สือโถ่วหน้านิ่วคิ้วขมวด “ถ้าไม่ไปหาพระชายารัชทายาท แล้วควรจะทำอย่างไรดี”
เฟิงหยางฟังแล้วก็ได้แต่นิ่งเงียบ ตกอยู่ในภวังค์ความคิด
ตลอดเส้นทางที่กลับมา ในสมองเขามีความคิดมากมายผุดขึ้นมา
เกือบจะพุ่งไปตรงหน้าจักรพรรดิจาวเหริน บอกว่าหลายปีที่ตนเองอยู่ที่เมืองสุย เคยสัมผัสใกล้ชิดจนเกินขอบเขตของขนบธรรมเนียมกับเว่ยยิงตั้งหลายครั้งแล้ว
หรือไม่ก็ไปหาพระแก่สักคนมาช่วยเหลือ สร้างเรื่องโกหกว่าดวงชะตาของเว่ยยิงกับรุ่ยอ๋องไม่สมพงษ์กัน
แต่พอคิดดูอีกที ทั้งสองวิธีการนี้ล้วนต้องสร้างขึ้นบนพื้นฐานที่ต้องเสียสละชื่อเสียงและความบริสุทธิ์ของเว่ยยิง
เพราะถ้าหากสร้างเรื่องเกี่ยวกับดวงชะตา ย่อมไม่สามารถลงมือจากทางรุ่ยอ๋องได้ จะพูดจาเหลวไหลว่าอีกฝ่ายดวงชะตาไม่ดีไม่ได้
ในที่สุดเขาก็ปล่อยวางวิธีการที่ดูไม่สมจริงเหล่านี้ไป
ในที่สุด เฟิงหยางตัดสินใจตรงเข้าไปที่วังหลวง “ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทก็ทรงมีความคิดที่จะประทานงานแต่งงานให้ข้า เพียงแต่ยังเลือกคนที่เหมาะสมไม่ได้ ฉวยโอกาสที่ราชโองการประทานงานแต่งงานของอายิงยังไม่ลงมา ข้าจะทำเป็นว่าไม่รู้อะไร ขอรางวัลกับพระองค์ ประทานงานแต่งงานให้ข้ากับอายิง”
“หา” สือโถ่วเบิกตาโต “นี่ท่านจะชิงตัดหน้าฝ่าบาทหรือ พระองค์จะยอมหรือ”
“ไม่ว่าฝ่าบาทจะทรงเห็นด้วยหรือไม่ ข้าล้วนมีทางรับมือ ตอนนี้จำเป็นต้องรีบเข้าวัง ยิ่งเร็วยิ่งดี มิเช่นนั้นหากมีราชโองการจะไม่ทันการ”
เฟิงหยางว่าแล้ว ก็ดื่มชาในมือจนหมดแก้ว ไม่สนใจว่าเพิ่งจะนั่งลงได้ไม่นาน ก็ลุกขึ้นไปเตรียมรถม้าเพื่อออกจากจวนโดยไม่กล้าเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อครู่เขาใจเย็นลง วิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว
ความรักที่โอรสสวรรค์มีให้รุ่ยอ๋องอย่างเอนเอียง คนในราชสำนักที่มีสายตาปกติต่างก็สามารถดูออก จักรพรรดิจาวเหรินอยากจะสนับสนุนเขา เหตุผลที่แท้จริงก็เพื่ออยากจะให้ตระกูลมารดาของรุ่ยอ๋องแข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง
เฟิงหยางคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก แค่บุญคุณในการช่วยเหลือชีวิตคนตกน้ำจะสามารถทำให้จักรพรรดิจาวเหรินชื่นชอบเว่ยยิงได้อย่างไร
แต่เขาเข้าใจดี จักรพรรดิจาวเหรินหวังให้ตนเองกับรุ่ยอ๋องมีมิตรภาพอันลึกซึ้ง
