงสองปีก่อนและหลังจากที่ตั้งครรภ์มีลูกจะเป็นคนที่อ่อนไหวและรอบคอบมากที่สุด ก็เกรงว่าเจ้าจะคิดมากไป”
หรงฉานจ้องมองเขาอย่างอ่อนโยน “เกรงว่าข้าจะคิดมากไป ท่านยังเอาเรื่องนี้มาบอกข้าโดยเฉพาะอีกหรือ ก็ไม่รู้ว่าท่านกลัวว่าข้าจะกลัดกลุ้มมากไปจริงๆ หรือเปล่า”
ถ้อยคำนี้ย่อมจงใจทำให้เขารำคาญ นางได้เห็นรุ่ยอ๋องเปลี่ยนแปลงไปทีละอย่างๆ ในช่วงสองปีนี้
หลังจากรับนางกลับจวนรุ่ยอ๋อง เขาก็ดูแลนางเป็นอย่างดีและให้ความสำคัญกับนางเป็นอันดับแรกในทุกเรื่อง
รุ่ยอ๋องกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “อวิ๋นหลิงกล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดระหว่างสามีภรรยาคือการซื่อสัตย์ต่อกัน ดังนั้นข้าคิดว่าถ้าไม่พูดละก็ เกิดวันหนึ่งเจ้าบังเอิญรู้เรื่องนี้ ก็อาจจะคิดมาก มิสู้ข้าบอกเจ้าเองจะดีกว่า”
หรงฉานเม้มริมฝีปาก เห็นชัดว่าอารมณ์ดีเหลือแสน แล้วแตะบนหน้าผากเขาเบาๆ ทีหนึ่ง
“ดูท่าจะเรียนรู้ก้าวหน้าไปไม่น้อยจริงๆ”
รุ่ยอ๋องเอามือปิดหน้าผากแล้วฉีกยิ้มให้นางอย่างโง่เขลา
สิ่งสำคัญที่สุดคือเฟิงหยางชมชอบแม่นางผู้นี้ เขาก็ย่อมไม่คัดค้านแต่อย่างใด
ด้วยความตื่นเต้น เฟิงหยางมาถึงจวนเว่ยตอนใกล้เที่ยง
เขาเห็นกล่องสองสามใบวางอยู่ในลานบ้าน เด็กรับใช้สองสามคนกำลังเก็บรวบรวมกล่องของขวัญเหล่านั้นตามคำสั่งของพ่อบ้าน
ขณะที่คนเฝ้าประตูที่นำทางเดินพาเข้าไปในจวน เฟิงหยางก็เห็นคู่สามีภรรยาตระกูลเว่ยที่ดูเหนื่อยล้าและอารมณ์ไม่สู้ดีนัก
เมื่อเห็นผู้มาเยี่ยม ฮูหยินเว่ยก็ทำตัวกระฉับกระเฉงต้อนรับแขก แล้วพูดกลั้วหัวเราะว่า “อุ๊ย! ลมอะไรหอบท่านผู้เฒ่าและท่านแม่ทัพพิทักษ์ภาคใต้มาถึงที่นี่”
ท่านพ่อเว่ยก็เข้ามาทักทาย แย้มยิ้มด้วยความเคารพและถามพวกเขาว่ามีธุระอันใดถึงมาที่นี่
เฟิงหยางเหลือบมองทานตาของเขา เดินขึ้นหน้าไปประสานมือคารวะ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ท่านอาเว่ย ท่านน้าเว่ย วันนี้ที่ข้ามาถึงที่นี่ ก็เพื่อสู่ขออายิงโดยเฉพาะ”
“เจ้าพูดอะไร!”
รอยยิ้มของฮูหยินเว่ยหยุดค้าง ตกใจจนทำถ้วยชาในมือหล่น
ท่านพ่อเว่ยถามด้วยความไม่เชื่อ “ท่านแม่ทัพพูดว่าอะไรนะ ท่านมาสู่ขออายิงจริงๆ หรือ”
เฟิงหยางไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้ เขาพยักหน้าแล้วพูดทวนซ้ำ “ถูกต้อง ข้าต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอายิงมาห้าปีแล้ว ชมชอบนางอย่างลึกซึ้งมาตั้งนานแล้ว ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดช่วยให้สมหวัง ชาตินี้ข้าจะไม่ทำให้อายิงเสียใจแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฮูหยินเว่ยอยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตา แล้วก็ตบต้นขาด้วยความโมโห “ท่านแม่ทัพ...ทำไมท่านไม่มาสู่ขอให้เร็วกว่านี้สักสองวันเล่า!”
เมื่อเห็นว่าคู่สามีภรรยาผู้เฒ่าทั้งสองไม่ดีใจอย่างที่คาดไว้ เฟิงหยางก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
“ท่านหมายความว่าอะไร”
ท่านพ่อเว่ยคล้ายมีอะไรจะพูด ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าหดหู่ “...ท่านมาช้าไปหนึ่งก้าว ฝ่าบาทได้ตัดสินใจให้อายิงเป็นชายารองของท่านรุ่ยอ๋องไปแล้ว”
ได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงหยางก็แข็งค้างทันที ราวกับถูกสายฟ้าฟาดกลางวันแสกๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...