ถ้าหากการแต่งงานของเว่ยยิงอาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างลูกพี่ลูกน้องเย็นชาลง กระทั่งเกิดความบาดหมางกัน จักรพรรดิจาวเหรินจะเปลี่ยนความคิดหรือไม่
เฟิงหยางไม่แน่ใจ แต่เขาก็มั่นใจอยู่หลายส่วน อย่างน้อยก็สามารถให้จักรพรรดิจาวเหรินทบทวนอย่างรอบคอบว่าควรจะประทานงานแต่งงานต่อไปหรือไม่
ไม่ว่าอย่างไร ต้องรีบขัดขวางความก้าวหน้าของการประทานงานแต่งงานก่อน
……
ระหว่างที่ความคิดปลิดปลิวไปไกล เฟิงหยางก็มาถึงพระราชวังอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เป็นเวลาหลังเที่ยงวันแล้ว เขายังไม่ได้กินข้าว แต่กลับไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด
จักรพรรดิจาวเหรินกำลังพักผ่อนอยู่ที่พระที่นั่งบำรุงฤทัย หลังจากที่ประชุมราชสำนักช่วงเช้าเสร็จแล้ว เขาก็คิดจะพักผ่อนสักหน่อย จากนั้นก็ไปที่จวนเจิ้นกั๋วกง ปรึกษาเรื่องที่จะให้รุ่ยอ๋องแต่งพระชายารองอย่างละเอียด
ปากก็บอกว่าปรึกษา แท้ที่จริงแล้วคือการเกลี้ยกล่อมชี้แนะ
ในมุมมองของเขา สองสามีรุ่ยอ๋องเคยขัดแย้งกันเล็กน้อย แต่หรงฉานก็ทรมานรุ่ยอ๋องนานแล้ว สมควรแก่เวลาที่จะปรับนิสัยแล้ว
ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะรุ่ยอ๋องถูกเสี่ยนอ๋องหลอกใช้ ถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏขายชาติ หลังจากนั้นก็ถูกแม่แท้ๆอย่างเสี่ยวเฟิงทำให้ตกที่นั่งลำบาก ทำให้ชื่อเสียงตกต่ำอย่างที่สุด เป็นที่ก่นด่าของผู้คน
ต่อหน้าตระกูลหรง ไยถึงต้องนอบน้อมถ่อมตนถึงเพียงนั้น
แน่นอนว่า ต้นเหตุที่สำคัญที่สุดก็คือนางหนูอวิ๋นหลิงที่น่ารำคาญใจคนนั้น เอาเรื่องที่พระเจ้าหลวงทรงประทานรางวัลมาปลุกปั่นเรื่องนี้
ถ้ามิเช่นนั้นละก็ ตระกูลหรงก็คงไม่มีความกล้าที่จะเอาเรื่องหย่ามาข่มขู่องค์ชายใหญ่
จักรพรรดิจาวเหรินครุ่นคิดอยู่ในใจ สองปีมานี้รุ่ยอ๋องฝึกฝนประสบการณ์ระดับรากหญ้า ทำผลงานสำเร็จมากมาย ชื่อเสียงดีขึ้นมาอีกครั้ง กระทั่งดีกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ
ตอนนี้ตระกูลเฟิงฟื้นความแข็งแกร่งขึ้นมาได้อีกครั้ง ถ้าหากตระกูลหรงยังมีท่าทีไม่พอใจต่อการแต่งพระชายารองของรุ่ยอ๋องอีก เช่นนั้นก็ไร้เหตุผล ไม่เข้าใจอะไรเลย
จักรพรรดิจาวเหรินสีหน้าแข็งกระด้าง เขาแทรกแซงการแต่งงานของขุนนางอย่างแข็งกร้าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปตรงๆว่าจะให้เว่ยยิงแต่งเป็นพระชายารองของรุ่ยอ๋อง
เขาเพิ่งจะบอกว่าชอบเว่ยยิง เขาก็พูดว่าเตรียมจะให้อีกฝ่ายแต่งงานกับรุ่ยอ๋อง คำพูดนี้ใครที่ไหนจะยินดีฟัง
ชะงักไปชั่วครู่ เขาขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆพูดว่า “เฟิงหยางเอ๋ย สำหรับเจ้าแล้วเว่ยยิงไม่เหมาะสม ตระกูลเว่ยเป็นตระกูลขุนนางเล็กๆที่ไม่มีค่าพอจะพูดถึง สถานะเช่นนี้ของนาง มากสุดก็เป็นได้แค่อนุภรรยา จะสามารถเป็นนายหญิงในเรือนด้านหลังของเจ้าได้อย่างไร”
ไม่ใช่เป็นประโยคบอกปัด จักรพรรดิจาวเหรินคิดเช่นนี้จริงๆ
สถานะของเว่ยยิง ไม่ว่าจะเป็นพระชายารองของรุ่ยอ๋องหรือว่าเป็นอนุภรรยาของเฟิงหยางล้วนพอดี ถ้าเลื่อนขึ้นไปอีกจะไม่เหมาะสม
บิดาของนางเป็นแค่ทหารองครักษ์ในกองทัพจิงอู๋ แม้จะมีตำแหน่งขุนนางขั้นที่สาม นั่นก็ยังคงเป็นแค่ทหารองครักษ์ในกองทัพจิงอู๋
กองทัพจิงอู๋ที่พูดถึง ก็คือหน่วยองครักษ์ของโอรสสวรรค์ ปกติจะรับผิดชอบปกป้องความปลอดภัยของวังหลวง อีกอย่างองครักษ์เช่นนี้ในราชวงศ์มีทั้งหมดสิบหน่วย หลังจากกระจายการควบคุมลงไป ตำแหน่งและอำนาจของตระกูลเว่ยก็ยิ่งเล็กลง
องครักษ์แค่หนึ่งหน่วย จะให้การสนับสนุนเฟิงหยางที่กำลังจะไปประจำการที่เซียวโจวได้อย่างไร
ที่เขาชอบเว่ยยิง ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากที่สองพ่อลูกคู่นี้สามารถปกป้องรุ่ยอ๋องได้
จักรพรรดิจาวเหรินพยายามเกลี้ยกล่อมเฟิงหยางให้คิดการณ์ไกลเผื่อวงศ์ตระกูล แต่คิดไม่ถึงว่าเฟิงอย่างจะมีท่าทีเด็ดเดี่ยวมาก
“ฝ่าบาท แผ่นดินกว้างใหญ่ กระหม่อมมีใจรักแค่ผู้หญิงคนเดียว ถ้าหากทรงไม่ยินดีจะประทานงานแต่งงาน ก็ขอให้ทรงเห็นแก่เกียรติของท่านตาของกระหม่อม อย่าได้ขัดขวางเรื่องนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”
“ในใจของกระหม่อม อายิงเป็นผู้หญิงที่ดีมาก ไม่มีคำว่าไม่คู่ควร ยิ่งไปกว่านั้นพระชายาอ๋องโม่ก็มีชาติกำเนิดเป็นสามัญชนทั่วไป ทรงก็เห็นด้วยที่จะให้อีกฝ่ายแต่งงานเป็นภรรยาอ๋องโม่มิใช่หรือ”
ได้ยินเช่นนั้น กล้ามเนื้อบนใบหน้าของจักรพรรดิจาวเหรินก็กระตุกขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ สีหน้ามีความอัศจรรย์ใจ
คำพูดนี้เขาไม่สามารถต่อบทได้เลย
จะบอกเฟิงหยางได้อย่างไรว่า อ๋องโม่มีโรคประหลาดคือกลัวผู้หญิง นอกจากจื่อเถาแล้วใครก็เข้าใกล้ไม่ได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...